รีเซต

นาทีชีวิต “อีฟ พุทธธิดา” เล่าเรื่อง “อาต้อย” กว่าจะผ่านวิกฤตโควิด  ตอน 1

นาทีชีวิต “อีฟ พุทธธิดา” เล่าเรื่อง “อาต้อย” กว่าจะผ่านวิกฤตโควิด  ตอน 1
ดาราเดลี่บันเทิง
3 กันยายน 2564 ( 08:30 )
144

นาทีชีวิต “อีฟ พุทธธิดา” เล่าเรื่อง “อาต้อย” กว่าจะผ่านวิกฤตโควิด  ตอน 1
       เรียกว่า ดาราเดลี่ได้นำเสนอเปิดเบื้องหลังเบื้องลึกของนักแสดงดารา ที่ต้องต่อสู้กับโควิด19 มาแล้ว หลายท่าน อาทิ “แมทธิวดีน”  “อู๋ สมิทธิ” 
สำหรับ “อีฟ พุทธธิดา” ครอบครัวติดโควิด19 กันทั้งหมด รวมถึง อาต้อย “เศรษฐา ศิระฉายา” คุณพ่อก็ติดโควิด19 ทั้งๆที่ร่างกายอ่อนแอจากมะเร็งปอดอยู่แล้ว
เรียกว่ากว่าจะผ่านจุดนั้นมาไม่ง่ายเลย 
เธอได้เปิดใจถึงขั้นตอนการรักษา การสู้กับโควิดทั้งกายและใจ โดยขอแบ่งเป็นสองตอน ดังนี้ 

อ่านข่าวต่อ:“อีฟ พุทธธิดา” ลูกสาว “ต้อย เศรษฐา” แจ้งติดโควิดพร้อมสามี


ดาราเดลี่ : ในช่วงนั้นที่ติดโควิด ทั้งร่างกาย ทั้งจิตใจ ผ่านได้ยังไงครับ เล่าให้ฟังหน่อย
          อีฟ พุทธธิดา : ก็ของอีฟโชคดีที่ตัวอีฟเองอ่ะ ไม่ได้เป็นอะไรเยอะ มีแบบว่าคือตอนที่จริง ๆ ตอนคุณพ่อเป็นมากกว่า แล้วก็ลูกอะค่ะ คือโรคนี้มันแย่ตรงที่ว่าคือตัวเราเนี่ยคือมันประมาณนึงอะ แต่ว่าเราห่วงคนรอบข้างเรามากกว่า เพราะว่าอย่างตอนนั้นที่ลูกเป็นแล้วก็คุณพ่อเป็นเนี่ย มันยังไม่ค่อยมีแนวทางที่ชัดเจนว่าจะดูแลกันยังไงนะคะ แต่ว่าก็มันผ่านมาได้เพราะว่าคุณหมอเองแล้วก็เจ้าหน้าที่เอง คือที่เราคุยกันตลอดเวลาเนี่ย แล้วก็คนรอบข้างที่ส่งกำลังใจ ส่งข้อมูลต่าง ๆ มาให้มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าเรารับเอาข้อมูลเหล่านั้นมากรอง แล้วก็ทำจริง ๆ แล้วก็เห็นว่ามันช่วยได้จริง ๆ เอาง่าย ๆ เลยอย่างเรื่องสมุนไพรเนี่ยอีฟก็ใช้จริง ๆ ตอนนั้น อีฟไม่ได้ยาอะไรเลยคือหมายความว่าไม่ได้ยาฟาวิพิราเวียร์เพราะว่าอีฟไม่ได้ลงปอด แต่สามีลงปอด ส่วนคุณพ่อเนี่ยก็เนื่องจากว่ามีโรคปอดอยู่แล้วนะคะ มีมะเร็งปอดอยู่แล้ว 
        นอกนั้นก็โชคดีที่ว่าเราเนี่ยได้ใช้สมุนไพรตั้งแต่ก่อนจะติดนะคะ มันก็เลยทำให้ไม่รุนแรงพูดง่าย ๆ ถ้าถามว่าทั้งร่ายกายและจิตใจมันไม่เท่าไหร่อะ แต่ความรู้สึกมันเครียดอะค่ะมันไม่ทันจะมีเวลาเครียดเลย เพราะว่าเรื่องมันเกิดทุกวันเลย คือจากตอนแรกอีฟเป็น ต้นเป็น ต้องหาที่ที่จะไปต้องย้ายออกจากบ้านให้ได้ ต้องไปตรงไหน จะไป Hospitel ตรงไหนจะรับเราได้ สองสามวันแรกก็ยุ่งว่าเราจะย้ายที่เพราะเป็นห่วงลูกที่บ้าน อะเราจะต้องทำยังไง 
        พอปรากฏลูกตรวจเจอก็หาที่ให้ลูก ลูกต้องย้ายมาอยู่กับเราจะอยู่ได้ไหมหรือต้องเข้าโรงพยาบาล พอหลังจากลูกอ่าวคุณพ่อเจอ เสียคือหมดไปแล้ว 7 วันอะเจออยู่สภาพแบบนั้นอะคือมันมีเรื่องทุกวันเลยที่เราจะต้องแบบจัดการ มันทำให้เราผ่านความเครียดนั้นด้วยอะไร เราผ่านความเครียดมาด้วยการใช้สติ จริง ๆ เลยนะคะคือเราต้องมีสติและก็ต้องไม่ให้ตัวเองแพนิคอะ เพราะว่ามันมีปัญหาที่เราต้องแก้แล้วเราเป็นคนที่จะต้องรับมือกับมัน มันก็เลยทำให้เราต้องผ่านให้ได้ มันก็คงเป็นบททดสอบมั้งอีฟคิดว่านะ
       ดาราเดลี่ : ตอนนี้ฉีดวัคซีนกันแล้วยังครับหรือว่ายังไงตอนนี้ (สค.64)
อีฟ พุทธธิดา : ตอนนี้ฉีดแล้วค่ะ เพราะว่าคุณพ่อเป็นคนสุดท้ายที่เป็น 90 วันแล้วนะคะ ก็ทุกคนฉีดกันหมดแล้ว แต่คุณพ่อยังไม่ได้ฉีดเข็มสอง อีฟได้ฉีดวัคซีนที่อ่อนกว่าฉีดซิโนฟาร์มก็เลยได้เข็มสอง ของคุณพ่อยังต้องรอเข็มสองเพราะคุณพ่อฉีดแอสตร้าเซเนก้า


       ดาราเดลี่ : อยากให้เล่าถึงเพื่อนคนนึงที่ช่วยดูแลลูกตลอด แล้วก็ติดโควิดด้วย 
อีฟ พุทธธิดา : อ่อ ใช่ค่ะแต่เป็นเพื่อนตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันและก็ปัจจุบันเป็นผู้ช่วย เป็นเลขาจริง ๆ ก็เป็นผู้ช่วยแหละ เค้าทำงานตามเวลาจริง ๆ ก็ทำงานตลอดเวลา
        ดาราเดลี่ : เค้าก็ติดด้วยใช่ไหม 
อีฟ พุทธธิดา : ติดค่ะ เพราะว่าในช่วงเวลาที่อีฟย้ายออกมาใช่ไหมคะ เค้าเนี่ยเรียกว่าสละตัวเองละกัน เพราะว่าอีฟกังวลว่าถ้าต้องให้ลูกไปนอนกับพ่อแม่เนี่ย คิดว่าพ่อต้องติดแน่นอนนะคะ ก็เลยคุยกันว่าจะทำยังไงดี แม่บ้านที่บ้านเนี่ยก็อายุประมาณค่อนข้างเยอะอายุเยอะเหมือนกัน ก็กังวลว่าถ้าเค้าเป็นแล้วจะติดหนักแล้วจะยังไง แล้วเราจะเอาลูกไว้ก่อนไหม ในช่วงเวลานั้นอะค่ะเค้าก็เสนอตัวว่างั้นเดี๋ยวเค้าจะเข้าไปดูแลเอง เค้าจะนอนกับลูกคือเค้าจะนอนเฝ้าเอง แต่ด้วยความที่เวลานอนถ้าใส่แมสก์นอนก็คงไม่ติด แต่ว่ามันไม่ไหวหรอกค่ะ ในความเป็นจริงถูกไหม เวลานอนเค้าก็ทนไม่ไหว เค้าอึดอัดเค้าก็เลยถอดแมสก์นอนกับลูก เค้าก็เลยติดจากลูกเนี่ยละค่ะ แต่ว่าก็ติดในระยะที่จริง ๆ ถามว่าเยอะมากมั้ย ไม่มากตรงที่ว่าเค้าเนี่ยกักตัวอยู่หลังจากที่ลูกย้ายมาอยู่กับอีฟเนี่ย จนหมด 14 วันแล้วอะ มันพึ่งมีอาการว่าติด ตัวเค้าก็เลยต้องย้ายไปอยู่ Hospitel แล้วก็กักตัวอีก 14 วัน 
       ดาราเดลี่ : เห็นอีฟผลิตยาสมุนไพรเกี่ยวกับการสร้างภูมิ เล่าให้ฟังหน่อยครับ
อีฟ พุทธธิดา : อ่อคือสมุนไพร ต้องอธิบายก่อนว่า คือสมุนไพรสูตรเนี่ยเป็นสมุนไพรที่อีฟกับทุกคนในบ้านรวมถึงผู้ช่วยด้วย ได้กินในช่วงที่อีฟอะเป็นแล้ว อีฟกับสามีกินตอนที่เป็นแล้ว ส่วนพ่อกับแม่แล้วก็แม่บ้านกินตั้งแต่ยังไม่ติด


       ดาราเดลี่ : ยาสร้างภูมินี่ไม่ใช่ฟ้าทะลายโจรใช่ไหม 
อีฟ พุทธธิดา : ไม่ใช่ค่ะ ฟ้าทะลายโจรเนี่ยจริง ๆ แล้วเป็นยาที่ใช้ในกลุ่มการรักษา ส่วนมากเนี่ยก็เป็นแล้วถึงจะทานได้ คือฟ้าทะลายโจรเค้ามีฤทธิ์ในการรักษาไม่ใช่ไม่เป็นแล้วก็ไปกินอย่างนี้ไม่ได้นะคะ เพระว่าเค้ามีฤทธิ์แล้วเค้าก็กินมากไม่ได้ เค้าจะมีจำนวนความเหมาะสมที่จะต้องกิน เหมือนกันค่ะกลุ่มสมุนไพรทุกชนิด แม้แต่ตัวของอีฟเองเนี่ยในกลุ่มกระชายก็เหมือนกัน จะกินพร่ำเพรื่อเนี่ยมันก็ไม่ได้ให้ประโยชน์ ไม่ดีด้วย เพราะฉะนั้นเนี่ยในปริมาณที่คำนวณมาแล้วก็คิดสำหรับตัวยาที่เรากินเพื่อป้องกัน อันนี้มันเพียงพอแล้วต่อหนึ่งวัน พูดง่าย ๆ คือเรากินอันนี้เราไม่ต้องไปกินน้ำกระชายปั่นอะไรให้ยุ่งยาก พวกกระชายปั่นบางทีเราก็กินทั้งวันมันไม่ได้ให้ประโยชน์นะคะ ร่างกายอาจจะร้อนเกินไป มันจะเป็นฤทธิ์ร้อน คือมันก็ต้องมีความเข้าใจในการกินด้วยอะค่ะ อันเนี่ยคือเราทำมันให้ง่าย

       ก็คือว่าไม่ได้มีแค่ฤทธิ์ในเรื่องของการป้องกันอย่าเดียวคือไม่ใช่เสริมภูมิคุ้มกันอย่างเดียว คือไม่ใช่เสริมภูมิคุ้มกันอย่างเดียว อาจจะฤทธิ์ในเรื่องของการฟื้นฟูปอดด้วย เพราะว่ามันมีตัวขมิ้นด้วยเพื่อช่วยให้ปอดมันดีขึ้น 


       ดาราเดลี่ : อันนี้ก็จะซื้อมาใช้กินเพื่อสร้างภูมิสู้โควิดได้ตัวนี้ใช่ไหม
อีฟ พุทธธิดา : คือมันสู้ไวรัสอะค่ะ พูดง่าย ๆ ไม่ได้ป้องกันเจาะจงว่าต้องเป็นโควิด เนื่องจากตอนนี้โควิดมันระบาด หลัก ๆ ก็คือเรารู้กันอยู่แล้วกระชายก็คือเพื่อช่วยโควิดที่ตอนที่เค้าวิจัยกัน แต่ในมุมของอีฟเอง อีฟมองว่าเวลาที่เรากินพวกนี้เพื่อเสริมภูมิเนี่ยเราไม่จำเป็นว่าเพื่อโควิดอย่างเดียวก็ได้ กินเพื่อโควิดด้วย กินเพื่อป้องกันไวรัสทั่วไปแล้วก็กินเพื่อป้องกันหวัดก็ได้ในช่วงเวลานี้นะคะ หรือแม้แต่คุณพ่อเองภูมิเค้าจะปรับ เวลาที่ไปเจออากาศหนาวไปเจออะไรที่มันเซนซิทีฟเค้าก็ป่วยง่ายนะคะ คือการกินอาหารเสริมพวกเพิ่มภูมิเพื่อช่วยป้องกันให้มันดีขึ้น เพราะว่าคุณพ่อเนี่ยเนื่องจากเค้ามีโรคประจำตัวอยู่แล้ว แล้วที่เป็นโรคปอดผลจากทางเดินหายใจเราก็เป็นกังวล เราก็เลยทำอันเนี่ยขึ้นมาเพื่อที่ว่าเพราะยังทานแล้วมันได้ผลในช่วงเวลาที่เราเป็น แล้วก็เห็นผลที่มันชัด ๆ ว่าคุณแม่อีฟไม่ติดเชื้อ คือทางบ้านติดกันหมดถูกมั้ยคะมีแม่รอดคนเดียว