Special Short CommentMy Liberation Notes ปล่อยใจสู่เสรี (2022)"ยอมกีจอง รักแท้ที่ใฝ่หาที่ไม่มีคำว่าสายเกินไป"ถ้าว่ากันที่ความรักสำหรับบางคนอาจเป็นเรื่องไม่จำเป็นและอาจคิดว่าอยู่ได้โดยไร้ซึ่งความรักฉันท์หนุ่มสาว แต่บางคนก็คิดว่าความรักของหนุ่มสาวแบบนี้คือเรื่องจรรโลงโลกหรือเป็นน้ำทิพย์ที่หล่อเลี้ยงชโลมความชุ่มชื่นของหัวใจ แต่บางครั้งน้ำทิพย์ก็กลายเป็นยาพิษได้เพราะความรักมีทั้งหวานและขม มนุษย์จึงพยายามที่จะทำความเข้าใจความรักในแง่มุมต่างๆมากมายแต่โชคร้ายที่ความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและมีรายละเอียดมากจนยากที่จะเข้าได้อย่างถ่องแท้ และที่น่าเจ็บปวดที่สุดของมนุษยชาติคือแม้ชีวิตจะผ่านประสบการณ์ที่ดีหรือร้ายจากการมีรักจนสมองพยายามจะปฏิเสธมัน แต่ความรักคือสิ่งที่มีพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่หัวใจมนุษย์จะต้านทาน เพราะความรักไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ความรักไม่เลือกสถานะทางสังคมหรือความบกพร่องใดๆทั้งทางกายหรือทางสมอง และความรักสามารถบันดาลให้คนที่ปฏิเสธมันให้โหยหามันได้อย่างน่าประหลาดดังเช่นยอมกีจองในครอบครัวนี้ของสามพี่น้องชีวิตนอกบ้านของยอมกีจอง (อีเอล) ดูราบรื่นดี ยกเว้นที่บ้านที่ภาระกิจการทำงานหลายอย่างอาจทำให้มนุษย์เงินเดือนที่เหนื่อยล้ามาทั้งสัปดาห์รู้สึกไร้ความสุขสงบ แต่กรงที่กักขังหัวใจของยอมกีจองก็ยังปิดแน่นสนิทไม่ต่างจากชีวิตที่จำเจกับการเผชิญความเอือมระอาจนชืดชาของน้องทั้งสองคนยอมชางฮี (อีมินกิ) และยอมมีจอง (คิมจีวอน) สิ่งนั้นคือความคิดที่ว่าความรักที่ผ่านมาไม่คู่ควรได้ปฏิเสธผู้ชายมากมายที่เข้ามาด้วยเหตุผลที่ยากจะเข้าใจ แต่อาจพอเดาได้คือยอมกีจองยังไม่เจอคนที่ทำให้เธอหวั่นไหวได้หรือไม่ จนเมื่อยอมกีจองเห็นความสัมพันธ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้จากยอมมีจองที่ได้รับการเชิดชูจากคุณกู (ซนซุกกู) ชายขี้เมาที่ว่างเปล่า เพราะคนอย่างคุณกูอาจเป็นคนประเภทสุดท้ายกระทั่งไม่เคยอยู่ในสายตายอมกีจอง แต่เมื่อสายตาได้จับจ้องความเปลี่ยนไปของน้องสาวยอมกีจองจึงต้องไขว่คว้าหาอิสรภาพของหัวใจจากความรักที่ใฝ่หาอาจเพราะชีวิตของสามพี่น้องเรียบเรื่อยจนปกติเกินไปจึงไม่เห็นการเร่งรีบเพราะใช้ชีวิตแบบนี้มาจนชาชิน กับความรักก็อาจกลายเป็นไม่เร่งรีบโดยเฉพาะยอมกีจองที่บทได้เผยมุมของความเป็นคนมีเสน่ห์และใส่ใจเสน่ห์ของตัวเองมากกว่าน้องสาว และด้วยการเล่าเรื่องผ่านบทสนทนาที่ให้จินตนาการก็ทราบว่ายอมกีจองคือคนที่มีผู้ชายมากหน้าเข้ามาในชีวิตเพื่อที่จะเสนอตัวมาเป็นคู่ใจและพบกับการสารภาพรักมากมาย แต่บางครั้งมารร้ายก็มาในคราบสาวสวยเมื่อเธอเองได้ปฏิเสธหนุ่มๆที่เข้ามาในชีวิตมากมายอันไม่ต่างจากการสร้างแผลใจให้คนเหล่านั้น แต่...เวลายังทำหน้าที่ของมันอย่างเคร่งครัดเมื่อเวลาจะเอาสิ่งที่หวงแหนที่สุดของทุกคนไปด้วยนั่นคือสังขาร โดยเฉพาะผู้หญิงจะรู้สึกสูญเสียสังขารเร็วกว่าผู้ชายอาจเพราะหัวใจที่ละเอียดอ่อนกว่า และเมื่อยอมกีจองได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของน้องสาวผ่านชายผู้ว่างเปล่าเธอจึงตั้งมั่นว่าจะมีความรัก...เสียทีเมื่อรู้ว่าไม่อาจอยู่ได้โดยไร้รักก็พบว่าเวลาไปพาอายุมาอยู่ในจุดที่หมิ่นเหม่ต่อคำว่าสาย ซึ่งถ้าให้เดาจากสายตาผู้ชายคงมองว่ายอมกีจองมองหาผู้ชายที่สมบูรณ์แบบในสายตาที่เป็นคนที่คู่ควร แต่เพราะความรักมักไร้ความปราณีใครจะคิดว่าความรักจะมาพร้อมโดยบังเอิญเพราะปากพาจน เมื่อคนที่เข้ามาไม่ใช่คนที่สมบูรณ์พร้อมอย่างโชแทฮุน (อีกีอู) พ่อเลี้ยงเดี่ยวที่หัวใจไร้อิสรภาพพอกันจนต้องเข้าร่วมชมรมอิสรภาพกับยอมมีจอง การรับรู้ว่าวาจาตัวเองไปทิ่มแทงความรู้สึกคนอื่นยอมกีจองอาจรู้สึกผิดและด้วยความบังเอิญอีกที่โชแทฮุนเป็นน้องชายของเพื่อน นับแต่นั้นมายอมกีจองจึงมิอาจมีชีวิตที่สุขสงบเพราะหัวใจพร้อมจะโบยบินแต่ติดอยู่ที่กรงที่กักขังหัวใจแข็งแรงเกินไป สิ่งที่ทำได้คือยอมรับตัวเองว่าชอบโชแทฮุนเข้าแล้ว และต้องพยายามทำตามหัวใจนั่นคือการได้คบหาดูใจกับโชแทฮุนแต่กรงของโชแทฮุนก็แข็งแรงไม่แพ้กันถ้าไม่มีอุปสรรคอาจไม่เจอกับรักแท้ เพราะบางครั้งรักแท้ก็ต้องผ่านอุปสรรคร่วมกันจึงจะพิสูจน์ความรักได้ และที่ต้องเชิดชูมุมนี้ก็คือบทละครที่ไม่ได้วางไว้ให้อุปสรรคของความรักคือผู้ร้าย บทเลือกที่จะไม่เผยมิติหลังฉากของภรรยาเก่าที่กำหนดทัศนคติต่อยอมกีจองของโชยูริม (คังจูฮา) ที่มีต่อแฟนของพ่อ ซึ่งมันคือการไม่ทำให้ใครเป็นฝ่ายผิดเพราะเรื่องของหัวใจมักไม่มีใครผิดหรือถูก หรือกระทั่งพี่สาวสองคนของโชแทฮุนที่หนึ่งสนับสนุนและหนึ่งต่อต้านที่มันคือความสามัญเมื่อมีคนมาแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ที่ดีอยู่แล้ว และมันก็คืออุปสรรคที่กัดกร่อนเพราะโชแทฮุนก็ทำอะไรไม่ได้มากเมื่อการเลี้ยงลูกเพียงตัวคนเดียวได้สร้างกำแพงบางอย่างเพราะความรักลูก และเมื่อเป็นแบบนี้ไม่ว่าใครก็อาจท้อใจและยอมแพ้ซึ่งยอมกีจองก็เกือบยอมแพ้ แต่สิ่งที่ยังพยุงให้เธอยังเชื่อมั่นว่าความรักอาจโหดร้ายแต่ความรักก็มีมุมที่ปราณีคนที่ศรัทธาในความรัก"ถ้าคิดว่าใช้ชีวิตอยู่คนเดียวได้ก็อยู่คนเดียวเถอะ พวกแกทำแบบนั้นได้" เสียงสะท้อนของพ่อผู้ไม่เคยอยู่ลำพังไม่เคยหยิบจับอะไรเพราะมีคนทำให้ทุกอย่าง จนเมื่อชิ้นส่วนสำคัญของชีวิตหายไปจึงรู้ว่าการทำใจให้ชินกับอยู่คนเดียวใจมันคือความเจ็บปวดอ้างว้างและอาลัย และอาจเป็นได้ว่าพ่อได้สะท้อนให้ยอมกีจองฟังเมื่อพ่อสังเกตเห็นความโหยหาความรักของลูกสาวและเห็นความเปลี่ยนแปลงของลูกสาวว่ามีอะไรกระทบในใจ เช่นกันกับความเศร้าในใจโชแทฮุนที่ได้รับรู้ว่าแม่ผู้ได้เห็นหน้าว่าที่ลูกเขยก่อนตาย ได้เลี้ยงข้าวลูกเขยเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายมันบีบรัดขนาดไหน และมันอาจเป็นภาระหนักอึ้งให้เขาแบกเพราะความเศร้าจนต้องการตอบแทนให้ดีทั้งที่ยังมีปัจจัยที่เอาชนะยากอยู่เบื้องหลังคือลูกสาวและพี่สาว ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจโทษพวกเธอได้เพราะบางครั้งการเข้ามาแทรกกลางความสัมพันธ์มันน่าหวาดหวั่นเพียงใดคนที่เคยพบมาอาจอธิบายได้อาจเพราะวุฒิภาวะได้สร้างความกลัวที่จะมีความสัมพันธ์ที่ผูกมัด หรืออาจเพราะการจะมีใครสักคนเข้าในชีวิตไม่ใช่แค่เรื่องของคนคนเดียว แต่ความเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ชายคนเดียวในบ้านอาจต้องคิดถึงความรู้สึกของคนข้างหลังโดยเฉพาะลูกสาว เมื่อการเข้าใจผิดเพราะคิดว่ายอมกีจองท้องและออกอาการบางอย่างมันก็คือความไม่มั่นใจให้ยอมกีจองและคงว่าเธอไม่ได้เพราะถ้าใครได้เจอเหตุการณ์แบบเธอก็คงคิดไม่ต่างกันความสัมพันธ์จึงขยับเข้าสู่จุดหมิ่นเหม่ แน่นอนว่าสำหรับยอมกีจองครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่คนในวัยเธอจะได้พบความรักดีๆเพราะบางทีเผลอนิดเดียวอายุก็ถึงเลขห้าสิบแล้วดังเช่นพี่สาวที่โต๊ะข้างๆ แต่รักแท้ย่อมมาจากความหนักแน่นที่มากพอโชแทฮุนที่มีวุฒิภาวะพอจะยินดีจะประคองทุกความรู้สึกและกอบกู้ความรู้สึกของยอมกีจอง ทำให้กรงที่กักขังคนทั้งสองที่ไม่เหมือนก็คล้ายกันไปเปิดออกและพบอิสรภาพเรื่องของยอมกีจองอาจไม่หวือหวาเพราะคนในวัยประมาณนี้จะซื่อตรงต่อหัวใจ อาจเพราะชีวิตได้ผ่านอะไรมามากมายทำให้หัวใจด้านชาจนเมื่อมีอะไรเข้ามาจะไม่สามารถโกหกตัวเองได้ เพราะอะไรที่สามารถโยกคลอนหินผาได้ก็คือความแรงที่มากพอและหนึ่งในสิ่งที่ทำได้คือความรัก กรงที่ปิดกั้นอิสรภาพทางใจของทั้งยอมกีจองและโชแทฮุนอาจมีที่มาต่างกันแต่ก็มีจุดร่วมเดียวกันคือการปิดกั้นหัวใจในเรื่องความรัก กระนั้นเรื่องของยอมกีจองที่ดูแล้วอาจไม่โดดเด่นล้ำกว่าเรื่องของน้องทั้งสองคนแต่ก็เป็นเรื่องที่มีน้ำหนักเพราะเล่ามิติของวัยวุฒิอีกขั้นหนึ่งซึ่งอาจเป็นรถด่วนขบวนสุดท้าย แต่ความรักก็มักเป็นเช่นนี้คือไม่เลือกเวลาและสถานการณ์ใดขอแค่หัวใจซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ความรักก็มีพลังพอที่จะโยกคลอนกรงขังหัวใจให้ปลิดปลิวไปได้พร้อมปล่อยหัวใจให้โบยบินเพราะคำว่ารักแท้ และรักแท้ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะปล่อยหัวใจให้เป็นตัวกำหนดชีวิตดูไปบ่นไปNETFLIXขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Facebook JTBC Dramaภาพที่ 9 / ภาพที่ 10 จาก Facebook Netflix คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน