cr. unsplash " I follow the Moskva Down to Gorky Park Listening to the wind of change An August summer night Soldiers passing byListening to the wind of change "ท่อนแรกของเนื้อเพลง Wind Of Change ที่บอกถึงสถานที่สำคัญของรัสเซีย นั้นคือแม่น้ำ Moskva แม่น้ำสายหลักในมอสโก และ Gorky Park สวนสาธารณะในใจกลางเมือง มอสโก เพลงที่มีความเป็นมาจาก รัสเซีย สู่ เยอรมัน ซึ่งเพลงอมตะยอดฮิตของศิลปิน Scorpions วงดนตรีร๊อคสัญชาติเยอรมันโด่งดังตั้งแต่ยุค 70 ปลาย ๆ และทุกวันนี้หลายคนก็ยังฟังเพลงของพวกเขาอยู่ ประวัติข้อมูลต่าง ๆ เราขอข้ามเพราะมีให้อ่านตามเว็บไซด์ แต่ที่จะกล่าวถึงคือเรื่องราวของเพลง Wind Of Change ที่หลายคนอาจจะพอรู้บ้างแล้วว่าเป็นเพลงที่แต่งในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศรัสเซีย เป็นเพลงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการล่มสลายของจักรวรรดิ์คอมมิวนิต์และสงครามเย็นในรัสเซีย ประมาณปี 1989 และกลายเป็นเพลงที่แสดงถึงความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครอง เพราะช่วงเวลาต่อเนื่องมาถึงช่วงที่มีการทำลาย กำแพงเบอร์ลิน ซึ่งเราจะเล่าถึงในบทความนี้เพราะเพลงนี้ถูกนำเสนอผ่านสื่อในเรื่องราวนี้มากกว่า เรื่องราวของรัสเซียที่เป็นจุดกำเนิดของการแต่งเพลง ซึ่งมันเป็นกำแพงที่กั้นระหว่าง เยอรมันนีตะวันออก และ เยอรมันนีตะวันตก ซึ่งประเทศเดียวกันแต่ปกครองสองแบบคือ ประชาธิปไตย และ คอมมิวนิตส์ ในส่วนของเรื่องราวประวัติศาสตร์ยังพอหาอ่านได้ตามเว็บไซด์ต่าง ๆ แต่น่าเสียดายที่การเรียนการสอนเนื้อหาประวัติศาสตร์ต่างประเทศ จะมีเรียนในระดับสูงเท่านั้น เด็ก ๆ รุ่นใหม่จึงอาจไม่ได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ cr.National Archives by Public Domain (กำแพงเบอร์ลินในยุค 1961)Wind Of Change บทเพลงแห่งความหวัง ความเปลี่ยนแปลง สำหรับเพลงนี้แน่นอนว่าเมื่อมีการเผยแพร่ครั้งแรก ทำการแสดงเพลงนี้ครั้งแรกในงาน Moscow Music Peace Festival ในปี 1989 (เดือนสิงหาคม) กับการอยู่ในประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของรัสเซีย หลังจากมันถูกเปิดนับครั้งไม่ถ้วน เสียงเพลงที่ถ่ายทอดสู่คนทั่วโลก เพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิตที่โด่งดังในทันที และในฐานะที่ Scorpions เป็นชาวเยอรมัน เพลงนี้ถูกโยงถึงการทำลายกำแพงเบอร์ลิน (ถูกทำลายในเดือน พศจิกายน 1989 ) และมันกลายเป็นเพลงที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์โลก ซึ่งเรื่องราวของกำแพงเบอร์ลินเป็นประวัติศาสตร์ช่วงหนึงของโลก ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายจากสองฝั่งกำแพง และนำไปสู่การรวมมือของหลาย ๆ ประเทศในการที่จะให้เยอรมันนีตะวันออก และ เยอรมันนีตะวันตก รวมเป็นประเทศเดียวกัน เป็นบทเพลงที่บอกถึงเรื่องราวความหวัง การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พร้อมทั้งได้รับการยกย่องให้เป็นเพลงแห่งศตวรรษจากการโหวตของผู้ชมรายการ โทรทัศน์เยอรมัน ZDFcr.Thierry Noir by CC BY-SA 3.0 (กำแพงเบอร์ลินในปี 1986)เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของ กำแพงเบอร์ลิน ผ่าน MV Wind Of Changeสำหรับ MV หรือ มิวสิควิดิโอ ของเพลง Wind Of Change มีหลายเวอร์ชั่น ทั้งเวอร์ชั่นหลักของศิลปินและในส่วนของแฟนเมค หรือ แฟนคลับรวมถึงบรรดาเหล่ายูทูปเบอร์ผลิตออกมา ซึ่งมีบางมิวสิควิดิโอของเพลงนี้ ที่มีการนำเรื่องราวของประวัติศาสตร์เหตุการณ์จริงก่อนที่จะมีการทำลายกำแพงเบอร์ลิน ตั้งแต่เยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง แล้วต้องแยกประเทศจากสงครามเย็น จนถึงวินาทีแรกที่มีการทำลายกำแพงทุกช่วงของเหตุการณ์แสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลงจากผลพวงของสงคราม จากความต้องการเป็นใหญ่ของผู้นำประเทศที่กลับกลายเป็นการทำลายล้าง จากความสูญเสียสู่ความแตกแยก จากความแตกแยกสู่พลัดพราก หนึ่งประเทศแต่ปกครองสองระบบ ความต่างของเศรษฐกิจ การศึกษา ความแร้นแค้น นำไปสู่การหาทางแก้ไข นำไปสู่ความปรองดอง นำไปสู่การรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวcr.nobody by CC BY-SA 3.0 (บางส่วนของกำแพงเบอร์ลินที่เหลือเป็นอนุสรณ์ ภาพปี 2006 )เมื่อมองผ่านเพลง Wind Of Change ผ่านเรื่องราวในมิวสิควิดิโอ แล้วมองมายังปัจจุบัน ถือว่าเพลงนี้เป็นบทเรียนนอกตำรา มันมีบางสิ่งบางอย่างที่เราเรียนรู้ได้ จากประเทศที่เคยแพ้สงคราม กลับพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด เป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตประชากรที่ดี ที่ถือว่าเป็นอันดับต้นของโลก ระบบการศึกษา เศรษฐกิจที่มั่นคง เหมือนเขาเรียนรู้ประวัติศาสตร์บ้านเมืองเขาเอง ที่ต้องเจ็บปวดกับความแตกแยก เมื่อมีโอกาสแก้ไขก็ใช้โอกาสนั้นได้อย่างคุ้มค่า นี่คือสิ่งที่ประเทศเยอรมันทำให้ชาวโลกได้ประจักษ์ว่า การเรียนรู้จากความพ่ายแพ้ อดทนลุกขึ้นสู้ ก้าวบนหนทางใหม่ หนทางแห่งเสรีภาพ ความสามัคคี พัฒนาคนพร้อมกับพัฒนาประเทศ เขาทำได้จริง ๆ เราสามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับชีวิตเราได้มันก็เปรียบเสมือน ในช่วงชีวิตคนเราหากเราล้มหรือเจออุปสรรค ให้เราอดทนค่อย ๆ ลุกแล้วก้าวเดินใหม่ เรียนรู้จากความผิดพลาดเราก็จะสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างถูกต้องและมั่นคงได้ cr.Aridd by CC BY-SA 4.0 ( racé du Mur de Berlin prés de Potsdamer Platz 2015 สถานที่ปัจจุบันที่เคยเป็นที่ตั้งกำแพงเบอร์ลิน)เพิ่มเติมท้ายเรื่อง กำแพงเบอร์ลินสร้างในปี 1961 แบ่งประเทศเยอรมันเป็นสองฝั่งจากปัญหาสงครามและการแบ่งแยกการปกครองทำให้มีผู้คนเสียชีวิตจากการหลบหนีข้ามกำแพงจากฝั่งตะวันออก มายังฝั่งตะวันตกนับล้านคน ภายหลังได้มีการยุติปัญหาและสามารถรวมประเทศได้สำเร็จในปี 1989 ทำให้กำแพงเบอร์ลินถูกทำลายลงอย่างถาวร ปัจจุบันกำแพงเบอร์ลินยังเหลือบางส่วน เพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถาน และมีการสร้างงานศิลปะบนกำแพง MV Wind Of Change El Muro de Berlin (Germany 1989) Berlin Wall Slide Show Berlin Wall 1961 - 1989wind of change Live in Moscow Music 2003