วันนี้ผมจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับรายการเรียลลิตีโชว์เชิงธุรกิจ 'Shark Tank Thailand'รายการนี้ได้ลิขสิทธิ์มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา (ต้นฉบับคือ Money Tigers ของญี่ปุ่น และก็มี Dragon's Den ของอังกฤษ) เป็นรายการที่กวาดเรตติ้งมาแล้วทั่วทุกมุมโลก และก็มาถึงประเทศไทยจนได้ ตอนนี้ Shark Tank Thailand เดินทางมาถึงซีซั่น 3 กันแล้วรายการ Shark Tank คือรายการที่จะให้คนทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็น SMEs หรือ Start-Up เข้ามานำเสนอโมเดลธุรกิจของตัวเองเพื่อขอเงินลงทุนจาก 'Shark' ซึ่งก็คือนักธุรกิจและนักลงทุนตัวจริง รวยจริง จ่ายจริง เปรียบเสมือน 'ฉลาม' ที่ออกมาล่าเหยื่อ แล้ว Shark แต่ละคนคือไม่ธรรมดากันทั้งนั้น พวกเขาคือนักธุรกิจที่รวยระดับพันล้านหมื่นล้าน จุดเด่นของรายการนี้ก็คือการให้พวกเขามานั่งรวมกันแล้วคอมเม้นต์ธุรกิจต่างๆที่เข้ามานำเสนอ ผู้ประกอบการที่มานำเสนอจะต้องบอกว่าต้องการเงินลงทุนเท่าไหร่ จะให้หุ้นกี่เปอร์เซ็นต์ แล้วถ้า Shark คนไหนสนใจจะลงทุนกับธุรกิจนั้น ก็จะทำการยื่น Offer หรือข้อเสนอไปให้ ถ้าตกลงกันได้ ก็จะทำการดีลกันตรงนั้นเลย (รายการนี้จะเป็นเพียงแค่การดีลเบื้องต้นเท่านั้น เมื่อจบรายการแล้วจะต้องไปคุยรายละเอียดกับนักลงทุนกันอีกที รวมถึงการทำสัญญาด้วย มีบ้างที่ได้ดีลในรายการ แต่ออกไปแล้วข้อตกลงไม่ลงตัวจนต้องยกเลิกสัญญา)ความสนุกของรายการ Shark Tank ก็คือการที่ผู้ประกอบการจะได้ดีลไปนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ Shark หรือนักลงทุนแต่ละคนเขาก็ต้องมั่นใจ ว่าธุรกิจนั้นมันจะได้กำไร เพราะงั้นหลังจากนำเสนอธุรกิจจบแล้ว เหล่า Shark ทั้งหลายก็จะยิงคำถามกันรัวๆ เพราะการที่จะลงทุนเงินเป็นแสนเป็นล้านก็ต้องยอมรับความเสี่ยงมากพอสมควร คงไม่มีใครบ้าพอจะเอาเงินไปละลายเล่นกับธุรกิจที่ไม่น่าสนใจและไม่น่าจะทำกำไรได้ในระยะยาว พวกเขาจะต้องคิดคำนวณให้ดีว่ามันคุ้มมั้ยที่จะลงทุน ส่วนผู้ประกอบการที่เข้าไปขอทุนจาก Shark ก็ต้องเตรียมตัวในการนำเสนอให้ดี ต้องบอกให้ชัดเจนว่ากำลังทำอะไร จุดเด่นของธุรกิจนี้คืออะไร จะมาแก้ปัญหาอะไร รายรับเท่าไหร่ รายจ่ายเท่าไหร่ กำไรกี่เปอร์เซ็นต์ จำนวนเงินที่ขอจะเอาไปทำอะไรบ้าง ถ้าบอกได้ไม่ชัดเจน อย่าหวังว่าจะได้เงินจาก Shark ซึ่งก็มีคนที่ผิดหวังไปเยอะพอสมควร หลายคนมักจะตอบคำถามเหล่านี้ไม่ได้หรือตอบไม่ชัดเจนถ้าคุณเคยดู Shark Tank ของอเมริกา บอกเลยว่าถ้านำเสนอไม่ดี โดน Shark ด่ายับ แต่ของประเทศไทยค่อนข้างจะซอฟต์ลงมาก ไม่รู้ว่าเพราะกลัวดราม่า หรือคนไทย Sensitive กับคำพูดแรงๆกันแน่ Shark Tank Thailand เลยไม่ค่อยด่ากันเท่าไหร่ จะเน้นคอมเม้นต์กันอย่างสุภาพ แต่ก็มีบ้างนะที่ Shark พูดแรงๆ ให้เห็นชัดๆกันไปเลยว่าธุรกิจนั้นมีจุดเด่นจุดด้อยยังไง ต้องปรับปรุงอะไรบ้างอีกหนึ่งความสนุกของรายการ Shark Tank คือการเจอธุรกิจที่น่าสนใจมากจนเหล่า Shark แย่งกันลงทุน ซึ่งก็มีให้เห็นกันบ่อยเหมือนกัน บอกเลยว่า Shark แต่ละคนต่อราคากันโหดมาก (ของไทยกดราคาโหดกว่าของอเมริกาเสียอีก) เวลาจะแย่งกันก็บลัฟกันโหดสุดๆ ยื่นข้อเสนอตัดหน้าตัดราคากันเต็มที่ ในกรณีที่มี Shark หลายคนสนใจธุรกิจนั้นจนต้องขอยื่น Offer ผู้ประกอบการก็ต้องเลือกว่าจะยอมรับข้อเสนอของ Shark คนไหน เรื่องแบบนี้มันก็คิดยากนะ บางทีข้อเสนอของแต่ละ Shark อาจให้เงินเท่ากัน แต่ขอหุ้นไม่เท่ากัน หรือบางทีก็อาจจะให้เงินเท่ากัน ขอหุ้นเท่ากันด้วย แบบนี้ก็ต้องพิจารณาจากเงื่อนไขอื่น เช่น คอนเนคชัน สิ่งที่ Shark คนนั้นจะเข้าไปช่วยในธุรกิจนั้นๆได้ ซึ่งเป็นโมเม้นต์ที่สนุกและลุ้นมากของรายการนี้ บางทีก็มีบ้างที่ Shark จะแจมกัน แบ่งหุ้นกัน สามารถเลือกรับการลงทุนจาก Shark ได้มากกว่า 1 คน ทางรายการจะมีกฏว่า Shark ห้ามลดจำนวนเงินที่ผู้ประกอบการขอ แต่สามารถต่อรองเรื่องเปอร์เซ็นต์ของหุ้นได้ เช่น เขาขอทุน 1,000,000 บาท แลกกับหุ้น 20% แต่ Shark คิดว่ามันแพงไป เลยขอต่อเป็น 1,000,000 บาทเท่าเดิม แต่ขอหุ้น 40% (Shark สามารถเพิ่มจำนวนเงินลงทุนได้) ซึ่งผู้ประกอบการก็ขอต่อรองลดหุ้นลงได้อีกเช่นกัน เหตุการณ์แบบนี้ก็มีให้เห็นบ่อย ซึ่งผมว่าดีนะ เพราะบางรายก็ยอมง่ายเกินไป ทั้งๆที่ต่อรองลดลงได้อีก (แต่ส่วนใหญ่ Shark จะไม่ค่อยยอมนะ นอกจากจะมีการแย่งกันเกิดขึ้น เลยอาจยอมลดเปอร์เซ็นต์หุ้นเพื่อจะได้ดีลนั้นตัดหน้าคนอื่น) จะรับข้อเสนอหรือไม่ก็แล้วแต่ผู้ประกอบการเลย ถ้ารับก็ดีลทันที ธุรกิจที่มาจะมีเวลาให้ไม่เกิน 3 นาทีในการนำเสนอ ถ้าหมดเวลาหรือนำเสนอจบแล้ว ก็จะให้ Shark ยิงคำถามและทำการคอมเม้นต์ต่อธุรกิจนั้นๆได้เต็มที่ หรือถ้า Shark ฟังการนำเสนอแล้วไม่ถามอะไร จะยื่น Offer เลยก็ได้เช่นกัน แต่แบบนั้นไม่ค่อยเห็น แต่ละซีซั่นก็จะมีธุรกิจที่น่าสนใจเยอะมาก แต่ก็มีธุรกิจที่เฉยๆ ธุรกิจที่ไม่น่าสนใจ ธุรกิจที่แทบไม่มีโอกาสทำกำไร หรือหนักที่สุดคือธุรกิจที่ดูยังไงก็เจ๊ง จะมีดีไม่ดีปนๆกันมาให้เป็นสีสัน เพราะถ้าจะให้คัดมาแต่ธุรกิจที่ดีๆรายการคงไม่สนุกเท่าไหร่ แต่คุณอย่าคาดหวังว่าจะเห็นธุรกิจแบบว้าวๆที่มาขอเงินลงทุนกันเป็นร้อยล้าน ถามว่ามีมั้ย มันก็มีบ้าง แต่ต้องเข้าใจว่าประเทศไทยเรายังมีธุรกิจแบบนั้นไม่เยอะ เพราะประเทศเรายังไม่ได้เจริญขนาดนั้น เพราะงั้นธุรกิจที่มาใน Shark Tank Thailand ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจเล็กๆ ธุรกิจครอบครัว หรือธุรกิจชุมชนซะเยอะ บางทีก็จะมีธุรกิจที่น่าสนใจมาก สินค้าดี แต่ดันวางแผนการตลาดมาไม่ดี แบบนี้ Shark ก็ไม่เอา แล้วก็มีอีกประเภทที่เห็นบ่อยมาก คือดีทุกอย่างเลย สินค้าก็ดี การตลาดก็ดี แต่มาตกม้าตายเรื่องตัวเลข ที่เห็นบ่อยๆเลยคือธุรกิจที่ประเมินมูลค่าหรือ Valuation ไว้สูงเกินไป แพงเกินไปจน Shark ที่อยากลงทุนด้วยถึงกับถอย บางธุรกิจคุยโม้โอ้อวดเยอะมาก ว่าที่มูลค่าบริษัทสูงแบบนั้นเพราะธุรกิจเรามีโอกาสอย่างนู้นอย่างนี้ แต่กลับไม่มีตัวเลขผลประกอบการที่ชัดเจน แบบนี้ Shark ก็ไม่เอาเหมือนกัน ขอบอกเป็นความรู้เพิ่มเติมนะครับ การตีมูลค่าบริษัทหรือธุรกิจนั้นๆต้องดูหลายเงื่อนไข เช่น รายได้ กำไร อัตราการเติบโต โอกาสในการเติบโตในอนาคต คู่แข่งทางการตลาด ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แต่ละคนก็มีมุมมองไม่เหมือนกัน บางทีผู้ประกอบการอาจจะมองว่าธุรกิจของตัวเองมีมูลค่าสูง แต่ Shark ไม่คิดแบบนั้น เขาอาจจะคิดว่ามันเร็วเกินไปก็ได้ที่จะลงทุนด้วยเงินจำนวนนั้น พวกเขาจึงต้องกดราคา พวกเขามีประสบการณ์ด้านนี้มาเยอะ คงมองออกว่าธุรกิจไหนจะไปได้ไม่ได้หรือควรตีมูลค่าเท่าไหร่ การคำนวณมูลค่าบริษัทก็ไม่ยากครับ สมมติว่าขอเงินลงทุน 2,000,000 บาท แลกกับหุ้น 10% หมายความว่าผู้ประกอบการตีมูลค่าบริษัทตัวเองไว้ 20 ล้านบาท คิดง่ายๆว่า 10% คือ 2,000,000 เพราะงั้น 100% ก็คือ 20 ล้านนั่นเองครับ อีกประเภทที่เห็นบ่อย คือธุรกิจดี สินค้าดี แต่นำเสนอไม่ดี พูดเว่นเว้อ วกไปวนมา ตอบคำถามก็ไม่ชัดเจน มีหลายธุรกิจที่ผมว่าน่าสนใจมาก แต่ผู้ประกอบการกลับนำเสนอไม่ดีจนน่าเสียดาย เท่าที่ผมสังเกต Shark มักจะเลือกลงทุนกับธุรกิจที่สำเร็จมาระดับนึงแล้ว หรือธุรกิจที่วางแผนการตลาดมาเป็นอย่างดี ตอบคำถามชัดเจน และที่สำคัญ Shark มักจะเลือกลงทุนกับธุรกิจที่ตัวเองจะเข้าไปช่วยได้ หรือธุรกิจที่จะมาเป็น Partner ที่ดีของบริษัทเขา ดีลแบบนี้มีให้เห็นบ่อยมากในรายการ มาพูดถึงเหล่า Shark กันบ้าง ตอนนี้รายการ Shark Tank Thailand กำลังออกอากาศเป็นซีซั่นที่ 3 ในแต่ละซีซั่นก็จะมี Shark ที่เปลี่ยนคนไปบ้าง แต่ก็มีคนที่อยู่ยาวๆทั้ง 3 ซีซั่นเลย เช่น คุณหมู ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ จากบริษัทในเครือ Ookbee กับคุณกฤษน์ ศรีชวาลา จากฟิโก้ กรุ๊ป คนนี้ผมชอบมาก เพราะเป็นคนที่มองขาดทุกธุรกิจที่มาเข้าร่วมรายการ คอมเม้นต์อย่างตรงไปตรงมา ข้อดีข้อเสียบอกหมด นอกจากนั้นยังมีคุณเต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี จากบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ในแต่ละซีซั่นก็จะมี Shark ที่ผมชอบเรียกว่าตัวจี๊ดประจำซีซั่น เพราะจะเป็นคนที่คอยสร้างสีสันของซีซั่นนั้นๆ อย่างซีซั่น 1 ผมขอยกให้เป็นคุณกึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ จากโทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ คนนี้คือคอมเม้นต์โหดเหมือนกัน พอเวลาจะยื่น Offer แต่ละทีก็ต่อราคาโหดมาก นอกจากจะเป็นธุรกิจที่เขาอยากได้จริงๆ เขาถึงยอมลดเปอร์เซ็นต์ให้ ซึ่งเขาก็เป็นคนที่ชอบแย่งด้วย ถ้าอยากได้ก็ต้องได้ ผมชอบตรงนี้แหละ นอกจากนี้คุณกึ้งยังชอบให้โอกาสกับธุรกิจที่ดี แต่ขาดเงินทุน เขาค่อนข้างกล้าเสี่ยงพอสมควร ตัวจี๊ดอีกคนของซีซั่น 1 ผมยกให้คุณนิชิตา ชาห์ นักธุรกิจสาวชื่อดัง คนนี้ชอบตีกับคุณกึ้งบ่อยๆ เวลาสองคนนี้แย่งกัน บลัฟกันสนุกมาก แต่ก็มีแจมกันบ้างพอเป็นสีสันในซีซั่น 2 ตัวจี๊ดจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคุณแอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ นักธุรกิจหญิงข้ามเพศที่รวยติดอันดับโลก เจ้าของ JKN Global Group คนนี้ก็คอมเม้นต์โหด แต่ก็ Offer โหดไม่แพ้กัน แม่แอนได้ดีลไปเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร เห็นว่าเขาทำรายการที่อัพเดทด้วย ว่าหลังจบ Shark Tank แล้ว ธุรกิจที่แม่แอนได้ดีลไปนั้นเป็นยังไงบ้าง แม่แอนเปย์โหดจริงๆ ยอมรับเลย เสียดายมากที่แม่แอนไม่ได้มาซีซั่น 3 อยากเห็นแม่แอนกับคุณกึ้งมาด้วยกัน รับรองว่ามันแน่ ถ้าทีมงาน MEDIA tank มาอ่าน จัดให้สองคนนี้มาเจอกันในซีซั่น 4 หน่อยนะครับ อยากดูจริงๆส่วนในซีซั่น 3 ผมว่าจี๊ดทุกคน เลือกไม่ถูกเลย เพราะซีซั่น 3 ที่พึ่งออกมาได้ 7 ตอนนั้นสนุกมาก Offer กันรัวๆเหมือนเงินของ Shark มันเหลือจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ความจริงยังมี Shark อีกหลายคนที่ผมไม่ได้พูดถึง เพราะบางคนก็ไม่ได้มาตลอด แต่เรื่องความรวยนั้นไว้ใจได้ พวกเขามีเงินลงทุนให้เยอะสะใจแน่นอนความสนุกของแต่ละซีซั่นมันก็ต่างกันไปนะ ซีซั่น 1 เราได้เห็นความสดใหม่ ได้เห็น Shark แย่งกัน เถียงกันสนุกๆ ธุรกิจก็น่าสนใจเยอะมาก แต่พอมาซีซั่น 2 การดำเนินรายการกลับดรอปลงซะงั้น เพราะรายการดันไปเน้นช่วงสปอนเซอร์มากเกินไป แต่ก็ถือว่ายังสนุกนะ ฉากรายการสวยขึ้นด้วย มีคุณชาคริตมาเป็นพิธีกรคอยสร้างสีสัน ส่วนธุรกิจซีซั่น 2 ผมว่าไม่ว้าวเท่าซีซั่น 1 แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร ซีซั่น 2 ธุรกิจอาหารเยอะมาก ส่วนซีซั่น 3 ที่พึ่งออกมาล่าสุดนี่ผมว่าสนุกที่สุดแล้ว ขนาดออกมาแค่ 7 ตอนยัง Offer กันรัวๆ แย่งกันทุกตอน บลัฟกันโหดอีก ต่อราคากันก็โหด แล้วการนำเสนอธุรกิจของซีซั่น 3 ก็ดีมากด้วย แต่ละคนคือว้าวมาก เตรียมตัวกันมาดี ได้เรียนรู้จากผู้ประกอบการ 2 ซีซั่นที่ผ่านมาหรือทางรายการคัดมาแล้วก็ไม่รู้ ตั้งแต่ดูมายังไม่เห็นธุรกิจไหนนำเสนอจนหมดเวลา 3 นาทีเลย สุดยอดมาก โปรดักชั่นดีด้วย ฉากรายการสวยและอลังการสุดๆ ดูหรูดูแพงสมกับเป็นรายการของคนรวยๆ มุมกล้องก็ดี เห็นว่าซีซั่น 3 KANTANA มาทำให้ ค่ายนี้การันตีคุณภาพอยู่แล้ว จะติดก็แค่ผู้เข้าร่วมรายการต้องสวมแมสเพราะรายการถ่ายช่วงโควิดยังระบาด เสียงเลยไม่ดีเท่าไหร่ แต่ความสนุกของซีซั่นนี้กลบข้อด้อยไปหมด หยุดดูไม่ได้เลย ซีซั่น 3 ไม่มีพิธีกรแล้ว มีแค่เสียงพากย์บรรยายนิดๆหน่อยๆ เพราะ Shark แพรวพราวขึ้น ดำเนินรายการให้สนุกได้โดยไม่ง้อพิธีกร ผมชอบตรงนี้แหละ ใครที่ไม่เคยดู Shark Tank Thailand ลองเปิดใจดูนะครับ ผมรับรองว่าสนุกแน่นอน ได้ความรู้ด้านธุรกิจจากเหล่า Shark และผู้ประกอบการเยอะมาก คุณอาจจะติดรายการนี้โดยไม่รู้ตัวเหมือนผม ผมอยากให้รายการดีๆแบบนี้คนดูเยอะๆ อยากให้อยู่ไปนานๆเพราะไม่ค่อยมีรายการธุรกิจแบบนี้ในประเทศไทยเลย หรือใครที่กำลังทำธุรกิจแล้วสนใจเข้าร่วมรายการ ก็สมัครได้ที่เว็บไซต์ Shark Tank Thailand ได้เลยครับ รายการ Shark Tank Thailand ซีซั่น 3 ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.30 น. ทางช่อง 7HD ดูย้อนหลังทาง YouTube : MEDIA tankปล. ตอนนี้ถ้าคุณเข้า YouTube คุณจะไม่เจอซีซั่น 1-2 ผมทักไปถามทางทีมงานของรายการแล้ว เขาบอกว่ากำลังปรับปรุงระบบอยู่ รอหน่อยนะครับ ไม่น่าจะนาน ดูซีซั่น 3 ไปก่อนครับ สนุกสุดๆ ถ้าคุณชอบบทความแบบนี้ ก็ฝากกดติดตามเพจ Alone Time ด้วยนะครับ ขอบคุณครับเครดิตภาพปก Facebook : Shark Tank Thailandเครดิตภาพ 1 Facebook : Shark Tank Thailandเครดิตภาพ 2 Facebook : Shark Tank Thailandเครดิตภาพ 3 Facebook : Shark Tank Thailandเครดิตภาพ 4 Facebook : Shark Tank Thailandเครดิตภาพ 5 Facebook : Shark Tank Thailandคอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน