หลังจากที่เกิดกระเเสฮือฮาที่ Apple ได้เปิดตัว IPhone SE 2020 เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา กับสเปคที่เเรงสวนทางกับราคาเพราะราคาถูกมาก ถือว่าเป็นไอโฟนที่เปิดตัวมาในราคาที่ถูกที่สุดเลยก็ว่าได้ จุดเด่นของ IPhone SE 2020 ที่นอกจากสเปคจะเเรงเทียบเท่ากับ ตระกูล IPhone 11 เเล้ว คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้อีกนั่นก็คือ Touch ID ทำให้ใครหลายที่คนรักใน Touch ID ก็เริ่มที่จะจับจองเป็นเจ้าของกันเรียบร้อยเเล้ว เเต่ก็ยังคงมีคนอีกไม่น้อยที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเลือกใช้อะไรดีระหว่าง Touch ID กับ Face ID ที่ได้รุ่น IPhone XR เป็นรุ่นที่ใช้ Face ID ราคาถูกที่สุด ในวันนี้นักเขียนได้รวบรวม 7 หัวข้อสำคัญมาเปรียบเทียบกันให้เห็นชัด ๆ กันไปเลยระหว่าง IPhone SE 2020 VS IPhone XR จะเลือกอะไรดี ไปดูกันเลยค่ะ ข้อมูลทั่วไปIPhone SE 2020 ขนาดหน้าจอ : 4.7 นิ้วหน่วยความจำ : RAM 3 ROM 64/128/256 GBชิพ : A13 Bionicสี : 3 สี ดำ เเดง ขาว ราคา : เริ่มต้นที่ 14,900-20,900 (กรณีไม่รวม AppleCare+)IPhone XRหน้าจอ : 6.1 นิ้วRAM : 3 ROM 64/128ชิพ : A12 Bionicสี : 6 สี ดำ เเดง ขาว ฟ้า ส้มคอรัล เหลืองราคา : เริ่มต้น 21,900-23,900 (กรณีไม่รวม AppleCare+) เมื่อทราบสเปคกันคร่าว ๆ เเล้วต่อไปมาลงรายละเอียดเเต่ละอย่างกันนะคะ อย่างเเรก หน้าจอ IPhone SE 2020 ขนาด 4.7 นิ้ว ใช้หน้าจอเเบบ Retina HD IPhone XR6.1 นิ้ว ใช้หน้าจอเเบบ Liquid Ratina HD ขนาดหน้าจอคงเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ ของใครหลาย ๆ คน ที่จะตัดสินใจซื้อรุ่นไหนดี ซึ่งในส่วนนี้ก็คงต้องยกให้กับ IPhone XR ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ ดังนั้นเวลาเล่นเกมหรือดูหนังชมซีรีส์ก็สามารถดูได้อย่างจุใจกันเลยทีเดียว เเต่เมื่อขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ก็ต้องยอมรับกับน้ำหนักเเละขนาดที่ใหญ่ตามมา บางคนก็อาจะชอบหน้าจอเล็ก ๆ เพราะใช้งานถนัดมากกว่า ในส่วนนี้ก็อยู่ที่ความชอบของเเต่ละคนนะคะชนิดของทั้ง 2 จอเเตกต่างกันอย่างไร? หากเปรียบเทียบกันจริง ๆ หน้าจอเเบบ Liquid Ratina HD จะมีความคมชัดเเละเเสดงสีสันได้สมจริงมากกว่า อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Tap to wake ที่มีคุณสมบัติคล้าย ๆ กับฟีเจอร์ Raise to wake ที่จะเป็นการยกไอโฟนขึ้นมาเเล้วไอโฟนจะสว่างขึ้นอัตโนมัติ เเต่เเตกต่างกันที่ Tap to wake จะเป็นการเเตะเพื่อให้หน้าจอสว่างขึ้นนั่นเอง ซึ่งฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้เเค่กับรุ่นที่รองกับ Face ID เท่านั้น ดังนั้นหน้าจอเเบบ Retina HD อย่าง IPhone SE จึงไม่สามารถใช้ได้ เเต่ถ้าถามว่ามันจำเป็นต้องมีไหม ก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น บางคนอาจจะถนัดกับฟีเจอร์ยกหน้าจอขึ้นมามากกว่า อีกทั้งคุณสมบัติทั้งสองยังเหมือนกันเเตกต่างกันที่วิธีใช้มากกว่าค่ะ อย่างที่ 2 ชิพประมวลผลIPhone SE 2020 ชิพ : A13 BionicIPhone XRชิพ A12 Bionicอย่างที่เราทราบกันดีว่า ชิพ A13 Bionic นั้นเป็นชิพใหม่ล่าสุดที่ถูกใช้กับรุ่นตระกูล IPhone 11 ซึ่งมีความรวดเร็วเเละลื่นไหลไม่มีสะดุด ในขณะที่ IPhone XR ใช้ ชิพ A12 Bionic ก็ต้องยอมรับว่าความเร็วในส่วนนี้มีความเเตกต่างกัน เเถม RAM ที่มากับทั่งคู่ยังเป็น RAM 3 เท่ากัน ดังนั้นในส่วนนี้ก็ต้องยกความเร็วให้กับ IPhone SE 2020 ที่มีความเร็วมากกว่า IPhone XR นั่นเองค่ะ อย่างที่ 3 กล้อง ทั้งสองรุ่นมาในกล้องเดี่ยว ความละเอียดกล้องหลัง 12MP รูรับเเสง f/1.8 (ความสามารถในการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ) กล้องหน้า 7MP ในส่วนนี้ถือว่าทั้งคู่มีความสามารถเท่ากัน เเต่จะมีความเเตกต่างกันเล็กน้อย คือ-การวางตำเเหน่ง flash -สตูดิโอจัดเเสงของ IPhone SE 2020 มีให้เลือกถึง 6 เเบบ เเต่ในขณะที่ IPhone XR มีเพียง 3 เเบบ-IPhone SE 2020 มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Quick take คือฟีเจอร์ที่สามารถกดค้างที่ปุ่มถ่ายภาพเเล้วโหมดถ่ายภาพจะกลายเป็นโหมดวิดีโอ ทำให้สามารถถ่ายวิดีได้รวดเร็วมากขึ้น -IPhone SE 2020 สามารถบันทึกวิดีระดับ HD ได้ถึง 60 fps เเต่ IPhone XR สามารถถ่ายได้เเค่ 30 fps หากใครที่เป็นสายถ่ายวิดีโอ สายเซลฟี่ IPhone SE 2020 จะสามารถทำได้ลื่นไหลเเละสมูทมากกว่าค่ะอย่างที่ 4 Touch ID vs Face ID อย่างที่ทราบกันดีว่า IPhone SE 2020 มาในรุ่นที่รองรับ Touch ID ที่มีราคาถูกที่สุดที่เคยเปิดตัวมา ซึ่งในตอนนี้คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าสาเหตุที่ใครหลายคนเริ่มมีความสนใจกับเจ้าตัว Touch ID เพราะสถานการณ์โควิดเป็นเหตุ เนื่องจากเราต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเกือบจะตลอดทั้งวันทำให้หากใช้ Face ID เวลาสเเกนหน้าจอมักจะเจอปัญหาที่สเเกนไม่ค่อยติด ทำให้ตอนนี้ Touch ID นั้นค่อนข้างได้เปรียบ เพราะสะดวกต่อการใช้งานในสถานการณ์เเบบนี้มากกว่าค่ะ เเต่ไม่ใช่ว่า Face ID จะไม่มีข้อดีนะคะ จริง ๆ เเล้วตอนนี้ทาง apple ก็เริ่มอัพเดทซอฟต์เเวร์ให้สามารถสเเกนใบหน้าเเม้สวมใส่หน้ากากได้ค่ะ อีกทั้งกันป้องกันความปลอดภัยเเบบ Face ID ค่อนข้างที่จะสะดวกเเละปลอดภัยมากกว่า นักเขียนเป็นคนที่ประสบปัญหาในการใช้ Touch ID เนื่องจากเหงื่อที่มือเยอะ ทำให้สเเกนนิ้วไม่ค่อยติด หรือบางทีมือปกติก็สเเกนไม่ได้ต้องสเเกนประมาณ 2-3 รอบ ดังนั้น Face ID ก็ถือว่ามีข้อได้เปรียบได้ส่วนนี้ค่ะอย่างที่ 5 ความอึดเเบตเตอรี่IPhone SE 2020 1,821 mAhIPhone XR 2,942 mAhจากข้อมูลที่เราได้มานั้นจะเห็นว่าเจ้าตัว IPhone XR ทำออกมาได้ดีมาก ๆ มีความจุของเเบตเตอรี่ห่างกันเกือบเท่าตัว ทำให้เห็นความต่างของเเบตเตอรี่ทั้งสองรุ่นได้อย่างชัดเจน สายเกมเมอร์ สายซีรีส์นั้นคงตัดสินใจไม่ยากเลยว่าเลือกรุ่นไหนดีใช่ไหมคะ อย่างที่ 6 สี หากใครชื่นชอบในสีสันที่สดใสก็สามารถเลือก IPhone XR ได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ เพราะรุ่นนี้มีให้เลือกถึง 6 สี ด้วยกัน เเต่ละสีก็คือสดใส บ่งบอกตัวตรของผู้ฝช้งานได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว อย่างสุดท้าย ราคาจากที่เราได้เปรียบเทียบกันไปก่อนหน้าถึงราคาของทั้งสองรุ่น คงเห็นความเเตกต่างได้อย่างชัดเจนเพราะช่องว่างของราคาที่ถือว่ากว้างมาก ทำให้ราคาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการเลือกซื้อรุ่นใดรุ่นหนึ่ง ถึงเเม้จะซื้อ IPhone SE 2020 ที่มีความจุสูงสุด คือ 256 GB ก็ยังมีเงินเหลือไปทำอะไรได้อีกมากมาย ในขณะที่ IPhone XR ตัวที่ราคาต่ำสุดก็ราคาอยู่ที่ 21,900 เลยล่ะค่ะ เเต่ในส่วนของราคาที่เเตกต่างกันก็เเลกมากับระบบความปลอดภัยเเละหน้าจอที่เเตกต่างกันนั่นเองค่ะ สรุปหากจะให้พูดถึงในมุมมองของความคุ้มค่าเเละราคา เจ้าตัว IPhone SE 2020 ตอบโจทย์ในส่วนตรงนี้มากกว่า เพราะสเปคที่เทียบเท่ากับ Iphone 11 เพราะใช้ CPU ตัวเดียวกันทำให้ตัวนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก สามารถใช้ได้อย่างยาว ๆ ในราคาที่จับต้องได้จริง อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่รองรับ Touch ID ทำให้ได้เปรียบในช่วงสถานการณ์เเบบนี้ด้วยค่ะเเต่ถ้าหากมองในมุมของเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับคนที่ต้องการจะเปลี่ยนมาใช้ Face ID เเละชื่นชอบขนาดหน้าจอใหญ่สะใจคงจะต้องยกให้ IPhone XR เพราะถือว่าเป็นรุ่นที่รองรับระบบ Face ID ที่ราคาต่ำที่สุด หากใครที่พอจะมีงบเเละอยากจะเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็สามารถเลือกรุ่นนี้ได้เลยค่ะ สุดท้ายเเล้วก็คงบอกไม่ได้ว่าใครดีกว่าใคร เพราะทั้งสองรุ่นที่ต่างมีสิ่งที่อีกรุ่นไม่มี อยู่ที่มุมมองของผู้อ่านเชียร์ใจไปทางไหนมากกว่าค่ะ หวังว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยให้ใครที่กำลังลังเลกับทั้งสองรุ่นสามารถช่วยตัดสินใจได้นะคะ :) ขอขอบคุณรูปหน้า ปก Pixabay เเละ Apple รูปภาพประกอบทั้งหมดจาก Apple