รีเซต

First Impressions: ความรู้สึกแรกที่มีต่อซีรีส์เกาหลี "Alice"

First Impressions: ความรู้สึกแรกที่มีต่อซีรีส์เกาหลี "Alice"
Jeaneration
30 สิงหาคม 2563 ( 13:30 )
1K

รีวิวซีรีส์ Alice

ใครจะไปนึกว่าเกาหลีจะกล้าที่จะไปจับแนวความคิดที่ผู้กำกับระดับโลกอย่าง "คริสโตเฟอร์ โนแลน" ยังคงหมกหมุ่นอยู่ในตอนนี้ นำเอามาสร้างเป็นฉบับซีรีส์ไซไฟของตัวเอง ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงกลายเป็นความแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นในวงการ "Alice" เป็นซีรีส์ที่ไม่ค่อยจะได้เจอสักเท่าไหร่ในแวดวงนี้ ด้วยการแตะเรื่องของ "เวลา" ผนวกเข้ากับกฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์เอาไว้ด้วยกัน ออกมาเป็นซีรีส์แอคชั่นระทึกขวัญสุดเข้มข้นที่น่าจับตามอง

ออกอากาศไปแค่ 2 ตอนแรก แต่ได้ยินว่าทำเรตติ้งพุ่งกระฉูดแบบก้าวกระโดด จนเรตติ้งเกือบจะแตะเลข 2 หลักได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่พรีเมียร์ฉายเลยทีเดียว แน่นอนว่าองค์ประกอบของซีรีส์น่าจะซับซ้อนอยู่มากโขเลขทีเดียว แต่การนำเสนอออกมาในตอนแรกของซีรีส์เรื่องนี้ ทำให้คนดูรู้สึกประทับใจและกินใจไปกับเนื้อเรื่องที่ปูทางได้อย่างทรงพลัง พร้อมกับค่อยๆ ดำเนินเรื่องไปทีละส่วน เหมือนจะค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ปุบปับกระชับพอสมควร

➡ อ่านเรื่องย่อซีรีส์เกาหลี Alice ได้ที่นี่

ขณะที่ 2 นักแสดงนำของเรื่องนั้น ก็พอจะดูรู้ๆ อยู่ว่าอาจจะไม่ได้มีเลิฟไลน์เซอร์วิสเหมือนกับเรื่องอื่นแน่ๆ เพราะเห็นได้จากเส้นกั้นระหว่างช่วงวัยของนักแสดงทั้งคู่ที่ห่างกันเป็น 10 ปี แถมยังเปิดมาให้ "คิมฮีซอน" เล่นเป็นแม่ของ "จูวอน" ขนาดนั้นเสียแล้ว คาดว่าจะต้องมีพล็อตรองที่น่าสนใจกว่าประเด็นความรักของตัวละคร

ถึงแม้ว่าเพียงแค่ 2 ตอนแรกของซีรีส์ยังคงไม่สามารถบอกรายละเอียดได้มากนัก แต่ต้องยอมรับเลยว่า Alice ทำให้เกิดแรงจูงใจที่อยากจะติดตามต่อไป ด้วยหลายองค์ประกอบที่ยังสงสัย เช่น อลิซคืออะไร? เดินทางข้ามเวลาได้อย่างไร? หรือ พัคจินกยอมเป็นคนพิเศษหรือเปล่า? คำถามมากมายยังรอคอยคำตอบอยู่ ส่วนตอนนี้เราก็พอจะได้ข้อสรุป First Impressions ออกมาได้ 4 ข้อหลักๆ แบ่งเป็น 3 ประเด็นที่เราชอบ กับอีก 1 ประเด็นที่ยังไม่ค่อยโอเคเท่านั้น จะมีอะไรบ้างตามไปดูเลย

Love: พล็อตเรื่องที่กล้าท้าทายและแปลกใหม่

เอาจริงๆ ก็เคยเห็นพล็อตซีรีส์ไซไฟจากเกาหลีมาพอประมาณ แต่บอกได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้กล้าที่แปลกแตกต่างไปจากเรื่องอื่นๆ อาจจะฉีกแนวเลยก็ได้ แม้ว่าจะอยู่บนพื้นฐานของการข้ามมิติหรือไปอีกโลกหนึ่ง แต่เรื่องนี้ได้ใช้หลักการทางฟิสิกส์มาใช้อธิบายแทน (แต่ก็คงไม่ได้หลักการจ๋าๆ ขนาดนั้น)

บางประเด็นยังเกิดอาการสะกิดใจ ไม่ว่าจะเป็น การเดินทางข้ามเวลา, มิติทับซ้อนที่ต่างเวลา หรือ ก้าวข้ามผ่านทางรูหนอน มันเป็นอะไรที่เราเคยได้ยินได้เห็นมาจากสิ่งที่ คริสโตเฟอร์ โนแลน นักทำหนังชื่อดังพยายามจะปลุกปั้นในหนังของเขา เมื่อมาอยู่ในรูปแบบซีรีส์ที่พล็อตคงไม่แข็งแรงเท่า แต่ก็กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจและกล้าที่จะหยิบเรื่องราวไกลตัวคนมานำเสนอในรูปแบบไซไฟแฟนตาซี เพิ่มความดราม่าของเนื้อเรื่องไปตามแนวถนัด ทุกอย่างจึงออกมาค่อนข้างน่าสนใจและน่าติดตาม

Love: การแสดงของ จูวอน กับ คิมฮีซอน ไม่เคยทำให้ผิดหวัง

นี่เป็นผลงานการแสดงเรื่องแรกในรอบ 3 ปีของพระเอกหนุ่ม จูวอน หลังจากที่เขาปลดประจำการจากทหารมา หนุ่มที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมาครบ 10 ปีพอดี ผู้ที่มีพรสวรรค์ในการขยี้บทดราม่าได้ดีโดยแท้ และในเรื่องนี้เขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง นับว่าเป็นบทที่เข้าทางของเขาเลยก็ว่าได้ เป็นชายบุคลิกไร้ความรู้สึก ดูเย็นชา เหมือนบทนี้เกิดมาเพื่อเขาจริงๆ ด้วยสีหน้านิ่งๆ ที่ดูอะไรในใจของเขา ยิ่งขับเคลื่อนให้ซีรีส์ดูมิติมากขึ้น

มาเจอกับ คิมฮีซอน นางเอกรุ่นพี่ที่อยู่วงการมาเกือบจะ 30 ปี เธอยังคงเหมาะสมกับตำนานดาวค้างฟ้าของวงการซีรีส์เกาหลีจริงๆ เพราะไม่ว่าจะต้องมารับบทเป็นแม่ผู้อดกลั้น และแปลงโฉมมาเป็นนักฟิสิกส์สาวค่อนข้างหัวร้อน ไม่ว่าจะบทไหนๆ เธอก็รับมือได้ทั้งหมด ยิ่งมาทางดราม่าเป็นแนวถนัดของเธอเลย แต่ท้าทายความสามารถอีกระดับที่เรื่องนี้ต้องมาบู๊โชว์ด้วย เป็นอีกบทบาทที่ไม่ค่อยได้เห็นจากผู้หญิงคนนี้เท่าไหร่ และเธอก็ไม่ทำให้ผิดหวังเหมือนกัน

Hate: คาแรกเตอร์เยอะและทับซ้อนกันจนคนดูจำไม่ได้

ข้อนี้อาจจะเป็นอาการวิตกกังวลส่วนตัวไปเสียก่อน เพราะเข็ดหลาบมาจากซีรีส์ดังอย่าง The King: Eternal Monarch มาแล้ว กับพล็อตที่เต็มไปด้วยตัวละครเยอะแยะไปหมด ทำเอาคนดูจำไม่ได้เลยว่าใครเป็นใครบ้าง ซีรีส์เรื่องนี้ก็อาจจะเข้าข่ายเป็นเช่นนั้นก็ได้ เอาเป็นว่าจำตัวละครหลักๆ 4-5 ตัวได้แล้ว แต่คาแรกเตอร์อื่นๆ ที่โผล่ออกมายังค่อนข้างงง ไหนจะมีการทับซ้อนของตัวละครที่เกิดขึ้นต่างมิติเวลาอีก เอาเป็นว่าเตรียมใจไว้เผื่องงตั้งแต่นี้แล้ว แต่เท่าที่ดูจาก 2 ตอนแรกก็คิดว่าอาจจะไม่เกาหัวไม่แรงเท่าตอนดูซีรีส์ของอีมินโฮ บอกตรงๆ ไม่ค่อยชอบเลย...ตัวละครออกมายั้วเยี้ยขนาดนี้

Love: เทคนิคพิเศษตระการตา...ต้องยกนิ้วให้

ได้ยินมาว่าซีรีส์เรื่องนี้ได้เริ่มถ่ายทำกันมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 เดิมจะลงคิวออนแอร์ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่เพราะซีรีส์ยังเสร็จไม่เรียบร้อย เนื่องจากเนื้องานต้องใช้เทคนิคพิเศษและใส่ซีจีประกอบเข้าไปในเรื่องค่อนข้างเยอะ จึงทำให้การทำงานขั้นตอนหลังการถ่ายทำของเรื่องนี้ค่อนข้างล่าช้าไปสักหน่อย แต่ผลงานที่ออกมาก็ถือว่าค่อนข้างน่าพอใจ ซีจีอาจจะยังไม่เนียมกริบสมบูรณ์แบบ แต่ก็ถือว่ามุมภาพและงานออกแบบฉากแอคชั่นต่างๆ ออกมาได้น่าสนใจและชวนติดตาม ในส่วนนี้แค่ 2 ตอนคงยังพูดอะไรมากไม่ได้ แค่เชื่อว่าน่าจะได้เห็นการเทคนิคล้ำๆ ออกมาอีกแน่นอน

Photo by SBSDrama

----------------------------------------------------

>> ดูหนัง ดูซีรีส์ออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<