มีหนังซีรีส์ใหม่มากมายที่จะเข้า Netflix เดือนนี้ และมีการจัดอันดับหนังสนุกที่คนดูมากที่สุดทุกๆอาทิตย์ตั้งแต่อันดับ 1 ถึงอันดับ 10 ของแต่ละประเทศ ตั้งแต่หนังรอมคอม หนังเอาชีวิตรอด อนิเมชัน และหน และนี้คือ 10 หนัง/ซีรีส์ สนุกจนหยุดดูไม่ได้ จาก Netflix ที่ผู้เขียนอยากจะนำมาแนะนำให้กับเพื่อนๆชาว TrueID และเพื่อนๆคอหนัง/ซีรีส์ดูกัน 1. Money Heist ซีรีส์จากประเทศสเปน 5 ซีซันที่บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มโจรๆหนึ่งที่วางแผนจะปล้นธนาคารของประเทศสเปน โดยมีหัวหน้าโจรหรือคนที่วางแผนการทุกอย่างอยู่เบื้องหลังคือผู้ชายที่ใช้ชื่อเรียกตัวเองว่าศาตราจารย์ความรู้สึกตอนที่ดูคือสนุก ลุ้นระทึก อยากรู้ตอนต่อไป อยากให้ตอนใหม่ออกมาไวๆ แม้จะแอบรำคาญการตัดสินใจและพฤติกรรมของตัวละครในเรื่องบ้างที่ทำให้ทีมทะเลาะกัน หรือมีปัญหาตามาภายหลัง โดยเฉพาะโตเกียว ตัวประกันที่เป็นผู้จัดการ และบอดี้การ์ดหน้าโหดก็น่ารำคาญค่ะ ตัวละครที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดคือเบอร์ลินค่ะ เขาเป็นตัวละครที่มีมิติและมีความเป็นมนุษย์มากที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ผู้เขียนสัมผัสได้ เขาป่วยเป็นโรคร้ายแต่ก็เลือกที่จะสนุกกับชีวิต เขามีอาการนาร์ซิสซัส ทำให้เขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น แต่เขาก็นำทีมได้ดีเยี่ยมในซีซันแรกจนทำให้ทุกคนในทีมปล้นและหลบหนีออกมาได้สำเร็จเลยได้ใจผู้เขียนไปเต็มๆเลยค่ะ อีกทั้งทีมโจรที่ใส่หน้ากากดาลีกลุ่มนี้ยังเลือกที่จะไม่ทำร้ายหรือฆ่าผู้บริสุทธิ์สักคนหนึ่งด้วย นี้จึงเป็นเหมือนการต่อสู้ระหว่างประชาชนพลเมืองกับอำนาจมืดที่เรามองไม่เห็นแทน มากกว่าที่จะเป็นแค่การต่อสู้ระหว่างโจรปล้นธนาคารกับตำรวจ ผู้เขียนรู้สึกว่ามันก็นานแล้วที่เราไม่ได้มีหนังการปล้นพลอตเรื่องล้ำๆแบบนี้มาให้ดูกันนานๆคะแนนรีวิว 10/10 2. The Dark Knight Rises นี้คือเรื่องราวภาคสุดท้ายของ batman ซูเปอร์ฮีโร่ของ DC ต่อจากภาคของโจ๊กเกอร์และภาคกำเนิด batman ซึ่งถ้าใครอยากดู The Dark Knight Rises ให้สนุกก็ต้องหาภาคก่อนๆมาดูเอง ซึ่งก็สามารถรับชมได้ทางช่อง Netflixความรู้สึกที่ดู เป็นหนังดีเนื้อหายอดเยี่ยมอีกเรื่องที่ตราตรึงภายในใจของผู้เขียนหลังจากดูจบ ตัวละครที่ผู้เขียนชอบที่สุดในเรื่องคือ cat woman ที่รับบทโดย Anne ค่ะ ตีบทแตกกระจุยเลยทั้งการโกหก ตีสองหน้า เอาตัวรอด และเป็นพวกตัวแสบที่แพ้ให้กับความดีภายในของบรูซหรือ batman สุดๆ โดยรวมก็ชอบ เป็นหนังที่มีการเล่าเรื่องเป็นเส้นตรงดีและคงเส้นเรื่องตามแบบฉบับของโนแลนดี แต่สิ่งที่ทำให้มิติของหนังเรื่องนี้ดูน่าสนใจจริงๆคือตัวละครของบรูซ เวยน์เอง ถือว่าปิดจบได้สวยงามเลยสำหรับ batman ภาคนี้ คะแนนรีวิว 10/10 3. Gone Girl เล่าเรื่องของคนสองคนเจอกัน เดตกัน และแต่งงานกัน เพราะพวกเขาตกหลุมรักกัน แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาตกหลุมรักในหน้ากากที่พวกเขาสวมใส่เวลาอยู่ด้วยกัน นิคถูกครหาจากสังคมว่าเป็นฆาตกรฆ่าอำพรางศพภรรยา หลังจากเอมี่ หายตัวไป ทั้งๆที่นิคไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยความรู้สึกของผู้เขียนหลังดูจบ หนังพีคมากๆ ระทึกขวัญ สั่นประสาท และเล่นกับจิตวิทยาของคนดูสุดๆ การเล่าเรื่องแบ่งเป็นสามองค์ประกอบคือตอนเริ่มต้นเกริ่นนำเนื้อเรื่อง การเล่าเรื่องและการหาจุดสรุปหรือตอนจบของเรื่อง หนังมีความสนุก ความเครียด บีบคั้นอารมณ์ของคนดู และความตลกร้ายบางอย่างที่ตัวละครในเรื่องเล่นกับสื่อ โดยที่คนดูเป็นคนนั่งมองทุกอย่างในฐานะตัวแทนของบุคคลที่สาม หลังจากดูจบก็รู้สึกได้ทันทีว่านี้คือหนังยอดเยี่ยมอีกเรื่องของปีที่ไม่ว่าจะหยิบมาดูกี่ครั้งก็รู้สึกว่าเรากำลังดูอะไรอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงเป็นคนทึมๆทื่อๆที่รู้ไม่ทันมุกของภรรยาจริงๆของ Ben Affleck และเหนือกว่าทุกอย่างคือแผนการแกล้งตายของเอมี่นี่แหละคะแนนรีวิว 8.5/10 4. Fight Club เล่าเรื่องของพนักงานชนชั้นกลางที่เบื่อชีวิตที่ซ้ำซากจำเจของตัวเอง จนได้มาเจอกับไทเลอร์ ผู้ชายที่หล่อ เท่ ติดดิน ไม่เป็นทาสของทุนนิยม ชวนมาตั้งชมรม Fight Club ที่ให้คนต่อสู้กันเองโดยไม่สนกฎเกณฑ์อะไรความรู้สึกของผู้เขียนที่ดู หนังได้แบรด พิตต์ มาแสดงเป็นนักแสดงนำในฐานะตัวละครหลักของเรื่อง ช่วยให้เนื้อหาขอหนังมีความน่าสนใจและน่าติดตามเพิ่มขึ้น โดยการเล่าเรื่องของหนังก็เป็นไปในรูปแบบที่คูลและเท่เป็นอย่างมาก แม้จะมีบางส่วนที่น่าสับสน และชวนปวดหัว มึนงงไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นเนื้อเรื่องที่แปลกในยุคๆนั้น และมีการนำอาการป่วยที่เป็นโรคสองบุคลิกเข้ามาเล่นในเรื่องด้วย ซึ่งทำให้เนื้อหาดูเท่กว่าเดิมไปมาก ดูแรกๆอาจจะงงๆหน่อย แต่พอดูไปซ้ำๆจนเข้าใจสิ่งที่ตัวหนังพยายามจะสื่อเท่านั้นแหละ หนังเรื่องนี้ก็ดูเท่ขึ้นมาเลย เพลงโปรโมท where's my mind คงเพราะติดหูแฟนหนังเรื่องนี้หลายๆคนเลยคะแนนรีวิว 7.5/10 5. John Wick ้เล่าเรื่องราวของนักฆ่าที่เพิ่งสูญเสียภรรยาเลยตัดสินใจวางมือจากอาชีพของตัวเอง ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางกับหมาของเขา ของดูต่างหน้าชิ้นสุดท้ายที่ภรรยาทิ้งไว้ให้เขาก่อนจากไป หมาของจอห์นจึงเป็นเหมือนตัวแทนของเพื่อน ภรรยา และชีวิตใหม่ที่เขาจะเริ่มต้น จนกระทั่งลูกชายคนหนึ่งของแก็งมาเฟียฆ่าหมาของจอห์น จอห์นจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาคืนความรู้สึกที่ดู ถือเป็นหนังที่สนุกมากๆนะ สนุกที่สุดยกให้ภาคแรกเลย ซึ่งถึงแม้ต้นทุนการสร้างหนังจะต่ำ แต่กลับกวาดรายได้มหาศาลเลยกับพลอตเรื่องแปลกๆที่ใครทำหมาเรา คนนั้นตายยกโคตรของ John Wick ซึ่งหลังจากดูจบ ผู้เขียนอยากจะมีพ่อแบบ John Wick เลย คงเป็นพ่อที่รักลูกสาวและเห่อลูกของตัวเองน่าดู ขนาดฆ่าหมาของ John John ยังเอาตายขนาดนี้ ถ้าเราเป็นลูกของเขา คงไม่มีใครกล้ามายุ่งกับชีวิตของเราแน่เลย เอาเป็นว่าเป็นหนังที่สนุกมากๆ แถมยังมีแฟรนไชส์ต่อถึงสามภาค ซึ่งก็ปังปุริเย่ทุกภาค ก็อยากให้ไปดูกันจริงๆ เพราะถึงแม้พลอตเรื่องจะกวนๆ แต่สไตล์การเล่าเรื่องของหนัง สุด ฉากบู๊ แอคชัน การยิงปืนและการต่อสู้โดยไม่มีอะไรสมเหตุสมผล แต่ทุกอย่างกลับทำให้ John Wick เป็นหนังที่ดีมากๆคะแนนรีวิว 10/10 6. How to get away with murder ซีรีส์เรื่องนี้มีความยาวมากกว่าเกือบ 100 ตอนให้เลือกดูได้ทางช่อง Netflix ซีรีส์เล่าเรื่องถึงทนายความที่ช่วยมาให้ความรู้นักศึกษาในการแกะคดีต่างๆ วิเคราะห์จิตใจของคนร้าย สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในความต้องการของคนที่ลงมือทำ และวิธีการเอาตัวรอดจากฆาตกร ความรู้สึกที่ดู แน่นอนว่าเนื้อหาสนุกมากๆ ตื่นเต้น ระทึกขวัญ มีมุมที่คาดเดาไม่ได้ และหักมุมตลอดเวลา สิ่งที่ผู้เขียนชอบที่สุดในเรื่องคือวิธีการดำเนินเรื่องค่ะ ตัวละครหลักในเรื่องมีแค่ไม่กี่ตัว แต่ตัวละครทุกๆตัวกลับมีมิติและทิศทางการวางคาแรทเตอร์และการกระทำรวมถึงการตัดสินใจ ความทะเยอทะยานในหน้าที่การงานและสิ่งที่เห็นในซีรีส์ อาจจะไม่ใช่ความจริงอยู่ตลอดเวลา คนดูไม่สามารถเชื่ออะไรในคำพูดของตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้ได้เลย และการพลาดรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็อาจจะทำให้คดีพลิกได้และนำความเดือดร้อนมาสู่ตัวเราภายหลังได้ในชั้นศาล ดังนั้นความรู้ในด้านกฎหมายและความสามารถในการใช้ soft skill และ hard skill ในการไขคดีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆสำหรับตัวละครหลัก และ How to get away with murder ก็มีเนื้อเรื่องที่สนุกมากๆ ดูเพลิน ดูได้จนลืมเวลาไปเลยคะแนนรีวิว 10/10 7. Strange Things Strange thing เป็น Originals series จากทางช่อง Netflix ที่มีความยาว 4 ซีซัน ได้รับความนิยมมากจากคนดูทั่วโลก เล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนแก็งลูซเซอร์ นำแสดงโดยน้องฟินน์ วูล์ฟฮาร์ด เกเตน มาตาราซโซ น้องวิล และลูคัส ที่วันหนึ่งไปเจอเด็กผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งที่มีนิสัยเงียบๆ ไม่ยอมพูดอะไร เธอมีชื่อว่าอีเลเว่น นำแสดงโดยมิลลี บ๊อบบี บราวน์ และเธอมีพลังวิเศษสามารถใช้พลังจิตได้เป็นซีรีส์สยองขวัญ ลึกลับ ระทึกขวัญ และเอาชีวิตรอดที่ถ้าไม่ชอบก็คงเกลียดไปเลย ส่วนผู้เขียนคิดว่าเนื้อเรื่องแอบๆน่าเบื่อนิดหน่อย และการดำเนินเรื่องก็ค่อนข้างเชื่องช้า คงเหมาะสำหรับคนที่ชอบหนังหรือซีรีส์น่ากลัวสยองขวัญของฝรั่ง แต่ผู้เขียนดูแล้วง่วงนอน ต้องกดกรอบ่อยๆ แต่ต้องขอยอมรับในพลอตเรื่องสุดล้ำที่มีทั้งสัตว์ประหลาดในเมือง การทดลองในโครงการใต้ดินของรัฐบาลที่ปิดบังชาวเมือง หรือคนในหมู่บ้าน และคนที่เข้าไปค้นพบคำตอบ กลับเป็นกลุ่มเด็กแก็งลูซเซอร์ของโรงเรียนมัธยมธรรมดาๆกลุ่มหนึ่ง กับเด็กมัธยมปลายไม่กี่คน ที่พูดอะไรไปก็คงไม่มีใครเชื่อและหาว่าโกหกอยู่ดี โดยรวมแล้วประทับใจการแสดงของน้องมิลลี บ๊อบบี บราวน์มากๆ เรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับน้องเขาจากซีรีส์เรื่องนี้เลย การแสดงของเธอมีพัฒนาการในทุกๆซีซันที่ดูจริงๆ และเพิ่มระดับความลึกลับ ความหลอน ความน่ากลัว และความน่าติดตามของเนื้อเรื่องให้เพิ่มขึ้นด้วย แม้ส่วนตัวผู้เขียนจะรู้สึกเฉยๆกับเนื้อเรื่องใน The Strange Things ก็เถอะ แต่คนฝั่งยุโรปชอบมาก และเขาก็บอกว่าน่ากลัวมาก คะแนนรีวิว 7.5/10 8. YOU เล่าเรื่องของโจ ผู้ชายแสนดีที่เป็นสุภาพบุรุษ ใจดี ใส่ใจเรา คอยช่วยเหลือเพื่ออยู่ข้างๆเราเสมอเวลาลำบาก ไม่เล่นโซเชียลมีเดีย และไม่เคยทอดทิ้งเรา เพราะเขาสตอร์กเกอร์และสะกดรอยตามผู้หญิงที่เขาชอบทุกคน ฉายออกมา 3 ซีซัน ดูกันได้ยาวๆแล้วในช่อง Netflix ความรู้สึกตอนที่ดูคือ Creepy มากเลย เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนต้องเคยเข้าถึงความรู้สึกแบบนี้สักครั้งในชีวิต ความรู้สึกถูกคุกคาม ไม่ปลอดภัย หวาดระแวง น่ากลัว และอันตรายจากผู้ชายที่บอกว่าชอบเรา เพราะนายโจมันไม่ใช่สตอร์กเกอร์หรือสะกดรอยตามธรรมดานี่สิคะ แต่มันยอมฆ่าคนเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่ตัวเองรักเลย เป็นพฤติกรรมที่น่ากลัวและ Creepy เป็นอย่างมาก แถมในซีซันนี้ยังกลับมาพร้อมกับลูกของนายโจกับผู้หญิงที่เป็นเหยื่อคนใหม่ของนายโจที่มีอาการทางจิตอีก เด็กคนนี้ต้องโตมาเป็นผู้ใหญ่นรกแน่นอนในสายตาของผู้เขียน ซีซันที่ผู้เขียนชอบที่สุดคือซีซันแรกค่ะ รู้สึกว่าซีซันหลังๆแอบออกทะเล ซีซันแรกสุดสมเหตุสมผลที่สุดแล้วในบท ด้านมืดของคน มิติของหนัง และความรู้สึกของเหยื่อที่เป็นเหยื่อจริงๆคะแนนรีวิว 7.5/10 9. First Kill First Kill เป็น Original Series จากช่อง Netflix เล่าเรื่องราวความรักแรกพบกับแวมไพร์อายุ 17 ปี จูเลียต แฟร์มอนต์ กับนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามากลางเทอม คัลไลโอพี เบิร์น ที่เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวนักล่าแวมไพร์ ที่ทำหน้าที่กำจัดปีศาจมามากกว่าพันปี โดยที่พ่อแม่ของสองคนนี้ไม่เห็นด้วยเพราะความบาดหมางของสองตระกูลความรู้สึกที่ได้ดู เบียวเป็นอย่างมาก ทั้งบทพูด ทั้งพลอต เอาจริงๆตัวเนื้อเรื่องมันไม่ได้ทำออกมาได้ดีขนาดนั้น แต่เพราะนี้คือซีรีส์ที่มีตัวละครนำเป็นเลสเบี้ยนหรือผู้หญิงที่รักผู้หญิงทั้งสองคน ซีรีส์เรื่องนี้จึงเป็นซีรีส์แซฟฟิกที่มีน่าจับตามองเป็นอย่างมาก ว่า Netflix จะต่อสัญญาให้มีซีซันต่อมา หรือว่าจะเทไปเลย เพราะ Netflix เคยเทซีรีส์แนวๆนี้มาหลายเรื่องแล้วไม่ว่าจะเป็น Everything Suck หรือว่า I'm not okay with this ทั้งๆที่ผลตอบรับของแฟนๆนั้นดีมากเลย และได้รับกระแสงบวกที่ค่อนข้างเป็นชื่นชอบของคนดูด้วย ซึ่งแน่นอนว่า First Kill ยังมีจุดบอดอยู่มากทั้งการใช้ CG การดำเนินเนื้อเรื่อง แต่ทักษะการแสดงของนักแสดงนำหลักสองคนอย่าง Sarah Catherine Hook และ Imani Lewis กลับเอาอยู่ ผู้เขียนรู้สึกได้เลยว่านักแสดงทุ่มเทสปิริตในการแสดงมากๆทั้งนักแสดงนำและนักแสดงสมทบ เลยทำให้หนังดูน่าสนใจ น่าติดตาม และเคมีของ Callitte ในซีรีส์แซฟฟิกเรื่องนี้ก็ดีมากๆ แต่อาจจะเพราะงบที่มีจำกัดของซีรีส์ อารมณ์ของหนังก็เลยออกมาไม่สุด โรแมนติกไม่สุด น่ากลัวไม่สุด สิ่งเดียวที่ชื่นชมคือฝีมือของนักแสดงจริงๆคะแนนรีวิว 10/10 10. Interview With Vampire เล่าเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่เกิดมาในยุคขุนนาง ในประเทศฝรั่งเศส ในช่วงกลียุคที่เกิดการโกลาหลและการลุกฮือประท้วงของคนจนและคนที่เป็นทาสถึงความกดขี่ที่ไม่ยุติธรรม ผู้ชายคนนี้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแวมไพร์โดยไม่เต็มใจโดยแวมไพร์ที่อยู่มาก่อนหน้าเขาถึง 800 ปี ที่สร้างเขาขึ้นมาเพื่อให้ร่วมชีวิตด้วยในฐานะของครอบครัวความรู้สึกของผู้เขียนตอนที่ดู คงเป็นหนังแวมไพร์ที่คู่นายเอกพระเอกหล่อมากจนทำให้ผู้หญิงหลายๆคนกระโดดเข้าวงสาววายจิ้นหนุ่มแวมไพร์สองคนรักกันจากหนังเรื่องนี้เลย แต่ในความรู้สึกส่วนตัวของผู้เขียน ผู้เขียนคิดว่า Interview with the Vampire มีการเล่าเรื่องและวิธีการดำเนินรวมถึงพลอตเรื่องที่แปลก แหวกแนว ไปกว่าหนังแวมไพร์ทั่วไปที่บรรยายถึงความยิ่งใหญ่ ชีวิตที่เป็นอมตะ หรือความมีอำนาจที่เหนือกว่ามนุษย์ในการไม่แก่ ไม่ตาย แน่นอนว่าหนังแวมไพร์เรื่องนี้คงความคลาสิคของการนอนในโลง กินเลือดของมนุษย์เป็นอาหาร แต่สิ่งที่ผู้เขียนคิดว่าแปลกคือตัวเอกในเรื่องที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแวมไพร์ มีความต้องการที่จะแก่ และจะตาย เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป และเขายังแหกกฎของแวมไพร์ด้วยการหาวิธีฆ่าแวมไพร์ที่เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นแวมไพร์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจับโยนลงไปในแม่น้ำ จุดไฟเผา หรือปล่อยให้ตากแดดจนตาย ในยุค 2000 เขากลับมาสัมภาษณ์กับมนุษย์เพื่อหาวิธีที่จะทำให้ตัวเขาตายได้อีกด้วยในฐานะของแวมไพร์ ต้องขอยอมรับเลยว่าแบรด พิตต์ ในบทบาทของแวมไพร์หนุ่มผมบลอนด์นั้นหล่อมากจริงคะแนนรีวิว 8.5/10จบไปแล้วนะคะกับ 10 หนัง/ซีรีส์ สนุกจนหยุดดูไม่ได้ จาก Netflix ถ้าใครมีหนังหรือซีรีส์เรื่องอะไรที่อยากให้ผู้เขียนรีวิวให้ก็คอมเมนท์กันเข้ามาได้เลยบทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิว First kill season 1 (2022) รับชมได้ทางช่อง Netflixรีวิว ANNA (2022) เมื่อเธอต้องโกหกว่าเป็นคนอื่นจนได้ใช้ชีวิตหรูหราอู้ฟู่รีวิว Link : Eat Love Kill (2022) ซีรีส์แฟนตาซีที่ไว้ใจใครไม่ได้เลย10 ซีรีส์/หนังโปรดของผู้เขียนที่สามารถรับชมได้ทางช่อง Netflix ปี 20225 ซีรีส์เกาหลีสนุก ๆ น่าสนใจจาก Netflixขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canvaรูปประกอบภาพหน้าปกที่ 1 / 3 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9 / 10 โดย Netflix / 2 โดย Warnerbros / 4 โดย Fight Clubรูปภาพประกอบที่ 1 / 3 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9 / 10 โดย Netflix / 2 โดย Warnerbros / 4 โดย Fight Club*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565