The Platform “เดอะ แพลตฟอ์ม” หนังสเปนของเน็ตฟลิกซ์ที่อยู่ในกระแส ณ ขณะนี้ กำกับโดย Galder Gaztelu-Urrutia (กัลป์เดอร์ กัซเตลู อูร์รูเดีย) สร้างมาให้คิดวิเคราะห์ถึงประเด็นที่ตัวหนังจะสอนเราได้อย่างชาญฉลาด สำหรับผมยกให้เป็นหนังเสียดสีอีกเรื่องที่ดีมาก เป็นรองแค่ Parasite "ชนชั้นปรสิต" ภาพยนตร์จากเกาหลีใต้ที่เสียดสีสังคมมนุษย์ได้สนุกอย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะซีรีส์และหนังในปัจจุบันที่ปล่อยออกมาช่วงนี้มักจะเล่นประเด็น ความเชื่อ ปรัชญา โครงสร้างทางสังคม ระบอบการปกครอง ไม่เว้นแม้กระทั่งศาสนาที่มีอยู่ในเรื่องนี้เช่นกันในหนังจะบอกเล่าเรื่องราวของโกเรง ที่รับบทโดย (Ivan Massagué) เมื่อโกเรงตื่นขึ้นมาในหลุมชั้น 48 เขาก็พบเจอกับเพื่อนรวมห้องโดยเป็นชายแก่ ๆ ชื่อธิมากาสิ รับบทโดย (Zorion Eguileor) ก่อนที่โกเรงจะเข้าไปทักทายทำความรู้จัก เขาก็รู้ว่าในคุกหลุมแนวตั้งที่มีหลายร้อยชั้น ตรงกลางมีรูที่สามารถมองทะลุผ่านได้หมด ซึ่งคนในคุกอยู่ในสภาพเดียวกันหมดโดยแต่ละชั้นจะมี 2 คน กับ 2 เตียง และพื้นที่ทำความสะอาดล้างหน้าแปรงฟันและโถส้วมเอาไว้ปลดทุกข์โกเรงที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับข้อสงสัยก็ได้ถามลุงธิมากาสิ ซึ่งได้ความว่าหลุมนี้มีอยู่เพื่อการกิน และนายโชคดีแล้วที่ได้มาอยู่ในชั้น 48 โดยทุกชั้นทุกคนเมื่อครบหนึ่งเดือนผู้ปกครองคุกจะทำการเปลื่ยนสลับคนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดข้อสัญญาและได้ออก คุยได้แปบ ๆ เสียงเตือนก็ดังขึ้นพร้อมเปลี่ยนจากไฟแดง ๆ เป็นเขียว และไม่นานก็มีแท่นหินบรรทุกอาหารโผล่ลงมาจากชั้นบน ลุงไม่รอช้ารีบเข้าไปกินอย่างเร็วไว โกเรงที่ยื่นดูแบบงง ๆ ได้สังเกตเห็นว่าอาหารที่อิตาลุงกินเข้าไป มันคืออาหารเหลือที่ผ่านการกินจากคนข้างบนมาแล้วกว่า 47 ชั้น ทำให้เขาหมดอารมณ์กินไม่ลง และเลือกหยิบแอปเปิ้ลที่สภาพพอกินได้เก็บเอาไว้แทนเมื่อหมดเวลาแท่นอาหารก็ค่อย ๆ เลื่อนลงไป ตาลุงที่กินอย่างเอร็ดอร่อยได้ยืนถุยน้ำลายลงข้างล่างแท่นอาหาร โกเรงเลยถามทำแบบนั้นทำไม (โกเรงคงคิดในใจ ตาแก่นี่ถ่อยชะมัด) ลุงถ่อยเลยบอกว่า พวกข้างบนก็คงจะทำแบบเดียวกันแกจะสนไปทำไม ต่อมาจู่ ๆ อุณหภูมิในห้องเกิดร้อนขึ้นมาซะงั้น ลุงแก่ตาถ่อย เอ้ย ลุงถ่อยตาแก่ก็ได้บอกเพื่อให้รู้ว่าเราไม่สามารถเก็บอาหารไว้ในห้อง ต้องกินในเวลาที่แท่นยังอยู่เท่านั้น ไม่งั้นอุณหภูมิในห้องจะเพิ่มหรือลดลงทำให้ร้อนและหนาวตาย ซึ่งโกเรงจะทำอย่างไรต่อจากนี้ จะออกจากคุกได้หรือไม่ เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นยังไง เพื่อน ๆ สามารถสารต่อกันได้ที่ Netflix เลยนะครับผมหลังจากดูจบขอยกประเด็นของหนังที่ได้เข้าใจคือ เป็นการจัดการที่ผิดพลาดของผู้ดูแล เมื่อดันเชื่อว่าการทำอาหารหรู ๆ อาหารโปรดของแต่ละคนใส่ลงแท่นเลื่อนไปเรื่อย ๆ ทุกคนจะได้กินและแบ่งปันกัน แต่หารู้ไม่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น คนชั้นบน ๆ จะสวาปามเละเทะเท่าไหร่ก็ได้ เปรียบได้กับผู้บริหารที่ไม่เข้าใจในลูกทีมของตนเอง สร้างระบบขึ้นมาเพื่อแบ่งแยกชนชั้น ทางเดียวที่จะสื่อถึงพวกบน ๆ ได้คือ การรวบรวมแนวคิดเดียวกันเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบคนที่มีอำนาจสูงสุดจะทำอะไรกับสิ่งที่มากับแท่นก็ได้ (คนชั้นบน) เมื่ออาหารเป็นตัวแทนของที่ชอบกิน แต่คนชั้นบนดันเลือกกินทุกอย่าง มาถึงชั้นกลางเมื่อมีโอกาสได้กินพวกเขาก็กินจนหมด (คนชั้นกลาง) เมื่อแท่นมาชั้นล่างก็พบเพียงภาชนะใส่เศษอาหาร หรืออาจจะไม่มีแม้แต่เศษให้เลียเพื่อประทังชีวิต ทำให้คนชั้นล่างต้องอดอยาก และบางคนก็ต้องดิ้นรนหาทางเพื่อให้ตนได้มีชีวิตรอด แม้แต่เพื่อนรวมห้องที่อยู่ด้วยกันมาก็ยังไม่เว้น โดยหวังว่าสักวันอาจได้ไปอยู่ในชั้นที่สูงกว่านี้ (คนชั้นล่าง) ซึ่งไม่ว่าชั้นไหนก็ตามต่างคนต่างก็เห็นแก่ตัวซะส่วนใหญ่โดยส่วนตัวสำหรับผมแล้วเป็นหนังที่สอดแทรกทั้งปรัชญาและนัยสำคัญพอสมควร หากใครที่ไม่ชอบตีความหลังดูจบอาจจะเป็นข้อเสียอย่างนึงของหนังแนวนี้ เพราะในเรื่องมักมีปริศนาหลายอย่างที่บทยังไม่เฉลยให้คนดูเข้าใจมากนัก เหมาะสำหรับท่านที่ชอบคอหนังแนวนี้หรือดูแล้วยังไม่เก็ตก็สามารถหาบทสรุป+หาสปอยทางอ้อมดูได้เลยหากใครอยากรับชมสามารถดูได้ทาง Netflix และที่สำคัญสามารถรับชมเน็ตฟลิกซ์ผ่านทาง True ID ได้แล้วนะครับขอบคุณรูปภาพทั้งหมดจาก The Platform Trailer | Netflix YouTube