ผู้ปกครองส่วนใหญ่ เมื่อเห็นลูกหลานของตนเสพสื่อที่เรียกว่า อนิเมะ ก็มักจะเข้าไปเตือน หรือเข้าไปบอกอยู่บ่อยครั้งว่า เอาเวลาที่ดูอะไรไร้สาระเเบบนี้ ไปทำอย่างอื่นดีกว่าจะมานั่งดูการ์ตูนอะไรก็ไม่รู้ทั้งวัน หารู้ไม่ว่า ถึงเเม้อนิเมะจะเป็นสื่อที่มอบความบันเทิง ความสนุกให้เเก่คนดู เเต่อนิเมะเองก็มอบประโยชน์ให้เเก่คนดูได้เช่นกัน ในทางตรงกันข้าม อนิเมะเองก็มีข้อเสียเเอบเเฝง ถ้าหากเลือกดูไม่ถูกประเภท หรือเลือกดูไม่เป็นเวลา เพราะฉะนั้นวันนี้ผู้เขียนจึงอยากจะมาเขียนบทความเพื่อขยายความว่า สื่ออนิเมะนั้น มีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร ถ้าพร้อมเเล้ว ก็เลื่อนลงไปอ่านได้เลยครับCr. Pixabayข้อดีของอนิเมะ1. ได้เรียนรู้ภาษา หากรับชมอนิเมะญี่ปุ่น ซับไตเติ้ลไทยอย่างที่รู้ ๆ กันว่า สื่ออนิเมะ ส่วนใหญ่มักจะถูกสร้างมาจากประเทศญี่ปุ่น เเล้วค่อยนำมาออกอากาศที่ไทย ผ่านเจ้าของลิขสิทธิ์ต่าง ๆ เช่น Dex , Netflix , Flixer เเละอื่น ๆ อนิเมะบางเรื่องถูกนำมาพากย์เสียงให้เป็นพากย์ไทย เเต่ก็มีบางเรื่องที่ไม่ได้ถูกนำมาพากย์ เเล้วใส่ซับไตเติ้ลภาษาไทยเข้าไป เพื่อให้คนดูส่วนใหญ่ดูรู้เรื่องกัน หากเราดูอนิเมะพากย์ญี่ปุ่นซับไตเติ้ลไทยเยอะ ๆ เราก็อาจจะได้คำศัพท์บางคำติดมาด้วย ถึงเเม้จะไม่ได้เข้าใจได้อย่างถ่องเเท้ เเต่มันก็ถือว่าเป็นประโยชน์ผลพวงจากการดูอนิเมะอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งบางครั้งมันก็ช่วยทำให้คนดูอย่างเรา มีเเรงบันดาลใจ ที่อยากจะไปศึกษาภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติมได้เช่นกันCr. Pixabay2. ได้ข้อคิดที่สอดเเทรกมากับอนิเมะอนิเมะบางเรื่องนั้น นอกจากจะให้ความสนุก เเละความบันเทิงกับเราเเล้ว มันยังสอดเเทรกข้อคิดดี ๆ ไว้ให้เราอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น อนิเมะเรื่องนารูโตะ นินจาจอมคาถา ที่สอนให้เราเป็นคนที่มีความพยายาม ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่ผ่านเข้ามา สอนให้เรามุ่งหน้าเดินตามความฝันเเละทำมันให้สำเร็จ หรือจะเป็นอนิเมะที่อ้างอิงชีวิตจริงอย่าง บาคุมัง วัยซนคนการ์ตูน ที่สอนให้รู้ว่า กว่าจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้ มันยากสักเเค่ไหน สอนให้รู้ว่าโลกของการเป็นนักเขียน มันไม่ได้สวยงามอย่างในนิยาย หรือในการ์ตูน ต้องผ่านปัญหามากมายหลายอย่าง กว่าจะไปถึงจุดที่เราตั้งเป้าเอาไว้ เเละยังมีอนิเมะอีกหลายเรื่องมาก ที่มักจะคอยสอดเเทรกข้อคิดดี ๆ ให้เราอยู่เสมอ ไม่ได้มีเเต่เรื่องของความบันเทิงเพียงอย่างเดียวCr. Pixabay3. เสริมสร้างจินตนาการ จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้ คือประโยคในตำนานที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยพูดเอาไว้ เพราะถ้าหากเรามีเเต่ความรู้ เราจะไม่สามารถนำมาต่อยอดเป็นสิ่งอื่นได้ ต้องมีสิ่งที่เรียกว่าจินตนาการ เป็นตัวช่วยในการต่อยอดความรู้ในหัว อนิเมะถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ หรือจินตนาการให้กับเราได้ เพราะอนิเมะส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอนิเมะเเนวเเฟนตาซี ผจญภัย มักจะมีภาพเคลื่อนไหว บรรยากาศ ที่เราไม่เคยเห็นในโลกจริงมาก่อน ทำให้มันมาจุดประกายความคิด เกิดเป็นจินตนาการภาพในหัวขึ้นมาได้ ยกตัวอย่างเช่น อนิเมะจากสตูดิโอ Ghibli ที่มักจะนำเอาโลกเเห่งความจริง มาผสมรวมกันกับความเป็นเเฟนตาซี ทำให้เกิดเป็นสิ่งใหม่ ที่เราอาจนึกไม่ถึงขึ้นมาได้ Cr. Pixabay4. คลายเครียด บางครั้งเวลาที่เราเรียนมาหนัก หรือทำงานมาหนักทั้งวัน อนิเมะก็สามารถนำมาเป็นสิ่งเยียวยาจิตใจให้หายเครียดได้ เเต่ต้องเลือกดูให้ถูกเรื่องด้วยนะ เพราะบางทีเลือกไม่ถูกเรื่อง อาจจะเครียดกว่าเดิมได้ ฮ่า ฮ่า ถ้าให้ยกตัวอย่างอนิเมะที่สามารถคลายเครียด เเละสร้างรอยยิ้มให้กับคนดูได้ ผมขอเเนะนำอนิเมะเรื่อง วัน ๆ ของพวกผมก็งี้เเหละ กับ สามัญขยันรั่ว อนิเมะสองเรื่องนี้ เป็นอนิเมะเเนวชีวิตประจำวัน สอดเเทรกมุกตลก ความฮาระดับเต็มเเม็กซ์ ที่อาจจะทำให้คุณขำกรามค้างได้เลย เนื้อหาไม่มีความลึกลับซับซ้อนอะไรให้น่าคิด เพียงเเค่หาของว่าง เเล้วมานั่งดู เเค่นี้ก็สามารถบรรเทาความเครียดได้มากโขเเล้วCr. Pixabayข้อเสียของอนิเมะ1. อนิเมะบางเรื่องมีความรุนเเรงสอดเเทรก อนิเมะเหล่านี้มักสอดเเทรกความรุนเเรงหลายด้าน ทั้งเรื่องการทำร้ายร่างกาย เรื่องเพศ ภาษา เเละอื่น ๆ ที่ไม่เหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 15 หรือ 18 ปี เนื่องจากการหาดูอนิเมะตามอินเทอร์เน็ต ไม่มีการคัดกรองเรื่องเวลา หรือเรื่องเรทอายุในการรับชม เด็กอาจเข้าถึงได้ง่ายกว่าการดูละครตามช่องโทรทัศน์ เเต่ถ้าให้พูดกันตามตรง ทุกวันนี้สื่อก็สามารถเข้าถึงเด็กได้หมด ผู้ปกครองต้องคอยสอดส่องลูกหลานด้วยว่า อนิเมะเรื่องที่เขาดู มันรุนเเรงเกินไปหรือเปล่า เพราะเนื้อเรื่องของอนิเมะบางเรื่อง อาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจเด็กได้ เเต่คงไม่ถึงขั้นนำไปทำตาม ยกตัวอย่างอนิเมะที่มีความรุนแรงสอดแทรกเยอะ เช่น Another อนิเมะแนวเลือดสาด สยองขวัญ ที่ไม่แนะนำให้ดู ถ้าหากคุณเป็นเด็กที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี เพราะภายในเรื่อง สอดแทรกความรุนแรงเยอะมาก มีทั้งเลือด ทั้งเนื้อหา ทั้งบรรยากาศที่ดูอึมครึมจนเกินไป นอกจากนั้นยังมีเรื่อง Higurashi No Naku Koro ni อีกหนึ่งอนิเมะที่มีทั้งความรุนแรง และเนื้อหาที่คนจิตอ่อนห้ามดูเป็นอันขาดCr. Pixabay2. อนิเมะบางเรื่องดูแล้วเสียเวลาชีวิตมีเรื่องที่ดี ก็ต้องมีเรื่องที่เสีย อนิเมะเป็นสื่อที่คล้ายกับภาพยนตร์หรือซีรีส์ หากเลือกดูเรื่องที่ไม่มีเนื้อหา หรือสาระอะไรเลย ก็เหมือนกับเป็นการเอาเวลาไปโยนทิ้งลงแม่น้ำ เพราะฉะนั้นก่อนดู อาจจะลองไปค้นหาว่า คนส่วนใหญ่มองเรื่องนี้อย่างไรกันบ้าง ยิ่งเป็นคนที่มีเวลาน้อยอยู่แล้ว ผมแนะนำให้ลองดูความเห็นของคนบนโลกออนไลน์ก่อน ว่าเขาคิดอย่างไรกับอนิเมะเรื่องที่เราตั้งใจจะดู หรือถ้าหากคุณมีเวลาเหลือเฟืออยู่แล้ว การนั่งดูอนิเมะที่ไม่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจ ผมก็ไม่ค่อยแนะนำสักเท่าไหร่ อยากแนะนำให้เอาเวลาไปดูอนิเมะที่สนุก ๆ มากกว่า เพราะฉะนั้นก่อนดู กรุณาคิดให้ดี ดูความเห็นของคนที่เคยดูมาก่อนด้วย แต่ก็บางเรื่อง ที่ถึงแม้จะไม่มีเนื้อหาหนักแน่น แต่ก็แทนที่ด้วยความบันเทิง ทำให้เราหายเครียด แบบนั้นแนะนำให้ดูเวลาที่ว่าง ๆ ตอนกินข้าว หรือตอนหลังเสร็จภารกิจสำคัญมากกว่าCr. Pixabay3. ทำให้แยกระหว่างโลกความจริง กับโลกอนิเมะ ไม่ได้ข้อเสียนี้หลายคนอาจมองเป็นเรื่องตลก แต่ความจริงแล้ว มันคือข้อเสียอีกข้อที่ไม่ควรมองข้าม ในอนิเมะทุกอย่างมักเป็นไปตามที่ตัวเอกต้องการ สภาพแวดล้อมที่ดูอบอุ่น น่าอยู่ ผู้คนที่ดูเป็นมิตร แม้กระทั่งคนข้างทาง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่อาจควบคุมทุกสิ่งให้ดี หรือเป็นไปตามที่คิดแบบนั้นได้ บางคนดูอนิเมะมากไปจนนำไปสวมทับกับโลกแห่งความเป็นจริงที่ตัวเองใช้ชีวิตอยู่ มองว่าการจีบผู้หญิงนั้นง่ายเหมือนในอนิเมะ มองว่าการเข้าหาเพื่อนนั้นต้องทำตามแบบอนิเมะ แต่พอเอาเข้าจริงแล้วมันทำไม่ได้ ในโลกแห่งความจริงคุณไม่สามารถตามไปตื้อสาวให้มาชอบคุณได้ ในโลกความจริงคุณไม่อาจเข้าหาคนอื่นได้อย่างรวดเร็วเหมือนในอนิเมะ ต้องค่อย ๆ ทำความรู้จักไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบดูอนิเมะมากกว่าคนทั่วไป อยากให้แยกแยะความคิดด้วยว่า เราไม่อาจเอาการกระทำต่าง ๆ ในอนิเมะ ไปใช้ในโลกความจริงได้ อาจจะมีคนเคยทำได้ แต่คงเป็นส่วนน้อยเสียมากกว่าCr. Pixabayเป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับบทความหัวข้อ ข้อดีและข้อเสีย ของการดูอนิเมะ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้หลายคนได้รู้ถึงข้อดีและข้อเสียของอนิเมะนะครับ เเต่เอาเข้าจริงเเล้ว สำหรับตัวผมเอง มองว่าทุกอย่างบนโลก มีข้อดีเเละข้อเสียที่เเตกต่างกันออกไป ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์เเบบ เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะตัดสินว่าอะไรดี อะไรเสีย มันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่า สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน ไว้เจอกันใหม่ในบทความหัวข้อถัดไป ขอบคุณและ สวัสดีครับ===============Written By นักเขียนไร้เงาขอบคุณรูปภาพหน้าปกจาก https://pixabay.com/images/id-403582/===============