Short CommentCastaway Diva แคสต์อะเวย์ ดีว่า (2023)โลกแห่งความฝันกับความจริงและชีวิตที่ต้องใช้มากกว่าความเข้าใจที่ถูกฉาบหน้าด้วยการล่าฝันที่ไม่มีวันสายหลายต่อหลายครั้งหนังหรือละครคือเครื่องสะท้อนชีวิตที่มีมากมายพกพาเอาความเป็นเครื่องปลอบประโลมใจมามอบให้ด้วย อาจเพราะการใช้ชีวิตในแต่ละวันในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายมนุษย์ได้ถอยห่างออกไปจากการเป็นสัตว์สังคมนั่นคือเริ่มห่างเหินการมีปฏิสัมพันธ์กันน้อยลงเพราะยุคสมัยหรือเทคโนโลยีหรือไม่ก็ไม่อาจห้ามได้ ซึ่งก็ต้องวกกลับไปว่ายุคสมัยได้สร้างเทคโนโลยีมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชีวิตมนุษย์และแน่นอนในบางมุมมนุษย์ก็ใช้มันเป็นเครื่องปลอบประโลมใจที่เหนื่อยล้าเจ็บปวดหรือเปลี่ยวเหงา ทว่าการไม่ได้สัมผัสตัวตนที่แท้จริงของกันและกันของมนุษย์เฉกเช่นอดีตที่คนจะสนิทหรือไม่กินเส้นกันมักจะมาจากการที่ได้สัมผัสนิสัยใจคอที่แท้จริงซึ่งกันและกันสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ปัจจุบันที่มนุษย์ตัดสินมนุษย์ด้วยการที่รู้จักเพียงผิวเผินรับรู้แต่บางอย่างที่คนพูดกันมาก็พิพากษาและก่นด่าไปโดยที่ไม่รู้ว่าแท้จริงลึกๆเป็นเช่นไร มันก็คือการใช้ชีวิตที่มีเปลือกหนาห่อหุ้มแก่นของชีวิตไว้เช่นเดียวกับละครเรื่องนี้ที่แก่นของเรื่องถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเปลือกบางๆที่แม้จะเป็นแบบนั้นแต่ดูดีทั้งนอกและในซอมกฮา (อีเร) เด็กสาววัยรุ่นที่คลั่งไคล้ในเสียงเพลงของยุนรันจู (คิมฮโยจิน) ดีว่าตัวแม่แห่งยุคและฝันที่จะเป็นนักร้องแบบยุนรันจู แต่เบื้องหลังความน่ารักสดใสของซอมกฮาคือเธอเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัวโดยพ่อแท้ๆ จนเมื่อเธอส่งเทปเดโม่เข้าประกวดเป็นศิลปินในสังกัดของยุนรันจูผ่านเธอจึงได้รับความช่วยเหลือจากจองกีโฮ (มุนอูจิน) ให้หนีออกจากเกาะที่บ้านโดยที่จองกีโฮก็เป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัวโดยพ่อแท้ๆเช่นกัน ทว่าการหนีออกมาครั้งนี้ไม่หลุดรอดสายตาของพ่อของซอมกฮาพ่อของเธอตามมาถึงบนเรือข้ามฝั่ง แต่แล้วซอมกฮาพลัดตกลงจากเรือหายสาปสูญไปติดอยู่บนเกาะร้างจนเวลาผ่านไปสิบห้าปีซอมกฮา (พัคอึนบิน) ก็ถูกพบจากคนที่ทำงานการกุศลเก็บขยะบนเกาะร้างและคนที่พบเธอคือสองพี่น้องคังอูฮัก (ชาฮักยอน) และคังโบกอล (แชจองฮยอบ) เมื่อรอดชีวิตกลับมาขึ้นฝั่งหลังจากเวลาชีวิตหยุดอยู่กับที่ไปสิบห้าปีซอมกฮาในวัยสามสิบต้องกลับมาใช้ชีวิตปกติแต่สิ่งที่ยังมีคือความฝันที่จะเป็นนักร้องและพบกับพี่ยุนรันจูอีกครั้งแล้วจองกีโฮล่ะตอนนี้เขาไปอยู่ที่ไหน วางเรื่องเวลาที่หายไปกับการล่าฝันให้เป็นตัวผลักดันมากกว่ามาใช้เดินเรื่องทำให้มีเปลือกบางๆที่สวย เมื่อชื่อเรื่องว่า Castaway Diva และเนื้อหาก็คือคนที่มีพยายามตามความฝันแต่ดันไปติดเกาะเสียเวลาไปตั้งสิบห้าปีแล้วกลับมาเพื่อล่าฝัน จึงมาพร้อมกับการเอาของเคยๆมาใช้กับวลีที่ว่าการเดินตามความฝันไม่มีวันสายที่จะมีความงดงามกินใจอยู่ในตัว แต่ใส่ความแปลกลงไปเมื่อเวลาที่หายคือการไปติดเกาะซึ่งความจริงจะเล่นเป็นแบบอื่นก็ได้แต่เมื่อเลือกเป็นแบบนี้ก็ทำให้สะดุดใจมากกว่า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเสียหายเพราะช่วงเวลาที่ติดเกาะอยู่เป็นแค่เปลือกบางๆที่ตั้งใจมาห่อหุ้มเรื่องราวโดยละเอียดไว้นั่นคือใช้มาดึงความสนใจ นั่นหมายความว่าอย่าไปใส่ใจกับไอ้เรื่องติดเกาะมากมายว่าคนติดเกาะหน้าจะสวยหุ่นจะดีเสียงจะใสกินเข้าไปได้ยังไงมันฝรั่งตลอดสิบห้าปีเพราะเราๆที่ตรงนี้คงไม่มีใครเคยติดเกาะร้างกันใช่หรือไม่ มันก็คือการใช้เรื่องการติดเกาะจนเวลาชีวิตที่ควรทำอะไรกับชีวิตได้มากกว่านี้มาเป็นแรงผลักดันไม่ใช่การเดินเรื่องเพราะเป็นแค่เปลือกส่วนแก่นยังคงเป็นความฝันที่ไม่มีวันสลายไปแก่นแท้คือการใช้ชีวิตโดยมีความฝันและแรงบันดาลใจเป็นเข็มทิศที่ในโลกจริงจะต้องใช้มากกว่าความเข้าใจ ส่วนแก่นแท้ของเรื่องคือการใช้ชีวิตหลังจากนั้นคือหลังจากเวลาชีวิตหยุดอยู่กับที่ไม่รับรู้เรื่องราวของโลกมานานสิบห้าปีที่เอามาเล่นได้อย่างสนุก นั่นคือการวางตัวให้ไม่เข้าใจชีวิตเพื่อที่จะเข้าใจชีวิตโดยที่ชัดเจนอยู่ที่ความมุ่งมั่นกับความฝันที่ไม่ได้มีโอกาสเดินตามเพราะการหายไปของช่วงเวลาสำคัญของชีวิต ส่วนนี้ต่างหากที่เล่นได้อย่างคุ้มค่าทุกนาทีเพราะจัดมาสารพัดบททดสอบที่พร้อมจะให้คนคนหนึ่งยอมละทิ้งความฝัน และปัจจัยเหล่านั้นก็ไม่ได้มาจากคนอื่นนั่นคือแม้จะเป็นเรื่องของคนอื่นแต่ถึงที่สุดตัวเองต่างหากที่จะตัดสินใจยอมปล่อยมือจากความฝันหรือไม่เพราะคิดแทนคนอื่น สุดท้ายความฝันที่มีแรงผลักดันโดยมีคนรอบข้างเป็นส่วนร่วมจะสวยงามกว่าการที่คิดแทนคนอื่นในบางมุมทำให้ความฝันที่ล้ำค่ามาพร้อมความโดดเดี่ยว เพราะเล่าด้วยเรื่องราวของคนรอบกายมากมายจึงกลายเป็นชี้ให้เห็นว่าการมีความฝันเป็นเข็มทิศนำทางนั้นเป็นสิ่งที่ดีแต่การมีเพื่อนร่วมยินดีกับฝันที่เป็นจริงนั่นคือสิ่งล้ำค่าฉลาดในการเปรียบเทียบได้สวยงามเรื่องครอบครัวพร้อมตั้งคำถามได้เจ็บๆ ส่วนที่ผู้เขียนชอบมากคือการตั้งคำถามเชิงเปรียบเทียบแรกเลยคือเรื่องของครอบครัวเมื่อเอาเรื่องของความรุนแรงในครอบครัวมาเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของประเด็นรองที่ต่างคนต่างต้องเจอระหว่างซอมกฮากับจองกีโฮแต่มิติข้างในนั้นอาจดูเหมือนแต่ก็ต่าง ทำให้ถึงที่สุดในวัยที่มีวุฒิภาวะคนสองคนมีมุมความคิดต่างกันซึ่งฝั่งจองกีโฮก็ไม่ผิดเพราะบางคนก็เกินจะเยียวยาทำให้เรื่องครอบครัวของจองกีโฮเป็นความลุ้นและเอาใจช่วยไม่น้อยกว่าเรื่องการเดบิวท์ของซอมกฮา ถัดมาคือเรื่องของการประสบความสำเร็จที่โดดเดี่ยวของอึนโมแรที่โลกทั้งใบอาจคิดว่านี่คือการประสบความสำเร็จแต่อาจมีเพียงตัวเธอเองที่ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น นั่นเพราะซอมกฮามีคู่คิดที่เธอไม่เคยมีคือยุนรันจูที่เธออยากมีแต่ความเป็นเธอเองที่ทำให้เธอไม่มีที่ต้องรับบทเรียนกันไป จึงเป็นการตั้งคำถามเจ็บๆในเรื่องแรกว่าครอบครัวที่แท้คืออะไรความรักจะมีมอบให้แบบไหนและตั้งคำถามว่าถ้าเลือกได้ที่จะประสบความสำเร็จจะเป็นแบบไหนแบบอึนโมแรหรือซอมกฮายังได้มาตรฐานสำหรับ "พัคอึนบิน" ที่คราวนี้ไม่ต้องแบกเพราะได้สายลมไต้ปีกที่ดีเกื้อหนุนให้บินสูง นี่คืองานที่ตั้งใจมาขายพัคอึนบินแต่ความฉลาดคือการไม่ให้พัคอึนบินแบกเรื่อง คือเลือกสร้างตัวละครที่เป็นสายลมไต้ปีกมากมายที่ชัดๆเลยคือครอบครัวใหม่ของจองกีโฮที่ลงลึกไปอีกคือพี่ชายที่รับบทโดยชาฮักยอน อีกหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญที่อาจเรียกได้ว่าถ้าไม่มีคนนี้ตัวละครซอมกฮาจะขาดเสน่ห์ที่พึงมีไปเยอะคือยุนรันจูของคิมฮโยจิน ส่วนแชจองฮยอบนั้นฟันธงแบบไม่กลัวทัวร์ลงเลยว่าเขาเหมาะกับบทแบบนี้นะเพราะเรื่องที่แล้วที่เป็นพระเอกก็มาแนวอบอุ่นแบบนี้และแสดงดีแต่พลังดารายังสู้พัคอึนบินไม่ได้ เวลาเข้าพระเข้านางโดนพลังงานบางอย่างของพัคอึนบินกลบไปซึ่งก็ต้องว่ากันที่ชั่วโมงบินในบทนำที่ต้องสั่งสม ส่วนพัคอึนบินนั้นบทแบบนี้คือขนมกรุบเพราะยากกว่านี้เธอเจอมาหมดแล้วยิ่งได้แรงส่งจากสายลมไต้ปีกที่แข็งแรงจากคนรอบข้างก็กลายเป็นบทที่น่าจดจำของเธออีกครั้ง อ้อต้องไม่ลืมอีเรที่ส่งต่อมิติความเป็นซอมกฮาให้พัคอึนบินได้เนียนตาที่สุดด้วยเพราะเชื่อหมดใจได้เลยว่าเป็นคนเดียวกัน ดูเหมือนจะแหวกแนวแต่แท้จริงแล้วยังเป็นงานที่เกาหลีถนัดแต่ก็ยังเอาอยู่เพราะดูสนุกได้ทุกอารมณ์เช่นเคย อาจเหมือนเป็นความแหวกเมื่อแรกพบแต่แท้จริงยังเป็นงานที่เกาหลีถนัดและเล่นบ่อยๆ ที่ว่าเกาหลีถนัดคือโครงเรื่องประมาณนี้ความจริงทุกชาติทุกภาษาต่างก็เคยมีมาแต่ทางเกาหลีก็จะมีดราม่าครอบคัวดราม่าสังคมมาใส่ไว้ให้รู้สึกได้เป็นปกติ แต่สิ่งนั้นมันคือผงปรุงรสที่ทำให้มีรสชาตหลากหลายในอาหารจานเดียวมีครบทุกรสจะสนุกสนานร่าเริงยิ้มก็ได้ร้องให้ได้มีซาบซึ้งก็พอไหวอบอุ่นหัวใจก็เป็นเรื่องแน่นอน เพราะดูเหมือนเกาหลีจะเล่าแบบนี้ที่ดราม่ามีมาทุกทีได้เนียนตาที่สุดทั้งที่ขยี้เพราะขนาดสร้างตัวละครที่คนดูไม่ยอมให้อภัยและไม่ว่ายังไงก็ไม่ให้อภัยอย่างพ่อแท้ๆ แต่สุดท้ายการแก้แค้นที่สาแก่ใจไม่ใช่การจับเข้าคุกหรือกระทืบให้จมคอนเวิร์สแต่เป็นการทิ้งไว้ให้ตายแบบเดียวดายไร้ญาติขาดมิตรโดยที่สิ่งที่ต้องการทำลายก็ทำไม่ได้ นั่นหมายความว่าต่อให้ตายเป็นผีก็ยังต้องแค้นฝังหุ่นกันไปเป็นความสะใจแบบโลกสวยแต่ดูดีเพราะนอกจากนี้ไม่มีคนไหนที่เป็นคนร้ายที่ร้ายจริงสักคน ทำให้เรื่องนี้จบลงอย่างสวยงามหลังจากติดกันงอมแงมสองคนคุณแม่บ้านมาเดือนกว่าๆดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7,8 จาก Instagram tvn_drama ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/ke4n6lGrdrRQhttps://entertainment.trueid.net/detail/VKAXA5aXVV0bhttps://entertainment.trueid.net/detail/N4kzwlZAgJwOคอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน