Movie Review Previously Saved Version บันทึกความทรงจำข้ามดวงดาว (2024) ไซไฟโรแมนติกล้ำๆที่จะพาให้หลงทางไปกับความรักและความทรงจำที่ขาดหายก่อนพุ่งทะยานไปสู่ความระทึกขวัญเล็กๆแต่ไม่เล็ก ระยะหลังๆมานี้ยอมรับว่าเวลาในการดูหนังดูซีรีส์น้อยลงมากเพราะงานที่ทำมีมากขึ้นทำให้การจะเลือกดูหนังหรือซีรีส์ต้องมีปัจจัยบางอย่างซึ่งอาจไม่สามารถเห็นว่าน่าสนใจก็ลองดูเหมือนก่อน ทำให้การเลือกดูของผู้เขียนอาจจะดูเพราะนักแสดงบ่อยขึ้นอย่างที่เคยเขียนบ่นในพื้นที่นี้เพราะบางครั้งการได้ดูนักแสดงที่เราชื่นชอบก็การันตีความบันเทิงส่วนตัวได้ในระดับหนึ่ง และหนังเรื่องนี้ก็มีเหตุผลเช่นนั้นเพราเรื่องนี้ผู้เขียนดูเพราะเห็นว่าเป็นผลงานของนักแสดงสาวพราวเสน่ห์จากญี่ปุ่นยูโกะ อารากิที่ผู้เขียนติดตามเธอมาตั้งแต่ได้ดูซีรีส์ Million Yen Women (2017) หลังจากนั้นมาเห็นผลงานของเธอก็ไม่ค่อยพลาดที่จะเปิดดูอย่างล่าสุดยูโกะ อารากิได้มอบการแสดงที่ยอดเยี่ยมและเปี่ยมเสน่ห์ในบทหนักหน่วงกับหนังโรแมนติกดราม่า See Hear Love (2023) ที่เธอแสดงคู่กับยามะพี แล้วยังมีงานที่เธอมาเล่นบทเบาๆแต่ไม่เบากับบทซินเดอเรลล่าในหนังกวนๆ Once Upon a Crime (2023) จนมาถึงหนังเรื่องนี้ที่เป็นหนังที่สร้างโดยบริษัทไทยโปรดักชันโดยคนไทยที่ยังไงก็ต้องดู ในโลกอนาคตปี 2200 มนุษย์บางส่วนได้ไปอาศัยอยู่บนอวกาศที่เป็นเหมือนที่พักอาศัยในฝันและที่นั่นมีคู่แต่งงานในฝันคือนาโอกิ (ฮิเดอากิ อิโตะ) ที่เหมือนว่าจะเป็นผู้สร้างและก่อตั้งสถานที่พักบนอวกาศนี้เป็นสามี ส่วนภรรยาคือมายูมิ (ยูโกะ อารากิ) ที่เป็นช่างปั้นเครื่องปั้นดินเผาและเธอก็ดูเป็นภรรยาที่ดีอยู่กันสองคนอย่างมีความสุขบนวิมานในอวกาศ ทว่าในฝันร้ายของมายูมิกลับฝันว่าเธอถูกนาโอกิฆ่าด้วยวิธีต่างๆที่มันเหมือนจริงมากและในที่สุดเรื่องที่ว่ามันก็คือความจริงที่เธอถูกฆ่าจริงแต่เธอไม่ใช่มนุษย์ ใช่แล้วมายูมิที่เห็นนั้นคือหุ่นแอนดรอยด์รูปร่างมายูมิที่ได้ถูกปลูกถ่ายความทรงจำของมายูมิเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ลงไป แต่เมื่อนาโอกิเห็นว่าหุ่นมายูมิตัวนั้นมีความผิดพลาดบางอย่างที่ไม่ใช่มายูมิคนเดิมเขาก็ทำลายทิ้ง แต่แท้จริงแล้วข้อผิดพลาดที่นาโอกิรับไม่ได้กลายเป็นเรื่องของความทรงจำของมายูมิที่ถูกปลูกถ่ายไว้ไม่เป็นอย่างที่เขาต้องการ แล้วความทรงจำนั้นกำลังตามมาหลอกหลอนนาโอกิแล้วความทรงจำที่ขาดหายไปคืออะไรแล้วทำไมมายูมิถึงต้องตาย เรียบเรื่อยในแบบญี่ปุ่นแต่เล่าเรื่องได้ละเมียดแม้จะเดินเรื่องเหมือนไปตรงๆแต่มีจุดพลิกมีอะไรให้เกินคาด แม้หนังจะอำนวยการสร้างโดยคุณเอกชัย เอื้อครองธรรมผ่านบริษัท GMM Studios International ของไทยแต่บทหนังยังเป็นของผู้กำกับเคอิ อิชิคาว่าร่วมกับ Brad Wright ซึ่งเดาว่าส่วนใหญ่เป็นของทางเคอิ อิชิคาว่าบทหนังเลยออกมาละเมียดเล่าในแบบญี่ปุ่นคือเล่าเรื่องแบบไม่รีบเร่งค่อยๆเก็บเกี่ยว แล้วการค่อยๆเก็บเกี่ยวนั้นก็เหมือนกับเดินทางเป็นเส้นตรงไม่มีอะไรหวือหวาด้วยซ้ำกับการเล่าเรื่องปัจจุบันเพื่อค้นหาอดีต เพราะเรื่องนี้คือเรื่องของความทรงจำที่ไอเดียค่อนข้างบรรเจิดว่าด้วยการปลูกถ่ายความทรงจำลงในหุ่นแอนดรอยด์เพื่อทดแทนคนที่รักที่จากไป ซึ่งจะว่าไปจะว่าใหม่ก็ใช่ที่เพียงแต่การนำเสนอให้เป็นความโรแมนติกคู่แต่งงานในฝันมันทำให้ไม่ได้คิดถึงหนังเรื่องไหนที่ผ่านมาเพราะยังไม่ชัดขนาดนั้น กระนั้นแม้จะมีจุดหมายที่เป็นเส้นตรงก็มีจุดพลิกผันมีอะไรเหนือคาดกับเรื่องความทรงจำที่ขาดหายที่มาในฉากย้อนอดีตที่อธิบายตัวเรื่องพร้อมพาเรื่องเดินไปข้างหน้าอย่างมีพัฒนาการ เปิดหัวอย่างลงท้ายอย่างได้อย่างเนียนๆพาให้หลงทางไปทางความโรแมนติกก่อนพลิกมาระทึกขวัญได้เล็กๆแต่ไม่เล็ก ถ้าจะมีอะไรให้ติคงจะเป็นที่พล็อตเรื่องไปเฉลยความน่าค้นหาของตัวบทที่คงไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น เพราะด้วยความที่ไอเดียที่เห็นชัดว่าตั้งใจมาเปิดหัวด้วยความโรแมนติกของคู่รักคู่แต่งงานหนึ่งคู่ที่อยู่บนที่พักในอวกาศ แต่ถ้ามันมีแค่นั้นจริงๆเอาจริงจะมีอะไรให้ติดตามได้อีกนอกจากความสงสัยว่าเรื่องจะพัฒนาไปยังไงแต่การที่อยู่ในโลกอนาคตบรรยากาศแบบนี้มันมีอะไรสะกิดใจให้คิดว่ามันจะต้องออกมาบานปลายในตอนท้ายแน่นอน แล้วก็เป็นจริงๆเมื่อบทหนังที่ทำถึงพาคนดูไปสู่สถานการณ์ที่ระทึกขวัญในตอนท้ายแต่มันก็กลายเป็นงานตามสูตรไปอย่างช่วยไม่ได้ ทว่าเมื่อมาถึงจุดนี้อะไรๆที่ผ่านมาก็สามารถพาคนดูที่เริ่มต้นจากความสงสัยค่อยๆเก็บรายละเอียดผ่านการแทรกความทรงจำพร้อมจุดเปลี่ยนเข้ามา ทำให้เมื่อถึงเวลาความระทึกก็จัดว่ามาได้อย่างเนียนๆแม้ว่าจะไม่เอะอะโครมครามเป็นความระทึกเล็กๆแต่เมื่อมองย้อนไปมันไม่เล็กเลยนี่สิ ยังคงจัดจ้านด้านเสน่ห์และการแสดงโดย "ยูโกะ อารากิ" ที่เข้ากันดีกับความไม่น่าไว้ใจของ "ฮิเดอากิ อิโตะ" อาจเหมือนกับว่าเล่นกันอยู่สองคนแต่แม้ว่าสองคนจะเป็นคนพาเรื่องราวไปแต่นักแสดงสมทบก็เป็นปัจจัยสำคัญ ก็ใช่คือนี่คือเรื่องของคู่แต่งงานที่ไปใช้ชีวิตในอวกาศที่เป็นพื้นที่จำกัดทำให้โฟกัสหลักอยู่ที่คนสองคน ซึ่งสำหรับยูโกะ อารากินั้นอาจเหมือนเธอได้บทที่สบายมือแต่ความจริงการซ่อนเรื่องความรักที่ซับซ้อนไว้นั้นก็เป็นที่ต้องชื่นชมและมันก็เข้ากันดีกับความไม่น่าไว้ใจในบทนาโอกิของฮิเดอากิ อิโตะ เพราะตั้งแต่ต้นคนดูจะรู้สึกว่าเขามีอะไรซ่อนไว้แน่นอนเพียงแต่มันจะเป็นอะไรเท่านั้นแล้วในส่วนของมิติตัวละครเขายังจัดการได้ดี มันก็คือการที่คนสองคนพาเหตุการณ์ไปข้างหน้าแต่ว่าหนังจะพัฒนาไปถึงตอนท้ายอย่างเนียนไม่ได้ถ้าไม่ได้ตัวแปรที่ยอดเยี่ยมอย่างคุณเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์ หนังมีโปรดักชันในประเทศไทยที่ภาพออกมาสวยสไตล์หนังญี่ปุ่นอย่างน่าทึ่งแถมด้วยงานด้านเทคนิคที่จัดว่าเอาดีได้พร้อมเพลงที่ส่งเรื่องได้อย่างถึงฟอร์มถึงอารมณ์ อาจเป็นความบันเทิงที่ไม่เข้าถึงวงกว้างเพราะเลือกเดินทางด้วยไอเดียและความสงสัย เพราะหนังจับต้องทางอารมณ์ได้มากกว่ากับเรื่องของความรักที่หนักหนาจนไม่อาจปล่อยวาง ทั้งหนังยังเล่าเรื่องเรียบเรื่อยบางคราวเงียบงันปล่อยให้ภาพและเพลงสื่อความคิดออกมาว่าในใจตัวละครนั้นคิดอะไรอยู่รู้สึกอย่างไร หรืออาจเรียกได้ว่าไม่แสดงออกมาทางกายภาพให้เห็นแต่ความรู้สึกที่จับสัมผัสได้จะทำให้หนังพาคนดูไปด้วยความสงสัยและไอเดียที่ใช้ได้เลย แล้วเมื่อหนังพาคนดูไปได้สักระยะชิ้นส่วนที่ขาดหายไปจะพาคนดูให้เอาใจช่วยตัวละครโดยไม่รู้ตัวเพื่อพาคนดูไปเข้าสู่โทนหนังที่เป็นงานระทึกขวัญแม้มันจะคาดไว้แล้วก็ไม่เป็นไร ด้วยความที่การเล่าเรื่องออกมาเป็นหนังญี่ปุ่นที่เหลืออีกนิดเดียวจะกลายเป็นหนังอาร์ตท้าทายให้ตีความแล้วอาจทำให้ไม่ใช่ความบันเทิงที่จะเข้าถึงได้ในวงกว้างแต่ถ้าชินแล้วก็ดูได้สนุกพอตัว แน่นอนว่านี่คือหนังญี่ปุ่นแท้ๆที่แทบไม่มีสัมผัสของความเป็นหนังไทยเลยแม้จะสร้างโดยบริษัทคนไทยแต่แค่นี้ก็ต้องชื่นชมสุดใจแล้ว ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4 จาก Instagram primevideojp อ่านบทความผลงานของ "ยูโกะ อารากิ" ได้ที่นี่ https://entertainment.trueid.net/detail/39Yl6PZdrj3W https://entertainment.trueid.net/detail/EyBjgxaXG0ly https://entertainment.trueid.net/detail/LNVXByJlzpjw เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !