The Box // กล่องนี้มีรัก (2021)ผู้กำกับ: ยางจองอุงค่าย: Studio Takeรับชม: TrueIDอาการกลัวเวที (Stage fright) หรือเรียกเป็นทางการขึ้นมาหน่อยว่า ความวิตกกังวลทางการแสดง (Performance anxiety) อาจร้ายแรงกว่าที่บางคนมองว่าเป็นแค่พฤติกรรมของคนที่ขี้อายเกินเหตุ เพราะบางครั้งมันก็เป็นตัวขัดขวางไม่ให้คนคนหนึ่งได้ดื่มด่ำกับศักยภาพที่แท้จริงของตนอย่างเต็มที่ และอาจทำให้หมดหนทางพัฒนาบุคลิกภาพโดยสมบูรณ์... นี่คือประเด็นซึ่งภาพยนตร์ที่เคยขึ้น Box office อันดับ 1 ของประเทศเกาหลีใต้อย่าง The Box (더 박스) หรือชื่อไทยว่า กล่องนี้มีรัก นำเสนอผ่านการดำเนินเรื่องยาว 89 นาทีเรื่องมีอยู่ว่า มินซู (รับบทโดย โจดัลฮวัน) โปรดิวเซอร์เพลงตกอับ หนี้สินติดตัวพะรุงพะรัง กำลังมองหานักดนตรีหน้าใหม่ที่มีแววดังมาปั้นเป็นซูเปอร์สตาร์ แล้วก็บังเอิญไปพบเจอจีฮุน (รับบทโดย พัคชานยอล) หนุ่มหล่อมากความสามารถ เล่นกีต้าร์เก่งเทพ ดีดเปียโนก็เป็น ตีกลองก็ได้ ทว่าได้แต่เล่นดนตรีในห้องซ้อมมืด ๆ ให้ตัวเองฟังคนเดียว เพราะมีปมในใจตั้งแต่วัยเด็กที่ทำให้เป็นโรคกลัวเวที ไม่กล้าแสดงฝีมือในที่สาธารณะมินซูทั้งเสียดายพรสวรรค์ที่จีฮุนมี ขณะเดียวกันก็เห็นใจอาการของเขา ดีดลูกคิดในหัวไปมา เลยได้วิธีแก้ปัญหาสุดบรรเจิด พาหนุ่มนักดนตรีเดินสายทั่วประเทศ โดยให้เล่นกีต้าร์อยู่ภายในกล่องกระดาษใบใหญ่ที่ตกแต่งภายนอกให้ดูเหมือนตู้เพลง เก็บเงินจากผู้ฟังที่ชื่นชอบดนตรีเพราะ ๆ ไปพลางหวังว่า อาการกลัวเวทีของจีฮุนจะค่อย ๆ ทุเลาลงจนเขาเกิดความกล้าที่จะออกมาจากกล่องด้วยตัวเองบอกแบบขวานผ่าซากได้เลยว่า พล็อตเรื่องของ The Box ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หวือหวา เป็นเรื่องแนว Coming of age หรือการเติบโตและพัฒนาตนเองของตัวละครที่พบกันเกร่อทั้งในหนังกระแสหลักและกระแสรอง แถมเดาทิศทางของเนื้อเรื่องได้ง่ายแต่พอดูแบบเมินเฉยสมองส่วนที่ช่างจับผิดเอาไว้ ก็พบว่าองค์ประกอบหลายสิ่งหลายอย่างในภาพยนตร์เรื่องนี้ชวนให้เคลิบเคลิ้มเพลิดเพลินได้ไม่เลว โดยเฉพาะดนตรีประกอบและเพลงที่ตัวละครผลัดกันมาร้องให้ฟัง ทั้งเพลงสากลคลาสสิกที่นำมาคัฟเวอร์ใหม่ และเพลงออริจินัลของหนังเรื่องนี้ ทุกเพลงควรค่าแก่การบันทึกไว้เป็นเพลย์ลิสต์ใน YouTube ไว้เปิดฟังเพลิน ๆ ได้ตลอดทั้งวันพูดถึงเพลง เห็นมีหลายเว็บและหลายบทความเรียก The Box ว่าเป็นหนังมิวสิคัล ตอนแรกผมก็ลุ้นให้เป็นแบบเรื่อง La La Land ที่ตัวละครร้องรำทำเพลงไปมาตลอดทั้งเรื่อง แต่เอาเข้าจริงพบว่าโมเมนต์แบบหนังมิวสิคัลมีแค่ช่วงต้นเรื่อง ตอนที่คนขับแท็กซี่ (รับบทโดย Gaeko) ร้องเพลงขณะขับรถไปส่งมินซูที่กำลังเมาแอ๋ นอกนั้นแล้วตัวละครก็ร้องเพลงแค่ในฉากที่มีการแสดงให้ผู้ชมฟัง ตรงนี้เลยเป็นอีกจุดที่แอบเสียดายสำหรับหนังเรื่องนี้ในด้านตัวละคร กล่าวได้ว่าตัวเอกทั้ง 2 ตัวแบกเนื้อเรื่องได้ดีตั้งแต่ต้นจนจบ ความสัมพันธ์ระหว่างมินซูและจีฮุนที่ค่อย ๆ พัฒนาจากนักดนตรีกับผู้จัดการมาเป็นเพื่อนต่างวัย ก่อนจะเป็นเสมือนพี่น้องและพ่อลูก ทำให้อบอุ่นหัวใจได้ไม่แพ้ซาวนด์แทร็กและเพลงเยี่ยม ๆ ในเรื่อง แต่ในระดับปัจเจกแล้ว ตัวหนังแทบไม่เปิดเผยให้คนดูได้มีโอกาสทำความรู้จักตัวละครทั้งคู่แบบลงลึกเท่าไร ซึ่งนับว่าเป็นอีกจุดที่น่าเสียดายสำหรับตัวเอกหมายเลข 1 อย่างจีฮุน ภาพยนตร์เผยให้เห็นเสี้ยวหนึ่งของวัยเด็กอันขมขื่นที่เขาถูกพ่อทำร้ายจิตใจ จนเป็นสาเหตุให้เขามีอาการกลัวเวทีทั้งที่รักการเล่นดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งยังทำให้คนดูได้ประจักษ์เต็มอิ่มความสามารถทางดนตรีชนิดเก่งรอบด้านของนักแสดงผู้รับบทตัวละครนี้อย่างพัคชานยอล สมาชิกวงบอยแบนด์ EXO แต่หนังก็ไม่ได้ทำให้คนดูสัมผัสถึงความกลัวเวทีของจีฮุนจริง ๆ เท่าไร เห็นเพียงท่าทางภายนอกที่เขาทำเวลามีอาการดังกล่าว จุดนี้เลยทำให้ฉากไคลแมกซ์ของเรื่องดูทรงพลังน้อยกว่าที่ควร อาจดีกว่านี้ถ้ามีแฟลชแบ็กย้อนให้เห็นว่า จีฮุนในอดีตต้องพบความระทมทุกข์หรือสูญเสียโอกาสดี ๆ อะไรไปบ้างจากอาการกลัวเวทีของเขาส่วนตัวเอกคู่ขวัญอย่างมินซูนี่ยิ่งไปกันใหญ่ ถึงแม้การแสดงของโจดัลฮวันจะเกือบสมบูรณ์แบบ แต่หนังกลับเปิดโอกาสให้คนดูได้รู้จักตัวละครนี้จริง ๆ น้อยกว่าจีฮุนด้วยซ้ำ คนดูได้รู้แค่ว่า แกเคยเป็นโปรดิวเซอร์มือดี เคยประสบความสำเร็จ เคยปั้นนักร้องที่ดังระเบิดอย่างโรซี (Rothy) และก็มีคอนเนกชัน (กับเจ้าหนี้) มากมายในวงการต่าง ๆ แต่ไม่รู้ตัวตนจริง ๆ ของแกเลยว่า แกมีแพชชันอะไรกับวงการดนตรี ทำไมแกถึงเอ็นดูจีฮุนนักหนา (มากกว่ามองแค่เป็นตัวทำเงิน) รวมถึงอะไรคือสาเหตุที่ทำให้แกตกอับแบบตอนต้นเรื่องสุดท้าย เรื่องนี้มีความน่าสนใจตรงที่สามารถมองในแง่จิตวิเคราะห์ได้ด้วย กล่าวคือ อาการกลัวเวทีของจีฮุนมีสาเหตุแรกเริ่มจากการถูกพ่อแท้ ๆ ละทิ้ง เลยกลายเป็นปมในใจที่ทำให้เขาไม่กล้าเปิดตัวต่อสาธารณะ ปมตรงนี้ส่งผลให้จีฮุนเป็นเสมือนเด็กที่ไม่กล้าออกนอกครรภ์มารดาเพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในโลกภายนอกอย่างแท้จริง การที่เขาสบายใจที่จะเล่นดนตรีอยู่ในห้องซ้อมคนเดียวก็ดี เล่นอยู่ในกล่องกระด่าษก็ดี เปรียบได้กับทารกที่มีความสุขอยู่แต่ในครรภ์มารดาไปวัน ๆ จนกระทั่งมินซูได้รู้จักจีฮุน และทำหน้าที่เสมือนตัวแทนของพ่อ (Father figure) ที่รัก ดูแล และใส่ใจเขา จึงทำให้หนูน้อยมินซูกล้าแหวกครรภ์มารดาออกสู่โลกภายนอก และกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวที่สยบอาการกลัวเวทีได้ราบคาบในที่สุดํThe Box อาจไม่ได้มีความสมบูรณ์แบบเหมือนจีฮุนหรือชานยอล แต่ก็มีความรักความอบอุ่นหัวใจพร้อมหยิบยื่นให้ผู้ชมได้สัมผัส สมชื่อไทยที่ว่า กล่องนี้มีรัก จริง ๆ ครับเช่ารับชม The Box กล่องนี้มีรัก ได้แล้ววันนี้ที่ TrueIDเอาละ... กล่องนี้มีรัก แล้วไพ่ของเผามีอะไรจะ "เผาเรื่อง" ภาพยนตร์อบอุ่นหัวใจเรื่องนี้กันบ้าง มาดูกันเลยครับไพ่ชุดที่จะใช้ในคราวนี้มีชื่อว่า Dreaming Way Tarot โดย สนพ. U.S. Games Systems ซึ่งนอกจากผู้ออกแบบ คุณ Rome Choi และผู้วาดหน้าไพ่ คุณ Kwon Shina จะเป็นชาวเกาหลีใต้แล้ว ไพ่ทาโรต์ชุดนี้ยังมีภาพรวมดูอบอุ่น สบาย ๆ จึงนับว่าเหมาะสมอย่างที่สุดที่จะใช้ "เผาเรื่อง" ภาพยนตร์เกาหลีเรื่องนี้ในการใช้ไพ่ชุดนี้ "เผา" The Box กล่องนี้มีรัก ผมสุ่มจับไพ่ออกมา 5 ใบ ได้แก่1) Seven of Pentacles2) The Emperor3) Ten of Wands4) Death5) The Empressมาดูความหมายไพ่ทีละใบโดยละเอียดกันครับSeven of Pentacles (7 เหรียญ) ของไพ่ชุดนี้ สื่อความถึงการลงทุนลงแรงทำบางสิ่งบางอย่าง สังเกตจากภาพหน้าไพ่ ผู้หญิงในรูปเอาเงินไปซื้อกระเป๋ามาหลายใบ ซึ่งก็คือการทุ่มเงินเพื่อซื้อความสุขให้ตัวเอง ทั้งนี้ยังหมายถึงการลงทุนในทางนามธรรม อย่างการทุ่มเทหรือใส่ใจในใครสักคนหรืออะไรสักอย่างเป็นพิเศษต่อมาเป็นคู่ของไพ่ Ten of Wands (10 ไม้) ซึ่งหมายถึงความเหนื่อยยาก ลำบากหนักหนาสาหัส รวมถึงปัญหาหนักอึ้งทางใจด้วย ประกบคู่กับไพ่ The Emperor (จักรพรรดิ) ซึ่งนอกจากจะหมายถึงพ่อ ผู้ปกครอง หรือเจ้านายแล้ว ยังหมายถึงการควบคุมและการบริหารจัดการด้วย สองใบนี้จึงหมายความรวมกันเป็นการควบคุม/จัดการกับปัญหาหนักใจสองใบสุดท้ายคือคู่ของไพ่ Death (ยมทูต) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักสื่อถึงการสิ้นสุดหรือความเปลี่ยนแปลง มากกว่าจะหมายถึงความตายตามชื่อไพ่โดยตรง ประกบคู่กับไพ่ The Empress (จักรพรรดินี) ซึ่งตามหน้าไพ่สื่อถึงการให้กำเนิดสิ่งใหม่ ไพ่สองใบนี้จึงหมายความรวมกันได้ว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือการสิ้นสุดของบางสิ่งบางอย่าง ทำให้มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นมาแทนอ่านไพ่รวมทุกใบได้ว่า The Box กล่องนี้มีรัก เป็นหนังที่มีใครคนหนึ่งทุ่มสุดตัว ลงทุนลงแรงเพื่อจัดการปัญหาหนักใจของใครอีกคนหนึ่งให้หมดสิ้นลงไป และทำให้เขาคนนั้นได้พบความเปลี่ยนแปลงที่เหมือนได้เกิดใหม่ ซึ่งตามบริบทเนื้อเรื่องแล้วก็ตรงกับการที่มินซูทุ่มเทเต็มที่ทั้งแรงกายและแรงทรัพย์ (ที่ไม่ได้มีมากมายเท่าไร) เพื่อช่วยให้จีฮุนเอาชนะอาการกลัวเวทีให้สำเร็จทั้งนี้ น่าสังเกตว่าไพ่ที่สุ่มจับได้นี้ยังมิวายสะท้อนมุมมองจิตวิเคราะห์ต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ คล้ายกับที่ผมนำเสนอไว้ในพาร์ตแรก คือมีตัวแทนของพ่อ [Emperor] ที่ช่วยให้ตัวละครเอกอย่างจีฮุนสามารถทำลาย [Death] อาการทางจิตที่เปรียบได้กับการขังตัวเขาเองไว้ภายในครรภ์แม่ [Empress] นั่นเองติดตามรับชมคอนเทนต์รีวิวสื่อบันเทิงประเภทต่าง ๆ ทั้งภาพยนตร์ หนังสือ การ์ตูน ซีรีส์ เกม เพลง ฯลฯ รวมถึงคอนเทนต์เกี่ยวกับไพ่ทาโรต์ ไพ่พยากรณ์ และการเปิดไพ่ทำนายดวงชะตาอีกมากมายของไพ่เราเผาเรื่องได้ที่รวมบทความทางทรูไอดี และที่ Facebook: ไพ่เราเผาเรื่อง นะครับแหล่งที่มาภาพประกอบ: 1. ภาพหน้าปก & ภาพที่ 10 เป็นภาพที่ไพ่เราเผาเรื่องจัดทำขึ้น โดยมีที่มาขององค์ประกอบในภาพ ดังนี้ภาพไพ่ Dreaming Way Tarot เป็นภาพถ่ายของไพ่เราเผาเรื่องแบ๊กกราวนด์ภาพโปสเตอร์ The Boxไอคอนเครื่องฉายแผ่นฟิล์ม2. ภาพประกอบอื่น ๆHanCinema.net : ภาพที่ 1 l ภาพที่ 2 l ภาพที่ 3 l ภาพที่ 4 l ภาพที่ 5 l ภาพที่ 6 l ภาพที่ 7 l ภาพที่ 8ภาพถ่ายของไพ่เราเผาเรื่องเอง : ภาพที่ 9, 11 - 13อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ,ฟรี