ไลออนส์เกต สตูดิโอหนังเคยปัง กับปี 2024 ยังค้นไม่เจอหนังฮิตสักเรื่องเดียว
ถึงแม้ว่าวงการภาพยนตร์จะกลับเข้าสู่สภาวะเกือบจะปกติมาก ๆ แล้วก็ตาม หลังเผชิญหน้ากับ 2 วิกฤตใหญ่ ๆ จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อด้วยการหยุดงานประท้วงในฮอลลีวูด แต่ว่าบัดนี้บ็อกซ์ออฟฟิศก็กลับมาโกยเงินและให้กำเนิดหนังฮิตเรื่องใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องแล้ว ผิดต่างจากสตูดิโอหนังฟอร์มกลาง ๆ ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งค่ายผลิตหนังป้อนให้กับฮอลลีวูดอย่างต่อเนื่อง อย่าง ไลออนส์เกต (Lionsgate) ที่ปรากฏว่าปี 2024 กลายเป็นปีที่ยากลำบากของพวกเขา เพราะยังไม่อาจจะค้นพบหนังฮิตของตัวเองเลยสักเรื่องเดียว
ไลออนส์เกต ค่ายหนังสัญชาติแคนาดา-อเมริกันที่จัดได้ว่าเป็นอีกสตูดิโอหลักที่อยู่คู่วงการหนังมาเกือบจะ 30 ปี เป็นรองแค่เพียงบรรดาสตูดิโอใหญ่ของฮอลลีวูด 4-5 แห่งเท่านั้น แต่สถานการณ์ของสตูดิโอหนังแห่งนี้ในปี 2024 ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก นี่คือผู้ผลิตที่เคยมีหนังปัง ๆ อย่าง หนังชุด John Wick หรือ หนังชุด The Hunger Games รวมทั้งแฟรนไชส์ฮิต Twilight และหนังตระกูล Saw ในขณะนี้ค่ายหนังกำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบากในจุดที่ไร้หนังทำเงินต่อเนื่องกัน และทำให้ตัวเลขเริ่มเข้าขั้นวิกฤตในรอบ 13 ปี
หากมองดูภาพรวมตลอดทั้ง 9 เดือนที่ผ่านมาของไลออนส์เกต ยังไม่ปรากฏให้เห็นตัวฮิตในแง่ตัวเลขรายได้เลยสักเรื่องเดียว หนังเรื่องที่ทำเงินได้มากที่สุดในรอบปีนี้ก็คือ "The Strangers: Chapter 1" กับตัวเลขในอเมริกาที่ 35.2 ล้านเหรียญ ที่ก็ยังถูกมองว่าค่อนข้างผิดฟอร์ม เพราะเป็นการปัดฝุ่นหนังเขย่าขวัญในอดีตนำมาสร้างใหม่ ที่วางแผนจะแบ่งออกเป็นไตรภาค แต่เพราะกระแสตอบรับออกมาเช่นนี้ ทำให้ยังชะลอหาวันเหมาะ ๆ ปล่อยภาคต่อไปอยู่
ไลออนส์เกต ยังเก็บรายได้ประปรายได้จากหนังช่วงไตรมาสแรก อย่าง "Imaginary", "Arthur the King" และ "The Ministry of Ungentlemanly Warfare" ที่ต่างเป็นหนังที่ทำเงินในอเมริกาไปอยู่ในระดับ 20 ล้านเหรียญเท่านั้น และสตูดิโอก็แทบจะเบรกการปล่อยผลงานหนังออกฉายในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ก่อนจะเพิ่งมาปล่อยของอีกครั้งในเดือนสิงหาคม แบบชนิดที่ปล่อยออกมาสัปดาห์ต่อสัปดาห์ แต่ปรากฏว่าหนังทุกเรื่องที่ส่งมานั้นก็ล้มเหลวทางด้านรายได้แทบจะทั้งหมด
"Borderlands" หนังจากวิดีโอเกมที่ค่ายหนังตั้งใจและหวังว่าจะเป็นเรือธงเรื่องใหม่ ต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลวบนบ็อกซ์ออฟฟิศ เพราะทำเงินในอเมริกาไปได้แค่เพียง 15 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างระดับร้อยล้าน โดยหนังปิดโปรแกรมฉายไปแค่เพียง 28 วันเท่านั้น แล้วยังมาช้ำต่อเนื่องกับ "The Crow" อีกหนึ่งการปัดฝุ่นหนังในตำนานที่ก็เผชิญหน้ากับความพังอีกหน เพราะทำเงินไปไม่แตะหลัก 10 ล้านเหรียญ ม้วนเสื่อเก็บกลับบ้านปิดโปรแกรมไปหลังจากเข้าฉายได้แค่ 21 วัน
ขณะที่ "1992" หนังดรามาระทึกขวัญที่ดูทรงเหมือนจะดีเด่นพอจะเกาะเวทีรางวัลได้ แต่ก็พลิกผันมีกระแสตอบรับคนละขั้ว เริ่มฉายแบบวงจำกัดแต่ก็ไม่อาจจะขยายโรงฉายได้มากเท่าไหร่ เพราะจำนวนคนดูไม่เพียงพอ ขณะนี้ยังทำเงินได้แค่เฉียด ๆ 3 ล้านเหรียญ ตามมาด้วยหนังแอคชันตลกที่ไม่มีใครดู อย่าง "The Killer’s Game" ที่ไม่ต่างกับการฉายทิ้ง เพราะเพิ่งทำเงินในบ้านไปแค่ 5 ล้านเหรีญ และคาดว่าจะปิดตัวฉายในอีกไม่กี่วันนี้
กับล่าสุดใน "Never Let Go" หนังดรามาแนวเอาชีวิตรอดที่ภาพลักษณ์ค่อนข้างน่าสนใจ แต่กระแสปังได้ไม่เพียงพอ ออกสตาร์ทวีคแรกในอเมริกาไปกับตัวเลขที่ไม่ได้ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่ แค่ 4.5 ล้านเหรียญ ยังคงตอกย้ำการไร้หนังฮิตของค่ายไลออนส์เกตอยู่ต่อไป แล้วในสุดสัปดาห์สิ้นเดือนกันยายน มีการส่งฉายหนังพร้อม ๆ กัน 2 เรื่อง อย่าง "Bagman" หนังสยองขวัญที่ตีตลาดปีนี้ได้ยาก กับ "Megalopolis" หนังฟอร์มยักษ์ของนักสร้างหนังชั้นครู ที่ค่ายซื้อสิทธิ์มาจัดจำหน่ายให้ ที่ทำเงินเปิดตัวแค่เพียง 4 ล้านเหรียญเท่านั้น
ดังนั้นจึงทำให้ไลออนส์เกตยังคงเผชิญหน้ากับการเป็นสตูดิโอหนังไร้หนังฮิตอยู่ต่อไปในปี 2024 ทั้งที่เตรียมจะเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ก็ยังไม่พบหนังที่จะมาสร้างรายได้ให้กับพวกเขา หากมองดูล่วงหน้าในอีก 3 เดือนข้างหน้า แทบจะยังไม่ค่อยเห็นอนาคตสักเท่าไหร่นัก เพราะมีแค่เพียง "White Bird: A Wonder Story" หนังดรามาที่เลื่อนฉายข้ามปี ที่อาจจะไม่ได้ฮิตตามรอยแบบที่ Wonder เคยทำไว้ได้เมื่อปลายปีก่อน
แต่ก็จะมีหนังคริสต์มาส "The Best Christmas Pageant Ever" ที่เข้าฉายต้อนรับเทศกาล ที่หนังเรื่องนี้ดูทรงแล้วก็อาจจะเป็นความหวัง ในแง่การยืนโรงฉายได้ในระยะยาวไปจนถึงช่วงสิ้นปีนี้ ถ้าหากว่าฟีดแบกของหนังออกมาใช้ได้ ขณะเดียวกัน "The Strangers: Chapter 2" ที่ทางค่ายเล็งเอาไว้จะฉายปลายปีนี้ ก็ยังไม่สรุปว่าจะส่งฉายภาคต่อภายในปีนี้เลยหรือไม่
นับว่าเป็นปีที่ค่อนข้างย่ำแย่ของค่ายหนังแห่งนี้ทีเดียว บทสรุปประจำปีของสตูดิโออาจจะไม่สวยหรูมากนักในปีนี้ แต่อย่างน้อย ๆ ก็ยังมีความหวังที่ยิ่งใหญ่ในปีถัดไป เพราะว่าในปี 2025 ดูเหมือนว่าไลออนส์เกตน่าจะกลับมาเรืองรองได้อีกครั้ง อย่างน้อย ๆ สถานการณ์ก็น่าจะดีกว่าปีนี้ เพราะมีทั้ง "Ballerina" ภาคแยกของ John Wick, "Michael" หนังตำนานราชาเพลงป๊อป ไมเคิล แจ็คสัน, "Den of Thieves 2: Pantera" ภาคต่อของหนังแอคชันยี่ห้อเจอราร์ด บัตเลอร์ รวมทั้งยังมีการกลับมาสานต่อภาคใหม่ของ Saw และภาคใหม่ของหนังอาชญากล Now You See Me คิดว่าปีหน้าค่อยได้แก้มือใหม่อีกที
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa