เปิดบทสรุป 'ไมค์-ซาร่า' ปมสิทธิปกครองบุตร เผยค่าเลี้ยงดู-ค่าเทอม คนละครึ่ง
เปิดบทสรุป ‘ไมค์-ซาร่า’ ปมสิทธิปกครองบุตร ค่าเลี้ยงดูค่าเทอมคนละครึ่ง – พ่อขอพบลูกเดือนละ 2 ครั้ง – ซาร่า ชี้ แม้ตกลงกันด้วยดี แต่ความสัมพันธ์กับไมค์ไม่มีทางเป็นเหมือนเดิม
หลังจากที่เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 มีนาคม ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล พร้อมด้วยทนายนิติธร แก้วโต กับทนายสนิท ปัจจายา ทนายความส่วนตัว และซาร่า คาซิงกินี คู่กรณี พร้อมด้วยทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช และทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช ได้เดินทางมาที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อไกล่เกลี่ยครั้งที่ 3 ตามหมายศาล จากกรณีที่นักร้องหนุ่มในฐานะพ่อของลูกได้ยื่นถอนคำร้องขอเป็นพ่อโดยชอบธรรมและสิทธิปกครองบุตรนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
– ซาร่า-ไมค์ นัดไกล่เกลี่ยรอบ 3 ทนายประมาณลั่น ต้องรู้ดำรู้แดง (คลิป)
– ‘ไมค์ พิรัชต์’ ขอบคุณทุกกำลังใจ เผย ‘ได้สิทธิความเป็นพ่อโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว’
ล่าสุด หลังจากใช้เวลาหารือกันกว่า 9 ชั่วโมงไมค์กับซาร่าก็บรรลุในข้อตกลงเกี่ยวกับการดูแลลูก โดยทนายประมาณให้สัมภาษณ์ถึงข้อสรุปที่เกิดขึ้นว่าซาร่าตกลงให้ไมค์เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฏหมาย และไมค์ก็ยินยอมให้ซาร่าเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดู กับเรื่องค่าเทอมจะจ่ายคนละครึ่ง จนถึงป.6 หลังจากนั้นคือตั้งแต่ ม.1 ถึงปริญญาตรี ให้ไมค์ตกลงกับลูก และรับผิดชอบใช้จ่ายในส่วนนั้น สำหรับค่าอุปการะเลี้ยงดูซาร่าจะเป็นคนดูแล แต่ไมค์จะรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันต่างๆ และทั้งคู่จะต้องไปดำเนินการจดทะเบียนรับรองบุตรให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน นับจากวันนี้
เรื่องสิทธิในการเยี่ยมเยียนลูก ทนายประมาณบอกว่าไมค์ขอพบเดือนละ 2 ครั้งแต่ต้องได้ความยินยอมของลูกด้วย โดยการเจอกันหน้าจะเป็นที่จ.ภูเก็ต ที่ลูกอยู่และต้องแจ้งล่วงหน้า 5 วัน
เมื่อถามความรู้สึกของซาร่าว่าพอใจกับข้อตกลงนี้ไหม เธอก็ว่า “จริงๆแล้วก็เป็นเรื่องของลูก ไม่ได้สรุปว่าใครแพ้หรือใครชนะ มันอยู่ที่ว่าเราทั้งสองคนพร้อมที่จะรับผิดชอบลูก พร้อมที่จะดูแลลูกให้ความรักกับลูกเท่าไหนกัน แค่นั้นมากกว่า”
ทั้งนี้ซาร่าบอกว่า แม้การตกลงจะจบกันด้วยดี แต่สำหรับเธอกับเขา “มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้วค่ะ”
“ไมค์กับซาร่าไม่มีทางที่จะเป็นเหมือนเดิม เพราะว่าเราก็มีปัญหากันมานานแล้วเราก็หวังว่าทุกอย่างจะกลับมาดีขึ้นแต่วันนี้มันก็ไม่ได้เหมือนเดิม”
ครั้นถามว่ากับเรื่องต่างๆและข่าวคราวที่เกิดขึ้น ต่อไปถ้าเกิดลูกถามจะมีคำตอบให้ใช่ไหม ซาร่าก็บอกว่า “ในฐานะความรักเ ราไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ในมุมความเป็นแม่ (เสียงสั่น) ซาร่าเชื่อว่าล้านเปอร์เซ็นต์ ซาร่าไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ข่าวเขียน ซาร่าไม่ได้เป็นแม่ที่เอาลูกเป็นตัวประกัน รีดไถ หรือตั้งแง่ หรือกีดกัน ซาร่าไม่ใช่แม่แบบนั้น ซาราเชื่อว่าแม็กซ์เวลล์ก็รู้ ว่าซาร่ารักเขามาก ซ่าราก็อยากให้เขารักพ่อเขามาก เหมือนอย่างที่เขารักซาร่า เพราะฉะนั้นซาร่าเชื่อมั่นว่าแม็กซ์เวลล์จะต้องรู้ว่าที่ซาร่าทำในวันนี้ ทุกอย่างเพื่อเขาจริงๆ”
“ซาร่ามองว่า ซาร่ามีความอดทนค่อนข้างสูง คือถ้าย้อนกลับไปตั้งแต่วันแรก ซาร่าเลือกที่จะเป็นคนฟ้องร้องเขาก่อนก็ได้ แต่ซาร่าไม่เคยทำ ซาร่าไม่เอาศาลมาให้เป็นเรื่องใหญ่โต เรื่องครอบครัวมาถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม อะไรที่ซาร่าอดทนได้ ซาร่าก็อด ก็ยอม เพราะฉะนั้นถ้าซาร่าไม่ได้ถูกกระทำ หรือไม่ได้เกิดอะไรขึ้น มันก็คงไม่เกิดอะไรขึ้น ซาร่ามองว่าที่ผ่านมา 6 ปี ซาร่ากับลูก ไปทำให้เขาจมดิน แบบไม่มีที่ยืนในสังคม หลังจากวันนี้ซาร่าขอให้เลิกแล้วต่อกัน ขอว่าซาร่าได้ชดใช้เวรกรรมทั้งหมดแล้วกัน หลังจากนี้ก็ขอให้เลิกแล้วแต่กันค่ะ”
ขณะที่ไมค์ให้สัมภาษณ์ว่า ที่จริงตนเตรียมเสนอจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาทั้งหมด โดยจะเป็นคนเลือกโรงเรียนให้ลูกเอง รวมถึงจะจ่ายค่าประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และจะเก็บเงินออมให้ แต่อีกฝ่ายไม่เห็นด้วยเรื่องโรงเรียนบอกว่าไม่อยากย้าย สุดท้ายจึงกลายเป็นข้อตกลงดังกล่าว ส่วนเรื่องเก็บเงินให้ลูก ที่ผ่านมาเก็บเดือนละ 3 หมื่น แต่ในอนาคตก็ต้องแล้วแต่ตามกำลัง
สำหรับสิทธิการปกครองลูกที่ตกลงว่าเป็นของซาร่า ไมค์บอกว่าตั้งแต่แรกตนต้องการเพียงแค่ได้เจอลูก ได้เยี่ยมลูกอย่างสะดวกเท่านั้น
ไมค์ยังพูดถึงเรื่องที่ซาร่าเคยให้สัมภาษณ์ว่าจะยกแม็กซ์ให้ แต่ตนบอกขอไปคิดดูก่อน ซึ่งอยากชี้แจงว่า ตอนแรกที่ได้ยินเรื่องนี้ ตนตอบตกลงทันที
“ผมตกลง ผมโอเค แต่ต้องพาแม็กซ์ไปจีน แต่ที่ผมต้องขอไปคิดดูก่อน คือผมในฐานะพ่อก็ต้องคิดว่าสุดท้ายแล้วมันดีกับแม็กซ์จริงๆหรือเปล่า ซึ่งข้อที่หนึ่งการงานของผมมันเป็นระบบแคมป์ปิ้ง ไปกองละครทีผมจะหายไปเลย 3-4 เดือน แล้วกองละครก็ย้ายไปเรื่อยๆ แต่โรงเรียนไม่ได้ย้ายตามกองละคร ทีนี้ถ้าเราอยู่กองละครแล้วใครจะอยู่กับแม็กซ์ พี่เลี้ยงเหรอ ก็ไม่โอเค ข้อที่สอง แม็กซ์พูดภาษาจีนไม่ได้ แล้วเขาจะสื่อสารกับใครรู้เรื่อง ความกดดันที่ลูกต้องเจอ ผมบอกตรงนี้เลยว่าไม่ได้คิดดูก่อนตรงเรื่องที่จะรับหรือไม่รับ แต่คิดดูก่อนในเรื่องของความเป็นไปได้ในเชิงปฎิบัติ ทีนี้เจตนาคืออะไรในการสัมภาษณ์นั้น”
“แล้วผมบอกเลยนะครับ อาจารย์ประมาณครับ ไม่ต้องมาสงสัยความเป็นพ่อของผม หมาแมวมันยังไม่ทิ้งลูกเลย ผมก็ไม่ทิ้งหรอกครับ และที่ผ่านมาผมก็ดูแลลูกมาโดยตลอด ผมอาจจะไม่ได้ดีเท่าอาจารย์ แต่ว่าผมก็พยายามที่สุดในสิ่งที่คนๆ หนึ่งทำได้ มันก็แค่นั้นเองครับ”
ไมค์ยังบอกด้วยว่า ที่ผ่านมาเขาเคยเจอทัวร์ลงจากการให้สัมภาษณ์ของซาร่า ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ก็อย่าตอบเรื่องเกี่ยวกับเขาอีกเลย
“ผมบอกเลยนะสื่อโซเชียลมีเดียของคุณที่ชอบตอนคำถามต่างๆนานา คำถามมันเลือกตอบได้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะต้องลงทุนถึงขั้นเบลอชื่อผมหรืออะไรก็แล้วแต่ และไปตอบคำถามที่ยังมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับผมเนี่ย เลือกไม่ตอบดีกว่าครับ และเวลาคนอื่นถามเกี่ยวกับผมก็ช่วยตอบไปว่าไม่ขอตอบคำถามเรื่องไมค์ค่ะ เหมือนที่คุณเลือกที่จะไม่ตอบคำถามเรื่องวาดิม ผมขอแค่นี้ ไม่ต้องตอบคำถามเกี่ยวกับผมอีกนับจากนี้เป็นต้นไป ผมไม่ต้องการมีอะไรเกี่ยวข้องหรือข้องแวะ ผมต้องการแค่นี้เลยครับ หลังจากนี้ทำหน้าที่พ่อแม่ ดูแลลูก แบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจนเรียบร้อย แค่นั้นเลย”
ครั้นถามว่าหลังจากนี้เรื่องราวจะลงเอยด้วยดีได้ไหม ไมค์บอก “ผมไม่ทราบหรอกครับ เป็นเรื่องของในอนาคต แต่แน่นอนคือผมจะไม่คุยกับเขา มันไม่ใช่ทิฐิ ไม่ใช่อีโก้ มันคือประสบการณ์ที่สอนให้ผมต้องระวังตัวกับคนบางคน”
เมื่อถามถึงข้อตกลงก่อนหน้านี้ที่ทนายของอีกฝั่งออกมาเปิดเผยว่า ไมค์เสนอว่าค่าเลี้ยงดูควรอยู่ที่เดือนละ 5,000 บาท และจะขอจ่ายคนละ 2,500 บาทนั้น ไมค์บอกว่า ความจริงข้อมูลดังกล่าวน่าจะถือเป็นความลับ ไม่สมควรนำมาเปิดเผย
“มันเป็นข้อมูลในชั้นศาล ที่จริงๆแล้ว ผมเองไม่ทราบว่าอาจารย์ประมาณเป็นทนายมากี่ปี ซึ่งข้อมูลนี้เป็นความลับ ไม่สมควรเลยที่จะออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะ เรื่องเงิน 2,500 บาทนี้ ตั้งแต่แรกมันเป็นการคาดเดา เสนอว่าค่าเลี้ยงดู 5,000 บาทไหม แล้วหารคนละ 2,500 บาท สุดท้ายมันไม่ได้เป็นข้อสรุปนะครับ มันไปจบที่ 10,000 บาท คือผม 10,000 บาท และคุณซาร่า 10,000 บาท ในการตกลงวันนั้น ซึ่งอาจารย์ประมาณไม่ได้มา อาจจะมีการสื่อสารข้อมูลคลาดเคลื่อนก็ได้”