'ซาร่า-ไมค์' นัดไกล่เกลี่ยรอบ 3 ทนายประมาณเผย ไมค์ ขอช่วยคชจ. แค่ 2,500 บ. เหตุกำลังลำบาก
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 มีนาคม ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล หรือ ไมค์ นักร้อง-นักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วย ทนายนิติธร แก้วโต และ ทนายสนิท ปัจจายา ทนายความส่วนตัว และ ซาร่า คาซิงกินี คู่กรณี พร้อมด้วย ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช และทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช ได้เดินทางมาที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อไกล่เกลี่ยครั้งที่ 3 ตามหมายศาล จากกรณีที่นักร้องหนุ่มในฐานะพ่อของลูกได้ยื่นถอนคำร้องขอเป็นพ่อโดยชอบธรรมและสิทธิปกครองบุตร
โดยทนายประมาณ ได้เผยถึงประเด็นการพูดคุยในวันนี้ไว้ว่า วันนี้เป็นการไกล่เกลี่ยอีกครั้ง
“ผมอยากให้การไกล่เกลี่ยในครั้งนี้รู้ดำรู้แดงรู้ขาวรู้ดำว่าจะเอากันยังไงทั้งไมค์ทั้งซาร่า เขาก็เป็นพ่อแม่ของแม็กซ์เวลล์ วันนี้เรามาคุยเรื่องของแม็กซ์เวลล์ว่าเขาจะรับผิดชอบกันยังไง ตอนนี้น้องแม็กซ์เวลล์เขาก็เรียนอยู่นานาชาติที่ภูเก็ต ก็ต้องถามว่าขนาดนี้ตากับยายและแม่เป็นคนส่งเสียเลี้ยงดูทั้งหมด คุณพ่อจะรับผิดชอบยังไง ถ้าไม่รับผิดชอบ ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะผมเองก็เป็นพ่อคนเหมือนกัน ทนายกิ่งก็ลูกสาวผม เวลาลูกเรียนมันก็จำเป็นต้องใช้จ่ายในการเรียนการศึกษาเพิ่มทักษะต่างๆ เยอะแยะไปหมด ลูกผมเรียนถึงแม้จะเรียนโรงเรียนรัฐบาล เรียนที่บดินทรเดชาหรือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็ใช้เงินเยอะ ไม่ได้ใช้เงินน้อยๆ เพราะฉะนั้นในฐานะที่เป็นพ่อคดีนี้ซาร่าก็ได้นำเรื่องมาปรึกษาผมมาแต่ต้นแล้ว แล้วผมก็ให้ทนายกิ่งเป็นคนดูแล เสร็จแล้วในวันนี้ก็จะมาถามความรู้สึกของคุณพ่อเขาว่า คุณพ่อเขาจะดูแลลูกยังไง”
ครั้งที่แล้วไกล่เกลี่ยกันไปที่มีการยื่นข้อเสนอ
“ครั้งสุดท้ายที่ผมรับรายงาน ไมค์บอกว่าตอนนี้เขาอยู่ในสถานะที่ลำบากมาก ไม่สะดวกอะไรเลย ตอนนี้เขาใช้จ่ายกินข้าวใช้จ่ายแค่ 15,000 เพราะฉะนั้นลูกก็ควรจะใช้สักแค่เดือนละ 5,000 ก็พอ กินอาหารมื้อจานละ 30 บาท 3 มื้อก็แค่ 90 บาท”
อันนี้คือคราวที่แล้ว
“คราวที่แล้วใช้สักเดือนละ 5,000 ก็พอ แล้วก็ออกกันคนละครึ่งพ่อกับแม่คนละ 2,500 แล้วค่าเรียนคุณจะให้ลูกเรียนอินเตอร์คุณจะเรียนเท่าไหร่ ค่าการศึกษาเท่าไหร่ ก็เรื่องของคุณไม่เป็นไร ผมช่วย 30,000 มันไหวอยู่แล้วครับ ถ้าคุณไมค์ซึ่งเป็นดารามีชื่อเสียงแล้วเสนอข้อเสนอแบบนี้ไหวไหมครับ คงไม่ไหวครับ ผมก็เลยต้องมาพบกับคุณไมค์ให้ชัดๆ”
วันนี้ก็เป็นในเรื่องกรณีค่าใช้จ่ายใช่ไหม
“คนเป็นพ่อแม่ลูกตามกฎหมายมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน วันนี้พ่อกับแม่ต้องคุยกันแล้วว่าคุณจะอุปการะเลี้ยงดูลูกให้การศึกษาลูกอย่างไร แต่ถ้าคุณจะไม่คุยกันก็ไม่ว่า ตกลงเรื่องอำนาจปกครองเรื่องการใช้บิดาโดยชอบในกฏหมายก็ไม่ว่าอันนี้ หรือคุณจะไปว่าความกันในศาลสู้คดีกันเลยว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่จะต้องรับผิดชอบกันยังไง ไกล่เกลี่ยไม่ได้ไม่เป็นไร”
วันนี้มันจะดีขึ้นไหม
“ก็ยังไม่รู้ ยังไม่รู้ว่าคนเป็นพ่อความรู้เป็นแบบไหนก่อน ฝั่งซาร่าไม่มีปัญหาหรอก ผมพร้อมอยู่แล้ว ตอนนี้พ่อแม่ของซาร่าเขาดูแลลูกอยู่แล้ว อุปการะเลี้ยงดูอยู่แล้ว ให้การศึกษาอยู่แล้วฝั่งนี้ไม่มีปัญหาทุกอย่าง”
“ผมว่าวันนี้จะใช้เวลาไกล่เกลี่ยประมาณครึ่งวันก็พอ คราวที่แล้วไกล่เกลี่ยกัน 8 ชั่วโมงครับ”
ถ้าไมค์จะขอถอนรับรองเซ็นในการรับรองบุตรล่ะ
“ตามสะดวก ไม่เป็นไรเลยเพราะว่าความเป็นพ่อความผูกพันระหว่างพ่อลูกคุณจะเอายังไง เป็นลูกเขาไม่ใช่ลูกผม เป็นลูกผมผมก็รับผิดชอบ คือคุณไมค์จะเอาไงผมไม่สนใจเพราะถือว่าเขาเป็นพ่อแม็กซ์เวลล์ ถ้าเป็นลูกของผมผมก็ไม่ยอม ผมเป็นบิดาโดยชอบตามกฎหมาย ผมต้องอุปการะเลี้ยงดูศักยภาพของผม”