หลังจากได้ดูหนัง "Steve Jobs" (2015) อ้อมรู้สึกเหมือนได้เข้าไปสำรวจสมองและหัวใจของคนที่โลกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะด้านเทคโนโลยี แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนธรรมดาที่มีทั้งมุมดี มุมดื้อ และมุมที่ใครๆ อาจรับมือได้ยาก รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! มุมมองหลังดูหนัง หนังเรื่องนี้ไม่ได้เล่าแค่ความสำเร็จของสตีฟ จ็อบส์ แต่พาเราไปดูเบื้องหลังของคนที่โลกมักมองว่า "สมบูรณ์แบบ" จริงๆ แล้วเขาไม่ได้เป็นฮีโร่ในทุกมิติค่ะ จ็อบส์ในเรื่องนี้ดูเหมือนคนที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แต่ก็เต็มไปด้วยความซับซ้อนในความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน คู่ค้า หรือแม้กระทั่งครอบครัวของเขาเอง อ้อมชอบที่หนังแบ่งเรื่องราวออกเป็นสามช่วงสำคัญของชีวิตจ็อบส์ คือ การเปิดตัว Macintosh, การล้มเหลวที่ NeXT, และการกลับมาที่ยิ่งใหญ่กับ iMac แต่ละช่วงเหมือนเป็น "เวทีชีวิต" ที่จ็อบส์ต้องเผชิญหน้ากับทั้งความสำเร็จและความผิดพลาด หลังจากดู "Steve Jobs" (2015) อ้อมต้องบอกเลยว่า หนังเรื่องนี้ไม่ได้แค่เล่าเรื่องราวของอัจฉริยะในโลกเทคโนโลยี แต่ยังทำให้เราอินไปกับตัวละครผ่านการแสดงที่ทรงพลังของเหล่านักแสดงแต่ละคน โดยเฉพาะ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ ผู้รับบทเป็นสตีฟ จ็อบส์ ที่แทบจะเหมือนเขาแปลงร่างเป็นจ็อบส์จริงๆ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ (Michael Fassbender) พูดถึงฟาสเบนเดอร์ อ้อมต้องยกนิ้วให้กับการแสดงที่เหนือชั้นของเขา แม้รูปร่างหน้าตาของฟาสเบนเดอร์จะไม่ได้เหมือนจ็อบส์แบบเป๊ะๆ แต่พอเขาเริ่มพูด ท่าทางและน้ำเสียงของเขาทำให้อ้อมเชื่อสนิทว่าเขาคือสตีฟ จ็อบส์จริงๆ เขาสามารถถ่ายทอดทั้งความเป็นอัจฉริยะ ความดื้อรั้น และความเปราะบางในจิตใจออกมาได้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะในฉากที่เขาต้องเผชิญหน้ากับอดีตและความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงกับคนรอบข้าง เคท วินสเล็ต (Kate Winslet) เคท วินสเล็ต รับบทเป็น โจแอนนา ฮอฟฟ์แมน หญิงเก่งผู้เป็นเหมือนสมองและแรงสนับสนุนสำคัญของจ็อบส์ ความสามารถของเคทคือการทำให้ตัวละครนี้ดูสมจริงและทรงพลัง เธอไม่ได้เป็นแค่ "ผู้ช่วย" แต่เป็นคนที่กล้าท้าทายและพูดความจริงกับจ็อบส์ได้ในทุกสถานการณ์ การแสดงของเคทเหมือนเป็นแกนกลางที่ช่วยบาลานซ์ความวุ่นวายในชีวิตจ็อบส์ เซ็ธ โรเกน (Seth Rogen) อ้อมประหลาดใจมากกับการแสดงของ เซ็ธ โรเกน ในบทของ สตีฟ วอซเนียก ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple ที่ให้ภาพของชายผู้เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และหัวใจอ่อนโยน โรเกนถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาได้อบอุ่นและน่าเอ็นดูสุดๆ ฉากที่เขาต้องเผชิญหน้ากับจ็อบส์แล้วถามว่า "ทำไมคุณถึงไม่เคยให้เครดิตทีมงานเลย?" เป็นฉากที่เต็มไปด้วยอารมณ์ และโรเกนก็ทำให้เรารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แท้จริงของตัวละคร เจฟฟ์ แดเนียลส์ (Jeff Daniels) ในบทของ จอห์น สคัลลีย์ CEO ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นทั้งเพื่อนและคู่ปรับของจ็อบส์ เจฟฟ์ แดเนียลส์แสดงได้เข้มข้นและทรงพลัง ฉากที่เขาต้องปะทะกับฟาสเบนเดอร์เป็นอีกหนึ่งฉากที่อ้อมมองตาไม่กระพริบ เพราะมันเต็มไปด้วยพลังและอารมณ์ที่ลึกซึ้ง สิ่งที่ได้จากหนัง อ้อมรู้สึกว่าจ็อบส์ในเรื่องนี้เหมือนกำลังบอกเราว่า "ความสมบูรณ์แบบไม่มีจริง" แต่สิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นคือความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของตัวเอง เขากล้าฝัน กล้าทำ และกล้าล้ม เพื่อสิ่งที่เขาเชื่อ แม้บางครั้งเขาอาจดูเป็นคนที่ดื้อรั้นและยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง แต่ถ้าไม่มีความดื้อแบบนั้น iPhone หรือ iPod ที่เราใช้กันทุกวันนี้อาจไม่เกิดขึ้น ฉากที่อ้อมชอบที่สุด หนึ่งในฉากที่อ้อมประทับใจมากคือฉากที่จ็อบส์พูดกับลูกสาวตัวเล็กเกี่ยวกับโปรแกรม Paint บน Macintosh เขาอธิบายให้เห็นถึงความสำคัญของการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ แม้แต่เรื่องเล็กๆ อย่างการวาดรูปในคอมพิวเตอร์ หนังพาเราสัมผัสมุมที่ "ละเอียดอ่อน" ของจ็อบส์ ที่ซ่อนอยู่ในภาพลักษณ์ที่ดูเย็นชา แรงบันดาลใจที่ได้ หลังดูจบ อ้อมกลับมานั่งคิดว่า บางครั้งเราอาจไม่ได้เป็น "คนที่ใช่" ในสายตาทุกคน แต่ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนและไม่หยุดพยายาม วันหนึ่งเราก็สามารถสร้างสิ่งที่เปลี่ยนโลกได้เหมือนกัน ชวนดู ถ้าคุณกำลังมองหาหนังที่ให้แรงบันดาลใจและพาคุณไปสำรวจความซับซ้อนของคนที่ยิ่งใหญ่ "Steve Jobs" จะไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ เป็นหนังที่ดูแล้วไม่ใช่แค่สนุก แต่ยังทำให้เราอยากลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ๆ ในแบบของตัวเองอีกด้วย 😊 อ้างอิง ภาพจาก Steve Jobs | Facebook / ภาพที่ #1 / ภาพที่ #2 / ภาพที่ #3 / ภาพที่ #4 / ภาพหน้าปก เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !