ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ หรือเพศใดก็ตาม ทุกคนต้องเคยได้ยินชื่อของตัวละครสายลับอย่าง "เจมส์ บอนด์" มาแล้วแน่นอน ซึ่งผมก็เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะมีประสบการณ์รับชมภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ 007 กันมาแล้ว ไม่ว่าจะกี่เรื่องก็ตาม ในบทความนี้ผมขอชวนทุกคนมาร่วมวิเคราะห์ถึงเอกลักษณ์และจุดเด่นต่างๆของเจมส์ บอนด์ ตั้งแต่อดีต - ปัจจุบันกันครับ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! Sean Connery ฌอน คอนเนอรี่ ต้นตำรับพยัคฆ์ร้าย 007 ฌอน คอนเนอรี่ คือนักแสดงชายคนแรกที่ได้สวมบทบาทเจมส์ บอนด์อย่างเป็นทางการ รับบทบอนด์ครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง Dr. No ปี 1962 ต่อเนื่องจนถึงปี 1967 และกลับมารับบทนี้อีกครั้งในปี 1971 รวมทั้งสิ้น 6 ภาคเลยทีเดียวล่ะ จุดเด่น เป็นเจมส์ บอนด์ที่มาดเนี้ยบและทรงเสน่ห์มากที่สุด มีความสุขุม ใจเย็น และมีความเป็นผู้ใหญ่ เสริมภาพลักษณ์ให้ดูมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น แม้จะเป็นเจมส์ บอนด์ 007 คนแรก แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ฌอน คอนเนอรี่ ได้สร้างภาพลักษณ์ ภาพจำต่างๆ รวมถึงมาตราฐานให้กับบทบาทนี้ไว้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว George Lazenby จอร์จ เลเซนบี้ พยัคฆ์ร้ายชาวออสซี่ จอร์จ เลเซนบี้ คือชายคนแรกที่เข้ามารับไม้ต่อของการรับบทเจมส์ บอนด์ 007 แต่น่าเสียดายที่เขาได้เป็นเจมส์ บอนด์เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น! ในภาพยนตร์เรื่อง On Her Majesty's Secret Service ในปี 1969 ด้วยเหตุผลที่แฟนๆหนังในยุคนั้นไม่ยอมรับในเรื่องสัญชาติของเขา เพราะเจมส์ บอนด์เป็นชาวผู้ดีอังกฤษ แต่เลเซนบี้กลับเป็นชาวออสเตรเลียซะนี่! จุดเด่น มิติของตัวละคร เช่น การที่บอนด์รักใครสักคนอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก, บอนด์เสียใจให้กับคนรักอย่างสุดซึ้ง เป็นต้น ความคล่องแคล่ว ว่องไว ดูมีทักษะการต่อสู้ที่ดีขึ้นจากคนก่อน เป็นเจมส์ บอนด์ที่อายุน้อยที่สุดในปัจจุบัน เพราะเลเซนบี้มีอายุราว 29 ปี ในขณะที่รับบทนี้ แม้เลเซนบี้จะเป็นบอนด์ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักในหมู่แฟนหนัง แต่ก็ต้องยอมรับว่าหนังบอนด์ของเขานั้นยอดเยี่ยมเหนือกาลเวลา และเป็น 1 ในหนังบอนด์ที่ดีที่สุดอีกด้วย Roger Moore โรเจอร์ มัวร์ พยัคฆ์ร้ายเจ้าสำอางค์ บุรุษคนที่สามที่รับบทบาทนี้คือ โรเจอร์ มัวร์ และการมาถึงของเขาก็ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับแฟรนไชส์นี้ ด้วยโทนเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไป ลดความจริงจัง ตึงเครียด แล้วเสริมเป็นมุขตลก เฮฮาแบบพอดีๆ รวมถึงความเวอร์วังอลังการชนิดที่ถึงขั้นไปทำภารกิจกันนอกโลกมาแล้วหนนึง! ความแปลกใหม่ และน่าตื่นเต้นนี้เองที่ทำให้มัวร์ได้ครองบทบาทนี้ยาวนานร่วม 12 ปี นับตั้งแต่การรับบทครั้งแรกในเรื่อง Live and Let Die ปี 1973 จนถึงเรื่อง A View to a Kill ในปี 1985 รวมทั้งสิ้น 7 ภาค ซึ่งก็ยังคงครองสถิติรับบทนี้มากที่สุดในปัจจุบัน จุดเด่น ความขี้เล่น เจ้าสำอางค์ มาดเนี้ยบ เน้นใช้ไหวพริบในการเอาตัวรอด มากกว่าการใช้กำลัง แต่ถึงจะได้รับความนิยมมากเพียงใดก็ตาม ก็ต้องยอมรับอย่างนึงว่า เขาเป็นบอนด์ที่อายุมากที่สุดในบรรดาทั้ง 6 คน เพราะแรกเริ่มที่รับบทนี้เขาก็มีอายุราว 45 ปีแล้ว และในครั้งสุดท้ายที่รับบทนี้มัวร์มีอายุราว 57 ปี! ซึ่งอายุมากจนแสดงคู่กับนางเอกรุ่นลูกไปแล้ว Timothy Dalton ทิโมธี ดาลตัน พยัคฆ์ร้ายสายโหด หลังจากออกนอกลู่นอกทางความเป็นหนังสายลับเนื้อหาเข้มข้นกันไปนาน ดาลตันคือผู้ที่พาให้แฟรนไชส์นี้กลับสู่ทิศทางเดิม ด้วยเนื้อเรื่องที่จริงจัง เข้มข้น แบบหนังสายลับในอดีตท่ามกลางบรรยากาศแห่งยุค 80 ว่ากันว่าบอนด์ของดาลตันนำเสนอคาแรคเตอร์ตามต้นฉบับนวนิยายของเอียน เฟลมมิ่งมากที่สุด แต่สิ่งนี้ยังคงเร็วเกินไปสำหรับความพร้อมและความต้องการของแฟนหนังในยุคนั้น ส่งผลให้เขาได้รับบทนี้เพียง 2 ครั้งในเรื่อง The Living Daylights ปี 1987 และ Licence to Kill ในปี 1989 เท่านั้น จุดเด่น เป็นบอนด์ที่จริงจังกับภารกิจ และมีความเคร่งขรึม หากใครทำให้บอนด์คนนี้โกรธ บอกเลยว่าเขามีความเจ้าคิดเจ้าแค้นไม่น้อย ใครก็ตามที่ทำให้เขามีความแค้น มักจบไม่สวยสักราย! เป็นบอนด์ที่หล่อเหลาที่สุด อ้างอิงจากผลวิจัยของ Gambling.com เมื่อกาลเวลาผ่านไป เจมส์ บอนด์ ฉบับทิโมธี ดาลตันก็ได้รับการยอมรับมากขึ้นกว่าแต่ก่อน รวมถึงความชื่นชอบในหนังบอนด์ทั้ง 2 เรื่องของเขาด้วย เรียกง่ายๆว่า "เจมส์ บอนด์ ผู้มาก่อนกาล" ก็คงไม่ผิดครับ Pierce Brosnan เพียร์ซ บรอสแนน พยัคฆ์ร้ายในอุดมคติ เพียร์ซ บรอสแนน ก้าวเท้าเข้ามารับบทนี้ครั้งแรกในเรื่อง GoldenEye ปี 1995 ในช่วงที่แฟรนไชส์กำลังเข้าสู่ช่วงขาลง บรอสแนนจึงเป็นผู้เข้ามากอบกู้แฟรนไชส์นี้อีกครั้ง ด้วยการผสมผสานความลงตัวระหว่างความจริงจัง เข้มข้น กับความตลก มีสีสัน ซึ่งทำได้อย่างลงตัวกว่าที่เคย ผลลัพธ์คือความนิยมในหนังเจมส์ บอนด์ที่กลับมาอย่างงดงามอีกครั้ง และส่งผลให้เขาได้รับบทนี้ต่อเนื่องจนถึงปี 2002 รวมทั้งสิ้น 4 ภาค จุดเด่น เป็นส่วนผสมระหว่างความจริงจังและความขี้เล่นที่ลงตัว เป็นบอนด์ที่มาดเนี้ยบไม่แพ้บอนด์รุ่นก่อนๆ มีไหวพริบ และเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีสุดล้ำได้อย่างรวดเร็ว (ที่จริงคือไม่ได้เรียนรู้ด้วยซ้ำ แต่ใช้ครั้งแรกก็เป็นเลย!) มีแฟนๆหนังมากมายที่เกิดทันและเติบโตมาในยุคของเจมส์ บอนด์คนนี้ จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บรอสแนน เป็นบอนด์ที่แฟนๆหนังหลายคนยังคงชื่นชอบและจดจำได้เป็นอย่างดี Daniel Craig แดเนียล เครก พยัคฆ์ร้ายสายลุยระห่ำ อีกจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของแฟรนไชส์เกิดขึ้นพร้อมกับการมาถึงของแดเนียล เครก หนังบอนด์ในยุคของเขาลงความเวอร์วังและความล้ำสมัยลงอย่างเห็นได้ชัด และเพิ่มความสมจริง มิติของตัวละครเข้าไป จึงเป็นอีกหนึ่งรสชาติใหม่ของแฟรนไชส์ และก็ทำได้ดีในยุคที่ผู้ชมโหยหาสิ่งเหล่านี้ จุดเด่น เป็นบอนด์สายลุย ไม่ค่อยพึ่งพาเทคโนโลยีสุดล้ำใดๆ มิติของตัวละคร เช่น การที่บอนด์มีความรักและเคยทำผิดพลาด, เป็นบอนด์ที่มีเนื้อเลือดและสมจริงที่สุด เครกรับบทเป็นบอนด์ครั้งแรกในเรื่อง Casino Royale ปี 2006 จนถึงเรื่องล่าสุดของแฟรนไชส์อย่าง No Time to Die เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 5 ภาค และทำสถิติรับบทนี้นานที่สุดถึง 15 ปี! จุดเด่นและเอกลักษณ์ของเจมส์ บอนด์ในแต่ละคนนั้น ล้วนแปรผันไปตามยุคสมัยหรือประวัติศาสตร์ของแฟรนไชส์ในช่วงเวลานั้นๆ ต้องรอติดตามกันต่อไปว่าเจมส์ บอนด์คนใหม่ในอนาคตหรือจะเรียกว่าเจมส์ บอนด์คนที่ 7 นั้น จะมีจุดเด่นหรือนำพาแฟรนไชส์นี้ไปสู่ทิศทางแบบไหนกันแน่ ภาพปกจาก 007 ตัดต่อเพิ่มเติมจาก Canva โดย BossBondFans ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4 ภาพที่ 5 ภาพที่ 6 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !