รีเซต

“เบสท์” น้ำตาคลอ หาก “พ่อสมรักษ์” ผิดต้องกล้าเผชิญความจริง

“เบสท์” น้ำตาคลอ หาก “พ่อสมรักษ์” ผิดต้องกล้าเผชิญความจริง
ดาราเดลี่บันเทิง
13 ธันวาคม 2566 ( 09:17 )
86

“เบสท์” น้ำตาคลอ หาก “พ่อสมรักษ์” ผิดต้องกล้าเผชิญความจริง

         ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตา ลูกสาว “เบสท์ รักษ์วนีย์” กรณี “พ่อสมรักษ์ คำสิงห์” ที่มีข่าวพรากผู้เยาว์เด็กอายุ 17 ปี เผยว่า…

 

          “ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ต้องรอดูว่าทางคดีทนายจะจัดการยังไง รู้เท่าที่พ่อเล่า ซึ่งตรงกับข่าว  ทนายก็บอกว่าจะดำเนินตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนตัวไม่ได้คุยกับพ่อเลย ถ้าถามคือตนรู้ว่าเขาอยู่ขอนแก่นแต่ไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไง แต่มันไม่มีใครรู้สึกดีอยู่แล้ว ทุกคนเสียความรู้สึกอยู่แล้ว รวมถึงผู้เสียหายด้วย ตนก็อยากให้ทุกคนคอมเมนต์กันเบาๆ ให้กำลังใจทุกฝ่าย ในส่วนของครอบครัว แม่และน้อง ตอนแรกเราก็ตกใจเหมือนกัน เราไม่รู้ว่าจะเกิดข่าวนี้ขึ้น พอเรามาคุยกันในครอบครัว มีตน แม่ และน้องชาย ก็โอเคให้กำลังใจกัน ต้องเดินหน้าต่อไป 

          หลายคนตกใจที่ไม่ได้อยู่เป็นครอบครัวแล้ว เรื่องนี้ตนรู้อยู่แล้ว ตอนที่พ่อกับแม่หย่ากัน พ่อกับแม่ก็มาบอกเรา เราก็โอเค แค่ไม่ได้ออกมาพูดเพราะตนรู้สึกว่าพ่อหย่ากับแม่ แต่เขายังอยู่ในบ้าน แค่อยู่คนละห้อง ยังใช้รถที่บ้าน การยุติความสัมพันธ์ของพ่อแม่ เขาก็ได้มาบอกเรากับน้องชาย ตนเข้าใจในเรื่องของความรัก ถ้าเขาไม่สบายใจ เราก็เข้าใจและโอเค ถามว่าอะไรคือสาเหตุตนว่ามันหลายๆ เรื่อง เขาอยู่กันมานานการที่จะหย่ากันก็คงมีหลายๆ เรื่อง ตนไม่ได้ถามสาเหตุเพราะรู้สึกว่าถ้าแม่สบายใจแบบไหนตนก็เอาตามนั้น 

          ตนก็ได้รับกำลังใจจากทุกคน ต้องขอบคุณมากๆเลย ส่วนในเรื่องคอมเมนต์ด้านลบที่เข้ามาหาตน มันปกติไปแล้ว โดนมาเยอะ ก็ขอโฟกัสแค่คนที่ให้กำลังใจเราดีกว่า ส่วนใครที่มาว่าตนก็ขอโทษแทนคุณพ่อ ตนขอบคุณแฟนคลับอีกครั้ง ตนรับรู้มันฮีลใจได้จริงๆ (เสียงสั่น)

          พ่อจะกลับมากรุงเทพ น่าจะได้กลับอยู่แล้วเพราะมีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องเคลียร์ด้วย ทนายก็อยู่กรุงเทพ ส่วนเรื่องที่พ่อบอกว่าจะไปฝรั่งเศส ตนบอกพ่อไปว่าถ้าพ่อผิดก็ต้องยอมรับผิด แต่ถ้าไม่ผิดแล้วอยากไปพักผ่อนที่ฝรั่งเศสตนก็จะออกเงินให้ปกติ แต่ถ้าผิดก็คือผิด ตนก็รักพ่อแม่ปกติ มันเกิดขึ้นแล้ว ตนให้กำลังใจพ่อ แต่ถ้าทำผิดก็ต้องยอมรับ แต่เราไม่มีทางรู้ได้ว่ายังไงเพราะเหตุการณ์คือพ่ออยู่ตรงนั้นกับน้องสองคน ก็รอให้กระบวนการทางกฎหมายพิสูจน์ บอกพ่อคงไม่ได้จะย้ายไปอยู่เลย เพราะมีเรื่องของวีซ่าด้วย ตนยังไม่อยากให้พ่อไป อยากให้พ่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อน ในส่วนแม่ตนไม่ได้พูดอะไรกันมาก แต่แค่มองตาก็รู้แล้ว 

          เรื่องที่เกิดขึ้นมันก็หนัก แต่ไม่เป็นไร เลือกไม่ได้มันเกิดขึ้นแล้ว เดินหน้าดีกว่า ตนในฐานะหัวหน้าครอบครัวก็ต้องซับพอร์ตกันอยู่แล้ว ตนก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน 

          กับสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายพูด ตนไม่เชื่อใครเลย มันพิสูจน์ไม่ได้ เราไม่ได้อยู่ในคืนนั้น จะมีใครพูดความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ไหมเราไม่มีทางรู้ แต่ตนถามทนาย เขาก็บอกว่าตามกฎหมายมันมีวิธีอยู่แล้ว ตนตอบตรงๆ ไม่ได้เชื่อใครเลย รอดูดีกว่า

          คุณพ่อไม่ได้ติดต่ออะไรมา เขาน่าจะคุยกับโบ๊ท น้องชายมากกว่า เขาสนิทกับน้องมากกว่า ถ้าว่าห่วงอะไรบ้าง ตนก็ห่วงอยู่แล้วอยากให้เขาดูแลตัวเองดีๆ ตนไม่ได้ไม่รักพ่อ แต่อะไรที่มันผิดก็พูดไปตามความผิด ตนลำบากใจมากๆ กลัวคนหาว่าไม่รักพ่อ ตนยังรักครอบครัวเหมือนเดิม ณ วันนี้ได้ออกมาพูด ตนเชื่อชาวเน็ตแยกแยะได้ ว่าเรื่องมันเป็นยังไง ให้เป็นไปตามธรรมชาติ เดี๋ยวก็ต้องพิสูจน์ ตรงนี้พ่อมีความผิดอยู่แล้ว ตนต้องขอโทษแทนพ่อด้วย หลังจากนี้ตนขอคุยกับแม่ดีกว่า ส่วนพ่อให้โบ๊ทคุย เราหัวอกผู้หญิงเหมือนกัน ตนไม่ได้ไม่อยากคุย เพราะคุยแล้วแต่สิ่งที่ได้รับมันเหมือนในข่าว งั้นเราก็ดูในข่าวก็ได้ ตนให้กำลังใจแม่ดีกว่า ส่วนพ่อก็ว่าไปตามผิดและยอมรับ ตอนนี้แม่ก็โอเค แต่มันไม่มีใครรู้สึกดี ส่วนตนก็ไม่โอเค แต่ก็ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของตน แต่อยากให้รอดูกระบวนการตามกฎหมาย ตนยังรักพ่อ และขอบคุณทุกกำลังใจ