บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาวูบ รายได้ตกต่ำเหลือแค่วันละหลักหมื่น
ข่าวสารวงการหนัง Covid-19
ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ของสหรัฐอเมริกา มหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของโลก ทำให้หลายๆ ธุรกิจต้องหยุดชะงักลงเพื่อการปรับตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับ วงการหนังฮอลลิวูด ที่โรงหนังทั่วประเทศส่วนใหญ่เลือกที่จะปิดใหบริการ เพื่อป้องกันการเป็นแหล่งระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้ส่งผลต่อภาพรวมของวงการหนังอย่างรุนแรง
วงการหนังฮอลลิวูดที่ยังไม่มีโปรแกรมหนังเข้าฉายเป็นวงกว้างเรื่องใหม่ๆ ไปจนกว่าจะถึงวันที่ 10 เมษายน เพราะโรงหนังราวๆ 90 เปอร์เซ็นต์ของทั้งประเทศได้ทำการปิดให้บริการลงตามมาตรการจากทางการ แต่บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกายังคงไม่ปิด และเดินเก็บสถิติเกี่ยวกับรายได้หนังต่างๆ แม้ว่าบรรยากาศจะซบเซาน่าเศร้ามากแค่ไหนก็ตาม และล่าสุดก็ได้พบกับตัวเลขที่วงการหนังจะต้องจารึกเอาไว้เป็นประวัติศาสตร์
ตามรายงานระบุว่า หลังจากที่โรงหนังต่างๆ ได้ทยอยทำการปิดให้บริการไปตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบกับตัวเลขรายได้ของหนังเรื่องต่างๆ ที่ยังเข้าฉายอยู่อย่างหนัก จากปกติหนังในอันดับต้นๆ ของตาราง มักจะเก็บเงินรายได้วันละไม่ต่ำกว่าหลักล้านเหรียญ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้รายได้เริ่มลดหลั่ง จากหลักแสนกลายเป็นหลักหมื่นเหรียญ
ตารางบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา แบบรายวันในวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา (ขอบคุณ The-Numbers)
ตัวเลขรายได้บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (18 มี.ค.) ที่เป็นวันที่โรงหนังทั่วอเมริกาได้ปิดให้บริการชั่วคราวลงหลายแห่ง ผลปรากฏว่าหนังแต่ละเรื่องทำเงินเพิ่มประจำวันไปได้ไม่ถึงหลักแสนเหรียญ "Onward" หนังแอนิเมชั่นจากดิสนีย์/พิกซาร์เรื่องล่าสุด ที่ยังคงยืนเป็นที่หนึ่งบนตารางได้อยู่ แต่เก็บเงินไปเพิ่มได้อีกแค่เพียง 61,000 เหรียญ
ในขณะนี้ "I Still Believe" ได้เงินเพิ่มอีกแค่ 38,000 เหรียญ และ "Bloodshot" เก็บเงินไปได้อีก 36,000 เหรียญ นับเป็นตัวเลขรายได้รายวันของหนัง Top 3 บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศที่น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ ปัจจุบันรายได้เฉลี่ยต่อโรงของหนังเรื่อง Onward อยู่ที่เพียง 14 เหรียญ หรือเท่ากับมีมีอัตราผู้ชมราว 2-3 คนต่อโรง แต่เนื่องจากหนังยังครองโรงฉายมากที่สุดในเวลานี้ (หลายโรงปิดให้บริการไปแล้ว) ทำให้มมีอัตรารายได้เฉลี่ยต่อโรงค่อนข้างน้อย
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้หลายๆ ค่ายหนังต่างตัดสินใจนำเอาหนังใหม่ที่เพิ่งเข้าฉายไป โยกไปสู่ตลาดออนไลน์และปล่อยให้ผู้ชมได้ดูหนังผ่านระบบสตรีมมิ่งแทน เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายไม่สามารถออกมาดูหนังที่โรงหนังได้ในะระยะนี้ การปรับตัวทำกิจกรรมอยู่แต่ภายในบ้านจึงเป็นทางเลือกที่ถูกนำมาใช้แทน ทำให้หนังอย่าง Bloodshot, I Still Believe, The Invisible Man หรือ Birds of Prey ได้ตัดสินใจนำลงฉายออนไลน์ก่อนกำหนด
ขณะที่ Onward หนังจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง วอลต์ ดิสนีย์ ยังไม่มีท่าทีใดๆ ออกมาในขณะนี้ และปล่อยให้หนังเก็บเงินเล็กๆ น้อยๆ จากช่วงวิกฤตไปตามชะตากรรม แอนิเมชั่นเรื่องนี้กลายเป็นหนังที่ทำรายได้ต่ำที่สุดในตระกูลหนังพิกซาร์อย่างเป็นทางการ โดยปัจจุบันทำเงินไปแล้ว 61.5 ล้านเหรียญ และน่าจะเก็บเงินเพิ่มได้อีกไม่ต่างจากนี้เท่าใดนัก เพราะไม่มีโรงหนังให้เข้าฉายอีกในระยะอันใกล้นี้
ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวจะยังคงเกิดขึ้นกับวงการหนังฮอลลิวูดและบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาไปอีกสักระยะ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดฟื้นตัวได้เร็ว ภาพรวมอาจจะดีขึ้นได้ในช่วงกลางเดือนเมษายนนี้ แต่เบื้องต้นเหล่าผู้ประกอบการโรงหนังได้ตั้งเป้าปิดให้บริการเอาไว้ 6-12 สัปดาห์ คาดว่าอุตสาหกรรมหนังทั่วโลกน่าจะกลับมาสู่สภาวะปกติได้ อย่างน้อยๆ น่าจะประมาณช่วงเดือนมิถุนายน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
COVID-19 เล่นงานหนัก บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา เสี่ยงกวาดเงินได้น้อยที่สุดในรอบ 20 ปี
รัฐบาลประกาศมาตรการ "ปิดโรงหนัง" อัปเดตโปรแกรมฉายหนังทุกเรื่องในเมืองไทยได้ที่นี่
อัปเดตทุกความเคลื่อนไหว ผลกระทบในวงการภาพยนตร์โลก เพราะไวรัส COVID-19 ระบาด
----------------------------------------------------