Welcome To MCU PHASE FIVEหลังจากที่ Phase 4 ของ MCU ได้ทำหน้าที่ในการสานต่อเรื่องราวที่ยังค้างคาจาก Avengers: Endgame (2019) พร้อมกับเปิดตัวเรื่องราวของฮีโร่ยุคใหม่ และขยายขอบเขตของจักรวาลให้ใหญ่ด้วยการเล่นประเด็นพหุจักรวาล หรือ Multiverse ที่จะมีผลสำคัญกับสงครามครั้งใหม่ที่กำลังจะมา และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ในตอนนี้เราได้เข้าสู่บทต่อไปของมหากาพย์ใหม่ของจักรวาลอย่าง 'The Multiverse Saga' เป็นที่เรียบร้อยแล้วกับการท้าทายให้ภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ตัวจิ๋วครอบครัวอบอุ่นแห่ง MCU ได้ก้าวเท้าเข้าสู่การเป็นจุดเปิดตัวศักราชใหม่แห่ง Phase 5 พร้อมทั้งเปิดตัวมหาวารร้ายคนใหม่ที่อาจจะทำให้ทุกจักรวาลถึงคราวดับสูญใน Ant-Man and the Wasp: Quantumania ตะลุยมิติควอนตัมhttps://www.instagram.com/p/CnhlTlRPv9-/Ant-Man and the Wasp: Quantumania ตะลุยมิติควอนตัม ภาพยนตร์เปิดตัว MCU Phase 5 อย่างเป็นทางการ ภาพยนตร์เรื่องที่ 31 จาก Marvel Studios และเป็นการผจญภัยเดี่ยวครั้งที่สามของครอบครัวซุปเปอร์ฮีโร่แห่งวงการตัวจิ๋ว บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยครั้งสำคัญที่อาจจะพลิกโฉมโลกไปตลอดกาลของ Scott Lang/Ant-Man (Paul Rudd) และ Hope van Dyne/Wasp (Evangeline Lilly) เมื่อพวกเขา และครอบครัวอย่าง Hank Pym (Michael Douglas), Janet van Dyne (Michelle Pfeiffer) และ Cassie (Kathryn Newton) ลูกสาวของสก็อตถูกดึงตัวเข้าสู่พื้นที่ที่เล็กยิ่งกว่าอะตอมอย่างมิติควอนตัม (Quantum Relam) จักรวาลใหม่ที่อยู่ภายใต้ดินแดนของเรา ที่ซึ่งพวกเขาจะได้เผชิญหน้าและต้องเข้ายับยั้งแผนการของมหาวายร้ายผู้ควบคุมกาลเวลาได้อย่าง Kang the Conqueror (Jonathan Majors) ที่ถ้าหากแผนการของเขาสำเร็จ มันอาจจะส่งผลกระทบอันร้ายแรงต่อจักรวาลมากมายทั้งปวงเรื่องราวดูแล้วสนุก ตื่นเต้น แต่ขาดน้ำหนักไปเยอะหากใครที่ได้รับชมสองภาคก่อนของแฟรนไชส์ (Ant-Man (2015), Ant-Man and the Wasp (2018)) ไปแล้ว ก็คงจะทราบดีว่า จุดเด่นของภาพยนตร์ชุด Ant-Man ก็คือ การดำเนินเรื่องราวการผจญภัยในฉบับเล็ก ๆ แต่มาพร้อมด้วยความสนุกแบบเรียกเสียงฮาได้ไม่หยุดหย่อน ซึ่งทั้งสองภาคที่ผ่านมาก็สามารถสร้างเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยการเป็นภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่แนวครอบครัวอบอุ่นได้ในระดับดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัวของ Lang เองหรือ Pym ก็ตามhttps://www.instagram.com/p/Co2fziYplG8/ซึ่งสำหรับ Quantumania นี้ ตัวภาพยนตร์ก็ยังคงวางระดับความสนุก และความตื่นเต้นไว้ได้ดีตามมาตรฐาน มีการใส่อารมณ์ขำขันเข้ามาทำหน้าที่ได้ดีเหมือนเดิม แถมบางช่วงของเรื่องราวมีชวนให้รู้สึกเซอร์ไพร์สเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเหล่าตัวละครใหม่ ๆ ที่ออกมาสร้างสีสันกันเรื่อย ๆ เรียกว่า เสน่ห์ความตลกของ Ant-Man ไม่ได้หายไปไหนเลย แถมออกมาสนุกมากกว่าภาคที่แล้วซะอีก รวมไปถึงฉากแอ็กชันที่ทำได้บันเทิงเข้าขั้น และมีความเล่นใหญ่ไม่ใช่น้อย ที่ถึงแม้หลายคนอาจจะไม่ถูกใจในช่วงท้ายเรื่อง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มัน คือ สิ่งที่แสดงถึงความเป็นทีมมนุษย์มดอย่างแท้จริงแต่อย่างไรก็ตาม การอัพเกรดเรื่องราวของ Ant-Man ให้เป็นสเกลใหญ่ ทำให้สิ่งที่เลือนหายไปอย่างมาก คือ ประเด็นความสัมพันธ์ในครอบครัวซุปเปอร์ฮีโร่ที่ถูกพูดถึงน้อยมาก ยิ่งในภาคนี้ ลูกสาวของ Scott อย่าง Cassie มีโอกาสได้เดินตามรอยเท้าพ่อของเธอ ที่ซึ่งประมาณได้ว่า ตัวภาพยนตร์อาจจะไม่ได้นำเสนอหรือให้เวลาไปมากในช่วงนี้ ทำให้น้ำหนักของเรื่องราวความสัมพันธ์ของพ่อลูกดูค่อนข้างเบาลงไป ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า ตัวภาพยนตร์ทำหน้าที่เหมือนเป็นเรื่องราวปฐมบทอันสั้น (ประมาณ 2 ชั่วโมง) ที่จะพาคนดูไปรู้จักกับภัยร้ายครั้งใหญ่ที่กำลังจะมา พร้อมทั้งช่วยให้เราเหล่าคนดูได้มองเห็นภาพรวมการเชื่อมต่อเรื่องราวของจักรวาลที่มากขึ้น ที่ซึ่งต้องบอกว่า ในฐานะการเป็นภาพยนตร์เปิด Phase 5 ภาพยนตร์ Quantumania สามารถทำได้ตามเป้าหมายจริง ๆมิติควอนตัม คือ ความมหัศจรรย์ขั้นสุดhttps://www.instagram.com/p/CoFk05gOnjw/หนึ่งในความน่าตื่นตาตื่นใจขั้นสุดที่ Quantumania ได้มอบให้ คือ จักรวาลอันแปลกใหม่ภายใต้มิติควอนตัม ที่ต่างมีพื้นที่และสิ่งมีชีวิตให้นำเสนอมากมาย เรียกได้ว่า เป็นภาพยนตร์ Star Wars ในฉบับ MCU ก็ไม่ผิดไปเลย เพราะ ที่ผ่านมา เราพอจะได้รู้จักมิติควอนตัมไปบ้าง โดยเฉพาะการดำเนินของเวลาที่ไม่เหมือนใคร จนกลายเป็นตัวช่วยสำคัญของเหล่าอเวนเจอร์ในสงครามมหาจักรวาล Avengers: Endgame (2019) แต่ในครั้งนี้ เราจะได้ลงไปค้นพบในส่วนที่ลึกยิ่งกว่า ที่มาพร้อมกับสถานที่อันน่าอัศจรรย์ อันเป็นจุดที่มอบความใหญ่โตตระการตาให้แก่ตัวภาพยนตร์อย่างเป็นที่สุด รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตชาวมิติควอนตัมที่หลากหลายและน่าสนใจ โดยเฉพาะตัวละครใหม่อารมณ์ดีอย่าง Veb (ให้เสียงโดย David Dastmalchian) ที่เป็นตัวเรียกเสียงฮาของเรื่องราวได้ตลอดเวลาที่ปรากฎบนจอตัวละครสุดแย่งซีน!!!https://www.instagram.com/p/Co0CF5nJ08z/Paul Rudd กลับมารับบทเป็น Scott Lang/Ant-Man เป็นครั้งที่ 5 ในจักรวาล ที่ซึ่งไม่ได้ลดละความพยายามในการเพิ่มเติมเสน่ห์และพัฒนาการให้ตัวละครนี้เลยแม้แต่น้อย ยังคงเป็นตัวละครคุณพ่อที่คอยสร้างความสนุก และความตลกได้ตลอด พร้อมทั้งคู่รักแตนพิฆาตอย่าง Hope van Dyne/Wasp ตัวละครของ Evangeline Lilly ที่อาจจะไม่ได้มีช่วงเวลาเฉิดฉายมาก แต่ก็ยังทำหน้าที่ช่วยเหลือคอยเคียงคู่กับ Scott ได้ดีมาโดยตลอดในส่วนของครอบครัว Pym อย่าง Dr. Hank Pym ตัวละครของ Michael Douglas ที่ต้องขอบอกว่า ในภาคนี้เขาได้แสดงบทบาทออกมามากขึ้นกับการผจญภัยในมิติควอนตัม รวมถึงมีซีนสุดเท่เป็นของตัวเองที่แทบอยากจะปรบมือให้ไม่ไหว (555) รวมไปถึง Janet van Dyne ตัวละครของ Michelle Pfeiffer ที่ในครั้งนี้ เราจะได้เห็นเธอออกผจญภัยร่วมกับสามีของเธอ มีฉากแอ็กชันพอประมาณ พร้อมทั้งเปิดเผยความลับอันดำมืดที่เธอเก็บงำมาตลอดในมิติควอนตัม อันเป็นส่วนสำคัญของภาพยนตร์ในภาคนี้เลยก็ว่าได้https://www.instagram.com/p/Cone0KrOTQB/หนึ่งในตัวละครที่เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงตัดสินใจไปชมภาพยนตร์ เพราะ เธอคนนี้ Cassie Lang รับบทโดยนักแสดงสาววัยรุ่น Kathryn Newton ที่ต้องบอกเลยว่า เสน่ห์ของน้อง Cassie ในฉบับของเธอพุ่งทะยานมาก ๆ มีความน่ารัก และอารมณ์ขำขันในตัวเอง และถึงแม้ว่าในภาพยนตร์จะไม่ได้บอกเล่าเรื่องของเธอมากนัก แต่เราก็จะได้เห็นเธอเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ในฐานะฮีโร่มนุษย์มดคนใหม่ของทีม ที่ซึ่งคาดหวังได้เลยว่า เธอจะเป็นตัวละครรุ่นใหม่ที่สามารถถูกพัฒนาเรื่องราวไปได้อีกไกล และอาจเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะช่วยรับมือกับสงครามที่กำลังจะมาhttps://www.instagram.com/p/CoqKYlovP71/อีกหนึ่งตัวละครที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ Kang the Conqueror ซึ่งต้องยอมรับว่า Jonathan Majors แสดงความเป็น Kang ได้โหด และน่ากลัวมาก ๆ ไม่แปลกเลยถ้านี่จะเป็นศึกที่ตึงมือที่สุดที่ Ant-Man จะต้องเผชิญ แต่บิ้วความยิ่งใหญ่มาซะขนาดนี้ เชื่อว่ามีผู้ชมบางส่วนอาจจะมองว่า ในช่วงท้ายเรื่องอาจจะเพลย์เซฟไปหน่อย แต่จากความคิดเห็นของผู้เขียน นี่เป็นเพียงน้ำจิ้มเล็ก ๆ ที่จะให้ผู้ชมได้รู้จักกับชายที่ได้รับสมญานามว่าเป็น บุรุษผู้พิชิต เพื่อรอวันที่เหล่าฮีโร่ทุกคนในจักรวาลจะได้เผชิญหน้าร่วมกันในระดับเดียวกับมหาวารร้ายมันม่วง Thanos (Josh Brolin) อย่างแน่นอนแต่อีกหนึ่งตัวละครที่เรียกได้ว่าแทบจะมาขโมยซีนเด่นสุด ๆ ขอเสียงปรบมือให้กับ M.O.D.O.K. (Mechanized Organism Designed Only for Killing) หรือ สิ่งมีชีวิตจักรกลที่ถูกออกแบบมาเพื่อฆ่า ให้เสียงโดย Corey Stoll (ใช่ครับ วารร้าย Darren Cross/Yellowjacket จาก Ant-Man ภาคแรก) ที่ซึ่งต้องขอบอกว่า เป็นตัวละครที่เหนือความคาดหมายมาก เรียกเสียงฮาได้ไม่หยุดหย่อนจริง ๆ เชื่อว่าทุกคนจะต้องตกหลุมรักตัวละครตัวนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (555)https://www.instagram.com/p/Cop8t_YvaT3/โดยสรุป Ant-Man and the Wasp: Quantumania ตะลุยมิติควอนตัม คือ การกลับมาเข้าสู่รูปแบบที่เราคุ้นเคยในฉบับ MCU บวกกับการทดลองขอยกระดับแฟรนไชส์ Ant-Man ด้วยการเล่าเรื่องที่สเกลใหญ่ขึ้น มีความสนุกและความตื่นตาตื่นใจที่ยังคงมอบความบันเทิงให้ผู้ชมได้ตลอดเหมือนเดิม สมฐานะการเปิด Phase 5 จริง ๆ แต่การขาดน้ำหนักความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร ก็อาจจะทำให้ Quantumania กลายเป็นการผจญภัยอันแสนสั้นที่รอการปะทุของสงครามครั้งใหญ่ที่กำลังจะมา8.5/10 - Exciting storyMarvel Studios' Ant-Man and the Wasp: Quantumania "แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์: ตะลุยมิติควอนตัม" เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์https://www.youtube.com/watch?v=V4e_VCU00mE&t=2sขอบคุณข้อมูล รูปภาพและวิดีโอภาพปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7 จาก Official Instagram antmanofficialคลิปวิดีโอจาก Youtube: Marvel Thailandบทความที่เกี่ยวข้องบุกตะลุยมิติควอนตัมไปกับ Scott Lang ในภาพยนตร์ภาคต่อฟอร์มยักษ์ Ant-Man and the Wasp: Quantumaniaจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !