โซนี พิคเจอร์ส กดปุ่มขอผ่าน ยอมถอยทัพหนังฟอร์มใหญ่ รอจนกว่าโลกเป็นปกติ
ข่าวสารวงการหนัง
ในขณะที่สตูดิโอหนังยักษ์ใหญ่ระดับโลกค่ายต่างๆ ก็มองหาช่องทางในการแก้ไขปัญหาและวิกฤตจากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 ที่พิษสงน่าจะต่อเนื่องยาวไปตลอดทั้งปี 2020 ไม่ว่าจะเป็น วอลต์ ดิสนีย์ ที่มีหนังบ็อกซ์บัสเตอร์อยู่ในมากมาย รวมทั้งหนังในจักรวาลมาร์เวลที่รอฉาย แต่ล่าสุดพวกเขาก็เลือกที่จะโยกหนังฟอร์มดีไปฉายรูปแบบสตริมมิ่งแทน ขณะที่ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ก็บ้าดีเดือด ยอมปล่อยหนังทุนสูงของตัวเองออกฉาย ทั้งที่รู้ดีว่าผลลัพธ์รายได้อาจจะไม่ดีเท่าที่คาดหวังเอาไว้
แต่ในมุมกลยุทธ์ธุรกิจวงการหนังของสตูดิโอ โซนี พิคเจอร์ส นั้น ต้องยอมรับว่าพวกเขายังไม่กล้าเสี่ยงที่จะปล่อยผลงานอันทรงคุณค่าของค่ายหนังออกไปในเวลานี้ เพราะปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ มากมายที่มีแต่จะส่งผลต่อบริษัท พวกเขาเลือกที่จะรอไปก่อน รอไปจนกว่าสถานการณ์ต่างๆ ของโรคระบาดจะฟื้นตัวดีขึ้น หรือให้ดีที่สุดก็คือโรงภาพยนตร์กลับมาฉายได้ตามปกติมากที่สุด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เห็นว่า โซนีเลื่อนโปรแกรมฉายหนังของตัวเองไปแทบจะเกือบทั้งหมด
"โทนี่ วินคิเคเอร์รา" ผู้บริหารใหญ่ของโซนี พิคเจอร์ส เพิ่งจะออกมาให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับภาคธุรกิจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เขายอมรับว่า ค่ายหนังยังไม่ต้องการที่จะเดินหมากที่ผิดพลาดในเวลานี้ เขายังไม่ได้ต้องการให้หนังที่ใช้ทุนสร้างกว่า 200 ล้านเหรียญ ออกฉายในตลาดตอนนี้ เพราะเท่ากับว่าเป็นเสียประโยชน์และฆ่าตัวตายชัดๆ
ฟังดูแล้วเหมือนซีอีโอของค่ายหนังโซนีจะเหน็บแนมไปถึง "Tenet" จากทางฝั่งวอร์เนอร์ฯ ที่ได้ตัดสินใจนำหนังออกฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกไปแล้ว โดยหนังทำเงินเปิดตัวในอเมริกาไป 20 ล้านเหรียญ ภายใต้สถานการณ์ยุค new normal และทำเงินไปทั่วโลกได้ทะลุหลัก 150 ล้านเหรียญไปได้แล้ว ดูเป็นตัวเลขผลลัพธ์ที่น้อยนิด หากว่าเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่หนังควรจะทำเงินไปได้มากกว่า 500 ล้านเหรียญได้แล้ว
ผู้บริหารใหญ่ของโซนี พิคเจอร์ส เปิดเผยว่า ในเวลานี้ค่ายหนังได้ถอยไปตั้งหลักใหม่และรอเวลาอีกอย่างน้อยๆ 6 เดือน ถึงจะหาวิธีและแนวทางในการปล่อยผลงานของตัวเอง ประกอบกับการพิจารณาดูสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้ในปี 2020 นี้ โซนีจะเหลือแค่เพียงการปล่อยหนังเล็กๆ ออกฉายเท่านั้น และยังมุมเน้นไปกับการสร้างรายได้ในการฉายผลงานผ่านสตรีมมิ่งแทนไปก่อน เห็นได้จาก "Greyhound" ที่ออกฉายไปแล้ว
หากพิจารณาดูแล้ว โซนี พิคเจอร์ส ในปี 2020 ก็เหลือแค่เพียง "The Broken Hearts Gallery" หนังรักเล็กๆ ที่จะออกฉายในอเมริกาสุดสัปดาห์นี้ ส่วนโปรแกรมหนังเรื่องอื่นๆ ของค่ายก็ได้เลื่อนฉายไปปี 2021 แทบหมดทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น "Ghostbusters: Afterlife", "Morbius", "Monster Hunter" หรือ "Venom: Let There be Carnage" เป็นฟอร์มดีของค่ายที่รอสแตนบายในช่วงครึ่งแรกของปี
ในขณะที่ "Uncharted" ที่วางคิวเอาไว้ในฤดูร้อนปี 2021 มีแววจะได้เลื่อนฉายออกไปอีก เพราะการถ่ายทำยังค่อนข้างขรุขระ เช่นเดียวกับภาคใหม่ของ "Spider-Man" ที่ไม่น่าจะเปิดกล้องได้ทันในปีนี้แล้วแน่ๆ มีข่าวล่าสุดระบุว่าตารางงานของ ทอม ฮอลแลนด์ ยังแน่นเอียด และ Uncharted ก็ยังล่าช้าอยู่ มีสิทธิ์ที่ Spider-Man 3 จะต้องเลื่อนถ่ายทำไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 และส่งผลทำให้วันฉายของหนังในช่วงปลายปี 2021 จะต้องเลื่อนออกไปด้วย
อย่างไรก็ตาม โซนี พิคเจอร์ส ยังเป็นค่ายหนังที่ไม่เจ็บตัวหนักเท่าไหร่ในปี 2020 เพราะพวกเขาได้ความสำเร็จของ "Bad Boys For Life" มาช่วยเกื้อหนุนเอาไว้ตั้งแต่ต้นปี และปัจจุบันยังคงเป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดในปีนี้ ด้วยรายได้ 204.4 ล้านเหรียญในสหรัฐอเมริกา ที่ยังไม่มีหนังเรื่องไหนมาโค่นสถิติได้เพราะติดโควิดกันอยู่
Source: The Wrap
----------------------------------------------------