เรียกว่าเดือนกรกฎาคมนี้ทำเอาหนังสยองขวัญดีใจตาแฉะกันแบบไม่พักเพราะว่าทาง Netflix ได้ออกหนังสยองขวัญมาอย่างมากมายไม่ขาดสาย และหนึ่งในเรื่องที่ติดอยู่ในกระแส ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ 1 ใน 10 ของหนัง Popular ในช่วงนี้อย่าง “Blood Red Sky ฟ้าสีเลือด” เป็นหนังสัญชาติเยอรมัน ผู้กำกับคือปีเตอร์ ธอร์วอร์ธ ซึ่งเรียกว่าหนังเรื่องนี้มีความมันหยดย้อยสมคำล่ำรือจริง ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพล็อตเรื่อง การยำรวมต่าง ๆ ตัวนักแสดง หรือแม้กระทั่งโปสเตอร์หนังที่มีความน่าสนใจและสปอยอยู่หน่อย ๆ วันนี้เราเลยอยากจะพาเพื่อน ๆ มาฟังรีวิว Blood Red Sky ฟ้าสีเลือด แวมไพร์กับเที่ยวบินมรณะ กันว่าจะเป็นอย่างไร พล็อตเรื่อง อีกทั้งความสนุกมากน้อยแค่ไหน หากพร้อมแล้วก็เตรียมตัวพบกับความสยองมันจนเลือดสาดกันโล้ด! Top 10 in Thailand Today! เนื้อเรื่องย่อของ Blood Red Sky ฟ้าสีเลือดhttps://youtu.be/bMtRYERoses เรื่องราวเกิดขึ้นจากนาเดียและลูกชายของเธอ เอเลียส กำลังเดินทางมุ่งหน้าจากประเทศเยอรมันไปยังประเทศนิวยอร์ก โดยจุดประสงค์ในการไปครั้งนี้เพื่อที่จะรักษาการกระหายเลือดจากการที่เธอโดนแวมไพร์กัดในคืนวันหนึ่งซึ่งเธอต้องทนทุกข์กับเชื้อแวมไพร์ของเธอมานานหลายปี ทั้งจะต้องกินเลือด แอบปิดสีตาที่แท้จริง และจะต้องฉีดสารบางอย่างเข้าไปในตัวเพื่อให้ยับยั้งการเป็นแวมไพร์ชั่วคราว แต่แล้วในระหว่างเดินทางก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อมีโจรขึ้นมาเพื่อยึดเครื่องบินทำการบางอย่าง จับผู้โดยสารเป็นตัวประกัน และจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผู้ก่อการร้าย ซึ่งจากเหตุการณ์กลับแย่ลงเมื่อนาเดียโดยยิง ซึ่งหลังจากเธอจมกองเลือดอยู่ได้ไม่นาน นาเดียฟื้นคืนชีพขึ้นมาราวกับปาฏิหาริย์สิ่งนี้เองทำให้นาเดียที่มีสัญชาตญาณที่มีความรักลูกมากจะต้องเปิดเผยตัวตนแวมไพร์ของเธอออกมาเพื่อที่จะต่อสู้ปกป้องลูกชายของเธอและผู้โดยสารทุกคน ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องราวกลับไม่ได้เป็นแบบที่เธอคิดไว้เพราะมีผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งที่ไม่เกรงกลัวและลุกขึ้นมาไฟท์กับเธอ!https://www.instagram.com/p/CRngjvJpbqf/?utm_medium=copy_linkรีวิว Blood Red Sky ฟ้าสีเลือด เรื่อง Blood Red Sky ฟ้าสีเลือด เราขอยกให้เป็นหนังแนวต่อสู้ + แนวสยองขวัญที่ดีที่สุดในตอนนี้เลยละค่ะ ด้วยความที่พล็อตเรื่องนั้นมีความน่าสนใจ ซึ่งเราเชื่อว่าหนังแนวปล้นจี้บนเครื่องบินเราจะเห็นกันอยู่บ่อย ๆ เป็นพล็อตที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่เรื่องนี้ สามารถนำหนังสยองขวัญ แวมไพร์มายำรวมกันแล้วลงตัวสุด ๆ และสำหรับเรื่องนี้เราขอชื่นชมในการปูเรื่องเลยละค่ะ เพราะจะเล่าตอนจบมายังตอนต้นเรื่อง ทำให้ตอนที่เราเปิดกู รู้สึกว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเป็นยังไงนะ? แต่มองในอีกแง่มุมก็คือเหมือนหนังจะสปอยให้กลาย ๆ ว่าใครรอดบ้าง พอเดาได้ ฮ่า ๆ ทำให้บางตอนในเรื่องอารมณ์เหมือนเรารู้อยู่แล้ว https://www.instagram.com/reel/CRt1iZzq0jZ/?utm_medium=copy_link แต่ก็ต้องพูดถึงว่าในตรรกะบางอย่างก็ทำให้เราแอบงงไม่มากก็น้อย อย่างเช่นเรื่องหลัก ๆ เลยคือตัว “แวมไพร์” ซึ่งหากเพื่อน ๆ เคยดูหนังแนวสยองขวัญ แวมไพร์ โดยปกติเราจะไม่ค่อยเห็นว่าจะสามารถอยู่ร่วมกับคนปกติได้ แต่ก็จะมียาตัวนึงที่ช่วยเธอได้ แต่ส่วนตัวเราคิดว่าไม่ค่อย Make sense สักเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นอย่างน้อยหนังก็ควรเล่าเรื่องเกี่ยวกับยาดังกล่าวให้คนดูรู้ว่ามันคืออะไรสักหน่อย แต่ในส่วนที่เราชอบมากก็คือการเล่าเรื่องถึงภูมิหลังของตัวละครหลักอย่าง ‘นาเดีย’ ซึ่งทำให้เราทราบถึงเรื่องราวความเป็นแม่ของเธอที่เสียสละเพื่อลูกอย่างมากมาย ดูแล้วรู้สึกอินกับตัวละครนี้แบบปฏิเสธไม่ได้เลยละค่ะ ส่วนต่อมาคือ บรรยากาศ Mood and tone ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าหนังทำออกมาได้ดีมาก หนังดูบรรยากาศหลอน ๆมาคุ ๆ ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในหนังสยองขวัญเลยก็ว่าได้ มีความมืดทมึนสีไม่ฉูดฉาด อีกทั้งฉากตอนนาเดียเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ก็ต้องยอมรับเลยว่าทำให้ดูน่ากลัวอยู่พอสมควรเลยละค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่เปลี่ยนไป ความน่ากลัวที่ออกมาจากสีหน้า แววตา หรือเลือดสาดโครมภายในเรื่องก็เรียกว่าทำออกมาได้สมจริงมาก มาแบบไม่กั๊กจัดเต็มทำให้ในบางฉากถึงกับต้องปิดตาดูกันเลยทีเดียว เต็มสิบไม่หักเลยค่ะสำหรับส่วนนี้!https://www.instagram.com/p/CRwKxprqaGc/?utm_medium=copy_link และสุดท้ายที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้เลยคือ ตัวละคร ซึ่งตัวละครหลัก ๆ จะมีทั้งหมด 3 ตัวละคร บทบาทแรกเลยคือ ‘นาเดีย’ แสดงโดย เปรี่ เบาไมสเตอร์ เรารู้สึกค่อนข้างชอบตัวละครตัวนี้มาก แม้ว่าตนเองจะเปลี่ยนเป็นแวมไพร์แต่ความรักสัญชาตญาณความเป็นแม่ที่เธอมีให้กับลูกนั้นเต็มร้อยมาก อีกทั้งในบทบาทที่เปลี่ยนเป็นแวมไพร์เธอก็แสดงได้ดีมากกอไก่ล้านตัวววว ไม่ว่าจะเป็นอินเนอร์ แววตา สีหน้าที่ออกมานั้นเรียกว่ากินใจซะจริง ๆ https://www.instagram.com/p/CRrkpuaIh9P/?utm_medium=copy_link ต่อมาคือน้อง ‘เอเลียส’ แสดงโดย คาร์ล อันทวน คอค ตัวละครนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบทบาท Leader สำคัญในเรื่องช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นตอนเริ่มหรือตอบจบของหนัง ซึ่งน้องก็แสดงออกมาได้ดีมาก มีความน่ารักน่าเอ็นดู ซึ่งฟิตติ้งกับบทนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ต้องยอมรับว่าบางฉากนั้นดูไปค่อนข้างหงุดหงิดตัวละครนี้อยู่หน่อย ๆ ด้วยความไร้เดียงสาบางครั้งก็ทำอะไรที่ไม่น่าจะทำ และตัวละครสุดท้ายอย่าง ‘ฟาริด’ แสดงโดย ไคส์ เซ็ตติ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ต้องยอมรับเลยว่าเข้ามาเติมเต็มเรื่องราวให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เป็นคนที่นาเดียเธอไว้ใจ ซึ่งต้องบอกเลยว่าหลายฉากที่มีฟาริดทำเอาละสายตาจากเขาไม่ได้มีเพียงแค่หล่อแต่มีความกล้าหาญมาก ๆ ต่อสู้ไม่เกรงกลัวและต่อสู้กับคนร้ายแบบเต็มสูบสุดมัน!! https://www.instagram.com/p/CRl8Qmuo-1s/?utm_medium=copy_link อีกทั้งเรื่องนี้ยังมีตัวละครประกอบอื่น ๆ ที่ทำให้เรื่องราวนำไปสู่หายนะต่าง ๆ เรียกได้ว่าทุกตัวละครมีความสำคัญหมดก็ว่าได้ค่ะ https://www.instagram.com/p/CR6lS6tIts2/?utm_medium=copy_linkคะแนน : ⭐️9.5/10⭐️เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ รีวิว Blood Red Sky ฟ้าสีเลือดแวมไพร์กับเที่ยวบินมรณะ ต้องเรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้มีความแปลกใหม่ มีการยำแนวแอ็กชันสยองขวัญผสมผสานกันออกมาได้ดีเลยทีเดียวละค่ะ อีกทั้งอค์ประกอบของเรื่องราวก็เรียกว่าไม่ธรรมดา เก็บทุกจุดทุกเม็ด ดีเทลต่าง ๆ เรียกว่าปัง! หากเพื่อน ๆ คนไหนยังไม่ได้ดู เราแนะนำให้ไปดูด่วนเลยฮะ สามารถดูได้แล้วทาง Netflix :)💘เครดิตภาพหน้าปกโดย @peribaumeisterภาพหน้าปกเครดิตภาพประกอบบทความโดยเจ้าของบทความภาพที่1เครดิตภาพประกอบบทความโดย @peribaumeisterภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4เครดิตภาพประกอบบทความโดย @kaissettiภาพที่5 / ภาพที่6เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย @netflixdeวิดีโอที่1 / วิดีโอที่2เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย Netflix Thailandฟ้าสีเลือด (Blood Red Sky) | ตัวอย่างภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ | Netflixอัปเดตบทความรีวิวภาพยนตร์ใหม่ ๆ สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !