“โตโน่” เผยความหลังวัยเด็กก่อนเข้าวงการ ติดหนี้ 20 ล้านบาท!!
“โตโน่” เผยความหลังวัยเด็กก่อนเข้าวงการ ติดหนี้ 20 ล้านบาท!!
กำลังเป็นที่พูดถึงในสังคมวงกว้างเป็นอย่างมาก สำหรับหนุ่ม “โตโน่ ภาคิณ คำวิไลศักดิ์” ที่เจ้าตัวนั้นกำลังทำแคมเปญ “หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” โดยการว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้มาโปรโมทแคมเปญผ่านรายการ TurningPoint ของนางเอกสาว “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” พร้อมกับได้เล่าชีวิตก่อนจะเข้าวงการบันเทิงด้วย
โดย “โตโน่” ได้เล่าถึงชีวิตตอนเด็กว่า “ผมเกิดที่ขอนแก่น โรงพยาบาลศรีนครินทร์ แม่ชื่อน้อยพ่อชื่อหมู เป็นครอบครัวที่อบอุ่น มีครบเลย บ้านเป็นค่ายมวย เปิดโต๊ะสนุ๊ก พ่อทำซื้อรถขายรถ ภาพในความทรงจำคือพ่อกับแม่สู้มาด้วยกันจากไม่มีอะไร พ่อรวยขึ้นความเป็นอยู่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนจุดเปลี่ยนคือคุณพ่อเสียชีวิต เส้นเลือดใหญ่แตกที่ก้านสมอง ตอนอายุ 9-10 ขวบ จำได้หมด รู้ทุกอย่างอะไรเป็นอะไร แต่ช่วยอะไรไม่ได้ จำได้ว่ามีคนวิ่งมาบอกว่าเฮียหมูล้ม ล้มมันตกใจขนาดนั้นเลยหรอ เรามารู้ว่าเป็นการล้มที่ไม่ปกติ จนมารู้ว่าล้มเพราะเส้นเลือดแตกตอนอายุ 36 เท่าผมตอนนี้ อันนี้เป็นจุดเปลี่ยนแรกทำให้รู้ว่าเป็นหนี้อยู่เกือบ 20 ล้าน”
“เปลี่ยนผมไปเลย เปลี่ยนความรู้สึก เวลาไปโรงเรียนมีเช็คชื่อ เราเข้าชั้นใหม่เค้าจะถามอยู่กับใคร เราได้ยินว่า ‘หนูอยู่กับตายาย พ่อแม่เลิกกัน’ เราได้ยินแล้วเค้านี่น่าสงสารเนอะ เรานี่โชคดีเกิดมามีทุกอย่าง จนมันมาเกิดขึ้นกับผมจึงได้เข้าใจว่าเวลาที่คนเรามันอยากจะหยิกตัวเอง แบบแม่นอนอยู่ข้างๆน้องนอนอยู่แล้วพยายามหยิกว่าให้มันเป็นความฝันได้ไหม แบบมันไม่จริงใช่ไหมที่ตื่นมาแล้วไม่เจอผู้ชายคนนี้แล้ว พ่อเป็นแรงบันดาลใจ มันไม่ใช่คำสอน ทั้งสิ่งที่แกด่าแกทำให้ดู แกไม่เคยกลัวใครเลยแต่เป็นคนอ่อนน้อม คนที่คอยปกป้องเราปกป้องแม่ ทุกอย่างเหมือนพัง เราต้องขายทุกอย่าง ค่ายมวย มองดูคนมายกโต๊ะสนุ๊กไปขัดดอก
ก่อน “ปุ๊กลุก”จะถามว่า “20 ล้านเกิดจากอะไร” โดย “โตโน่” เล่าต่อว่า “พ่อทำหลายอย่างแบกไว้ไม่บอกใคร แกก็จะเครียดแต่แกจะรับผิดชอบได้อยากให้เมียกับลูกอยู่สบาย แต่คนที่อยู่ต่อเป็นแม่บ้าน เราก็ยังเด็กเกินไป มันฝังใจคิดว่าทำยังไงไม่ต้องขอเงินแม่ เรารู้แม่เครียดเรื่องเงินอยู่แล้วและเราก็ไม่อยากเข้าบ้าน เข้าไปแล้วมันมืด แม่ใส่เสื้อเก่าๆขาดๆเราไม่อยากเห็น ที่ไม่อยากเข้าไปเพราะเข้าไปแล้วหดหู่ ผมเลยโอเคอยู่กับเพื่อนเพราะยังได้มีความสุขบ้าง”
“ปุ๊กลุก”ถามกลับว่า “แล้วพี่ไปต่อกับมันยังไง พี่ช่วยแก้ปัญหายังไง” โตโน่ตอบกลับว่า “ผมเริ่มจากพยายามขอเงินแม่ให้น้องลงด้วยการทำทุกอย่างที่จะทำได้ เช่น เอาของเล่นเก่าๆที่พ่อเคยซื้อให้ไปแบกับพื้นดินขาย ทุกอาทิตย์ผมจะเอาเทป ของเล่นไปขายราคาถูกๆ จะได้ไม่ต้องขอเงินแม่ และเราจะรู้สึกภูมิใจ แต่ของเล่นมันไม่ได้มีเยอะขนาดนั้นมันมีวันหมด วันหนึ่งเดินผ่านโต๊ะบอล มีเยอะ ทั้งแทงสเต็ปแทงเต็ง ผมก็เข้าไปเห็น มันโอกาส 50 50 เลย มันก็มีแค่ 2 ทีม เล่นคู่แรกได้มาครึ่งหนึ่ง เล่น 500 บาท ได้มา 250 บาท ไม่น่าจะบอกละเอียดขนาดนั้น ผมได้ครึ่งนึงแต่แมทช์ต่อไปมันเสียเลยคิดว่าอันนี้มันไม่มั่นคง แต่สิ่งที่มั่นคงและได้แน่ๆ คือ เดินโพย สมมติปุ๊กลุกรู้จักผมและไว้ใจผม ผมเอาเงินปุกลุก 1000 บาท ไปส่ง โต๊ะใหญ่ ผมได้แล้วแน่ๆ 10 บาท พวกคุณจะได้จะเสียก็เรื่องของพวกคุณ มันก็มีค่าที่ต้องจ่าย ผมก็ต้องรับผิดชอบคนที่แทงกับผมเพื่อไปส่งโต๊ะใหญ่ ถ้าเขาไม่จ่ายผมก็ต้องรับผิดชอบหาทางให้เค้าจ่าย ผมก็ไม่ได้ทำอย่างงั้นผมไม่ได้ใจร้ายอย่างงั้นผมพูดดีๆผมเจรจา แล้วมันก็ยังเด็กช่วงมัธยม อันนี้มันก็ไม่ดีนะอย่าเอาเป็นแบบอย่าง ในมุมมองของผมไม่ว่าคุณเป็นใครหญิงหรือชายถ้าคุณอยากได้เงินเค้าคุณก็ต้องกล้าเสีย ไม่ใช่ว่าแทง 1000 แต่ไม่มี 1000 เท่ากับว่าคุณไม่รับผิดชอบ ถ้าอยากได้ก็ต้องพร้อมรับผิดชอบ นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องรู้ แต่ถ้าไม่รับผิดชอบก็ต้องมีหน่วยงานที่จะรับผิดชอบในตรงนั้น”
“พอจบมัธยมก็ต่อมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่หัวหิน คณะธุรกิจการบิน เรียน 2 ปี 8 เดือนจบ ไม่กลับบ้านเลยลงซัมเมอร์ทุกตัวพยายามเรียนให้มันผ่านเพื่อที่จะได้ออกมาหาเงินเร็วๆ พอจบก็บินไปเยอรมันเลย มันมีร้านของพี่สาวที่เปิดร้านอาหารและก็เค้าบอกถ้าไปล้างจานจะให้ 20 ยูโร ตอนนั้นก็ 1000 บาท ต่อหนึ่งวัน ผมโชคดีที่ได้งานเพิ่มที่นั่นคืองานล้างห้องน้ำ ร้านเดิม ไม่มีคนทำมันสกปรก ถ้าผมทำให้อีก 20 ยูโร เท่ากับวันนึงผมได้ 2000 บาท นอนอัดกัน 8 คน เอาไม้อัดตีทีละ2แผ่น ทุกคืนเหมือนได้ฟังปัญหาชีวิตกัน มันก็ทำให้ผมเข้าใจความลำบาก จำได้ว่าน้ำตาไหล ไม่มั่นใจว่ามันเหม็นหรือมันเศร้าแต่ก็อยู่ได้ด้วยการกลับมานอนที่ห้องมาคิดว่าได้กี่ยูโรแล้วคูณเป็นเงินบาทได้กี่บาทแล้วจะเอาไปอวดแม่”
โดยทั้งหมดที่ “โตโน่” ได้เล่ามานั้นคือเหตุการณ์ตั้งแต่เด็กจนถึงช่วงก่อนที่จะมาประกวดรายการเดอะสตาร์และกลายเป็น “โตโน่” ที่ทุกคนรู้จักมาถึงทุกวันนี้ โดยโตโน่ยังเล่าถึงเรื่องเข้าวงการ และเรื่องประเด็นอื่นๆอีก ใครอยากรับชมเต็มๆสามารถเข้าไปรับชมได้ที่ช่อง Fonthip Watcharatrakul ได้เลยนะค๊า