cr.unsplash เปิบข้าวทุกคราวคำ จงสูจำเป็นอาจิณเปิบข้าว ขับร้องโดย วงคาราวาน ซึ่งแต่งโดย จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นบทกวีในลักษณะ กาพย์ยานี 11 ที่เล่าถึงเรื่องราวของชาวนา ซึ่งศิลปินคาราวานนำมาใส่ทำนองให้มีความไพเราะในแบบเพลงเพื่อชีวิต ซึ่งเพลงนี้เป็นการใช้ภาษาถิ่นนั่นคือ ภาษาอิสาน มาแต่งเป็นกวีผสมกับภาษากลางใส่ทำนองเป็นบทเพลง เป็นเพลงที่มีความหมายลึกซึ้งภาษาถิ่นในเนื้องร้องทำให้เราต้องหาความหมาย เพราะเพลงในยุคนี้การใช้ภาษาที่เป็นภาษาถิ่น มาเขียนร้อยกรองแบบนี้หาฟังได้ยาก เพลงนี้มีความหมายทั้งจากคำ และ จากเรื่องราวของเพลง ความหมายของคำต่าง ๆ ที่น่าสนใจในเพลงเปิบข้าว หมายถึง กินข้าว รับประทานข้าว เปิป เป็นคำในภาษาอิสาน สู หมายถึง คุณ เป็นภาษาถิ่นและใช้ในหลายชนชาติในแทบบ้านเราไม่ว่าจะเป็น ลาว , ไทลื้อ , ไทใหญ่ อาจิณ หมายถึง เสมอ ประจำ แค่ท่อนแรกก็มีหลายคำหลายความหมายให้ค้นหากันแล้วหากแปลความหมายของท่อนนี้ เปิบข้าวทุกคราวคำ จงสูจำเป็นอาจิณ หมายถึง ทุกครั้งที่กินข้าวให้คุณจำให้ตระหนักไว้ cr. unsplash เหงื่อกูที่สูกิน จึงก่อเกิดมาเป็นคนจากเนื้อพลงวรรคแรก สู่วรรคที่สอง ความหมายที่ซ่อนอยู่มันคือ ความจริงของชาวนากว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ดแต่ละคำ แลกมาจากหยาดเหงื่อของชาวนาข้าวทำให้เราเติบโต มันก็คือความหมายของ วรรคนี้ กู เป็นคำโบราณแม้อาจจะดูไม่สุภาพในบางบริบทคำนี้สื่อความหมายได้ตรงตัวและไม่หยาบคายcr unsplash ข้าวนี้นะมีรส ให้ชนชิมทุกชั้นชน เบื้องหลังสิทุกข์ทนและขมขื่นจนเขียวคาววรรคต่อมาของเพลงนี้ บรรยายถึงความจริงที่บอกว่า ข้าวนั้นมีรสชาติทุกคนทุกชนขั้นต่างต้องกินข้าว แต่ชาวนานั้นทุกทนข์ลำบาก เขียวคาว คำที่ไม่มีใช้กันบ่อยในภาษาไทยมาจากการใช้คำสองคำคือ เขียว และ คาวเขียว จากบริบทของเพลงคือต้นข้าวที่มีสีเขียวคาว คำนี้มีหลายความหมายและจะขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ แต่ความหมายจริงคือ กลิ่นเหม็น กลิ่นสาป กลิ่นเนื้อสด และในบริบทของการใช้ในเพลงนี้ เขียวคาว จะหมายถึงข้าวที่หอมกลับเหม็นคาว จากความทุกข์ระทมความกล้ำกลืนหมองหม่น ของชาวนาcr. unsplash จากแรงมาเป็นรวง ระยะทางนั้นเหยียดยาว จากรวงเป็นเม็ดพราว ล้วนทุกข์ยากลำบากเข็ญวรรคนี้การใช้ภาษาที่สวยงามคล้องจอง ใช้คำไทยเรียบง่ายแต่แสดงความหมายที่ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าการปลูกข้าวทำนานั้นลำบากใช้ระยะเวลานานกว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ด เปิบข้าว เพลงที่เป็นมากกว่าเพลง เพลงที่เป็นเรื่องราวชีวิตชาวนา ที่เขียนเป็นบทกวีเรียงร้อยภาษาถิ่น ผสมภาษากลาง อย่างสวยงาม ใส่ท่วงทำนองให้ไพเราะ หลายคนอาจจะไม่เคยฟังเพราะคิดว่าเพลงของ วงคาราวาน เป็นเพลงเพื่อชีวิต เป็นเพลงจิกกัดสังคม ต่อต้านระบบการปกครอง เพราะภาพลักษณ์ของเพลงแนวนี้มักแสดงออกมาแบบนั้น แต่รู้หรือไม่ว่า หากเราตัดอคติในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเพลงออกไป เปิดใจฟังเพลงแนวนี้ เราจะได้พบกับเรื่องราวน่าสนใจมากมายในเนื้อหา ทั้งเรื่องราวของภาษาไทยที่บางเพลงเราต้องถอดความหมาย เรื่องราวต่าง ๆ ที่เป็นทั้งเรื่องเล่า ประวัติศาสตร์ มันมีอยู่ในเพลง ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองเห็นเรื่องราวเหล่านั้นหรือไม่ cr. unsplash