คลับเฮ้าส์เดือด!! หลัง "เมียหลวง" ร่วมวงแฉ #ผจกโป๊ะแตก
เป็นกระแสครองเทรนด์ทวิตเตอร์ข้ามคืนสำหรับ แฮชแท็ก #ผจกโป๊ะแตก ล่าสุดทำคลับเฮ้าส์เดือดอีกครั้ง หลังมีสาวปริศนาอ้างตัวว่าเป็นเมียหลวงออกมาแฉ สามีแอบแซ่บเด็ก 14 ปี ซ้ำแม่เด็กรู้เห็นเป็นใจ โดยฝั่งภรรยาได้เปิดใจในคลับเฮ้าส์ เรื่องวีรกรรมสามีตัวดี และเด็กอายุ 14 โดย โดยเผยว่าตนและสามีคบกันมา 3 ปี ก่อนที่เด็กคนนี้จะเข้ามาในชีวิต เจอกันตอนแรก ก็รู้แค่ว่าเขาเป็นเด็กนักเรียนที่สามีตัวเองสอนอยู่
จากนั้น สามี ก็ปรึกษาตนว่า อยากลองปั้นนักร้อง ซึ่งตอนนั้นครอบครัวเราไม่ได้รวย จึงต้องเจียดเงินมาใช้ในส่วนนี้เยอะ ตอนแรกเราปั้นนัก นักร้องชาย-หญิง แค่ 2 คน แต่พออยู่กันมาเรื่อยๆ เรารู้สึกว่าทำไมเขาเอ็นดูเด็กคนนี้จัง แล้วเขาก็ชอบพูดลอยๆว่า รักเธอจังเลย อยากเอามาเป็นลูก
และพอเวลาไปเดินห้างก็ชอบเอาเงินให้เด็กคนนี้ ทีล่ะ 500 บ้าง 1000 บ้าง แต่ไม่ให้เด็กผู้ชาย และก็ไม่ให้เราด้วย ทั้งๆ ที่เราเป็นภรรยา หลังจากนั้นก็ทะเลาะกัน ซึ่งตอนนั้นเด็กคนนี้อายุได้ 14 ปี ต่อมาเราเข้าโรงพยาบาล เขาก็ไปถ่ายโฆษณาที่บ้านเด็ก14 แล้วเขาบังเอิญไปเห็นแชทที่ เด็ก14 คุยกับเด็กผู้ชายในค่ายอีกคน เขาก็ร้องไห้แล้วโทรมาหาเรา เราเองก็ร้องไห้เพราะ เขาไปหึงเด็ก14 เราบอกว่า ถ้าเด็กคบกันจริงก็ไปคุยกันดีๆ ว่าไม่ให้คบกัน
จากนั้นเด็กก็โทรมาหาเราว่าไม่มีอะไรกันจริงๆ เราก็เลยบอกว่าค่อยๆ คุยกัน ก่อนที่เด็กทั้งสองคนจะมา ขอขมาว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน ต่อมา เขาร้องไห้มา บอกว่า เขาชั่ว เขาเลว เราเลยถามว่า เป็นอะไร เขาเลยบอกว่า อ้ายฮักเขา เราเลยถามว่ารักใคร เขาก็บอกว่ารัก เด็ก14 และบอกอีกว่า ขอรักต่อได้ไหม ตอนนั้นเราก็ถามว่า มีอะไรกันหรือยัง เขาก็บอกว่ามีแล้ว ที่มาบอกเพราะคิดว่าเรารับได้
พอผ่านไปเดือนนึงเราทนไม่ไหวแล้ว เราเลยบอกเรื่องทั้งหมดกับพ่อแม่เด็ก 14 และแม่เขาก็ตอบเราว่า เดี๋ยวคุยให้ แม่ไม่ซีเรียสเป็นเรื่องธรรมดาของเด็ก ตอนนั้นเราช็อกมาก จากนั้นเราคุยกับเด็ก14 เรากอดเขาแล้วบอกว่า ขอร้องได้ไหม อย่าทำครอบครัวพี่พังได้ไหม ทางนั้นก็พยักหน้า หลังจากนั้นพอเราทักไปถามว่ามีอะไรกันจริงไหม เขาก็บอกว่าอย่าถามแบบนี้ได้ไหม ไม่งั้นจะบล็อก
พอถามแม่เด็กเรื่องสัญญา ถ้าไม่อยากให้ลูกแม่เป็นเมียน้อย หนูฉีกสัญญาค่ายให้เลย ให้ไปอยู่ที่อื่น หนูจะเริ่มต้นใหม่เป็นครอบครัว แล้วแม่เด็กก็แคปไปส่งให้สามมีดู ว่าเมียจะหักหลัง สามีก็ทักมาว่าคิดได้ยังไง ด่าเราสารพัดอย่าง เราก็เลยตัดสินใจว่าจะหย่า แกก็ไม่ฟัง แล้วไปเอาแม่มา แต่แม่แกไม่ชอบเราอยู่แล้ว ทุกคนรุมด่าเรา พี่ชายเขาบอกว่า เราเป็นตัวถ่วงความเจริญ
ต่อมาแม่เราก็พาไปปรึกษาทนาย เรื่องหย่า ว่าฟ้องได้ไหม?! ทนายก็บอกว่าหนูไม่มีหลักฐาน หนูต้องอดทน และสุดท้ายก็ไปหย่ากันจริงๆ แกบอกว่าแกจะให้เงินแสนห้า ก็โอนให้แสนนึง แต่ยื้อไว้อีกส่วนหนึ่งเพราะกลัวเราออกไปจากชีวิตเขา จากนั้นเราก็ขนของกลับบ้าน เขาได้โพสต์ใส่ร้ายเราว่า ภรรยามีชู้ พอจะเป็นเหตุผลให้หย่าได้ไหม ตอนนี้คงจะอยู่รีสอร์ท ด้วยกันแล้ว
เราก็เลยโทรไปถามเขา ว่าทำไมโพสต์แบบนี้ และเขาก็ตอบว่า ไปกับใครล่ะ แล้วก็ไม่ยอมลบโพสต์ ทำให้คนอื่นคิดว่าเรามีชู้ ตัวเองก็เลยโพสต์ว่าเหตุมันเกิดจากใคร ตอนนั้นไม่ได้อยากแฉเขา แค่อยากปกป้องตัวเอง แกก็รีบโทรมา ขอให้ลบโพสต์ เพราะคนไปถล่มด่าแกกับเด็กคนนั้น ก็เลยบอกว่า ไม่ลบ ส่วนแกก็ลบโพสต์ของแกทิ้งไป
และเขาก็ไปโพสต์ว่า หย่ากันแล้วทำไมต้องออกมาพูด หลังจากนั้นทัวร์ก็มาลงเราแทนว่าเราไปเกาะกระแสเด็ก ว่ามีหลักฐานหรอ ตอนนั้นเราเหมือนตายทั้งเป็น กลายเป็นโรคซึมเศร้าต้องไปหาหมอ ส่วนเรื่องท้อง แม่เด็กเป็นคนบอกให้ปล่อยท้องเลย และก็มีคนมาเล่าให้เราฟังว่า เด็กท้องแล้วนะ และที่มีประเด็นว่า จดทะเบียนสมรสกันแล้วรอบแรก แล้วก็เลิกกัน แล้วค่อยมาจดใหม่
เหตุผลเพราะ แม่เด็กไม่พอใจ ที่สามีเอาเงินไปให้แม่บ้าน เลยทะเลาะกันเรื่องเงิน และเมียหลวงยังทิ้งท้ายด้วยว่า ที่ฝ่ายชายแถลงข่าวว่าจบกันด้วยดี เป็นเพราะเราไม่พูดเราไม่ทำร้ายเขา แต่จริงๆ แล้วที่เรารับฟัง ก็เพราะรอวันนี้นี่แหละ
แต่เรื่องนี้จะจริงหรือไม่ คงด่วนสรุปไม่ได้ ต้องรอให้เจ้าของเรื่องออกมาเคลียร์ด้วยตัวเอง
ขอบคุณภาพ Facebook มธุสอน / twitter