ในฐานะแฟนหนัง Star Wars ตัวยงแบบไม่พลาดเลยสักภาค มานั่งคิดนอนคิดว่าการที่ Star Wars ไม่ได้ออกฉายเรียงลำดับตามเนื้อเรื่อง (เริ่มที่ Episode IV แทนที่จะเป็น Episode I) นั้นเกิดจากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างสรรค์และกลยุทธ์ของผู้กำกับ จอร์จ ลูคัส (George Lucas) ที่อ้อมคิดก็ได้ก็ประมาณนี้ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! 1. ข้อจำกัดทางเทคโนโลยี จอร์จ ลูคัสมีไอเดียสำหรับ Star Wars มาตั้งแต่ปี 1970 แต่เนื้อหาใน Episode I-III มีฉากสงครามอวกาศและเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย ซึ่งในยุคนั้นไม่สามารถถ่ายทำด้วยเทคนิคที่มีอยู่ได้ ลูคัสจึงเลือกเล่าเรื่อง Episode IV-VI ก่อน เพราะสามารถถ่ายทอดออกมาได้ด้วยทรัพยากรและเทคโนโลยีในยุค 1970-1980 2. เนื้อเรื่องที่เรียบง่ายแต่ดึงดูดใจ เนื้อเรื่องของ Episode IV (A New Hope) เป็นการเล่าเรื่องแบบ "ฮีโร่เดินทาง" (Hero's Journey) ซึ่งเป็นพล็อตที่ง่ายต่อการเข้าถึง โดยลูคัสตั้งใจให้เรื่องนี้เป็นเหมือน "จุดเริ่มต้น" ของผู้ชมที่ไม่เคยรู้จัก Star Wars มาก่อน เพื่อสร้างฐานแฟนคลับและความนิยมก่อนขยายจักรวาลในภายหลัง 3. ความเสี่ยงทางการเงิน ในช่วงที่สร้าง Episode IV (1977) จอร์จ ลูคัสยังไม่มีชื่อเสียงมากนัก และสตูดิโอก็ไม่ได้มั่นใจว่า Star Wars จะประสบความสำเร็จ หากลูคัสเริ่มเล่าจาก Episode I ซึ่งเต็มไปด้วยเนื้อหาการเมืองและความซับซ้อน อาจทำให้ผู้ชมสับสนและลดความสนใจในตัวเรื่อง ดังนั้นเขาจึงเลือกเนื้อหาที่มีตัวละครชัดเจนและเนื้อเรื่องน่าติดตามมากกว่า 4. การวางแผนในอนาคต ลูคัสตั้งใจให้ Star Wars เป็นเรื่องราวมหากาพย์ที่เล่าต่อเนื่องกันหลายภาค การเริ่มต้นด้วย Episode IV ทำให้เขามีพื้นที่สร้างความลึกให้ตัวละครและเนื้อเรื่องในภาคหลัง ๆ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ขยายจักรวาลด้วยพรีเควล (Episode I-III) และภาคต่อในอนาคต 5. กลยุทธ์สร้างความสงสัย การเริ่มเล่าจาก Episode IV ทำให้ผู้ชมเกิดคำถามและความสนใจในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เช่น "ทำไมอานาคิน สกายวอล์คเกอร์ถึงกลายเป็นดาร์ธ เวเดอร์?" หรือ "กำเนิดจักรวรรดิที่ชั่วร้ายมาได้อย่างไร?" ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ผู้ชมติดตามและรอคอยพรีเควลในภายหลัง ความสำเร็จของการเล่าแบบ "ไม่เรียงลำดับ" กลยุทธ์นี้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Star Wars ประสบความสำเร็จในเชิงการเล่าเรื่องและการตลาด นอกจากนี้ยังสร้างความลึกลับและเพิ่มความลึกให้กับจักรวาล Star Wars อีกด้วย การไม่ฉายตามลำดับเป็นเรื่องที่เสี่ยง แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะ Star Wars ได้กลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์! มุมมองของอ้อมเอง อ้อมคิดว่าถ้าลูคัสเริ่มเล่าเรื่องจาก Episode I มันอาจไม่ดังเท่านี้ เพราะเนื้อหาเต็มไปด้วยเรื่องการเมือง การก่อร่างสร้างจักรวรรดิ และดราม่าหนัก ๆ ซึ่งอาจย่อยยากสำหรับผู้ชมในยุคนั้น การเล่าผ่าน Episode IV-VI ก่อนเหมือนเป็นการ "หย่อนเบ็ด" ให้คนดูติดกับความมันส์ก่อน จากนั้นค่อย ๆ เปิดเผยความลึกของเรื่องใน Episode I-III อีกอย่างที่อ้อมชอบคือ ความลึกลับที่ถูกสร้างขึ้นมา เช่น "ดาร์ธ เวเดอร์มีอดีตยังไง?" หรือ "อานาคินกลายเป็นอะไรแบบนี้ได้ยังไง?" ทำให้แฟน ๆ อยากรอชมพรีเควลเพื่อค้นหาคำตอบ และในที่สุดก็ติดตามแฟรนไชส์นี้ไปยาว ๆ แบบไม่มีทางเลิก! สรุปแล้ว อ้อมมองว่าการเล่าเรื่องแบบ "ไม่เรียงลำดับ" ของ Star Wars คือกลยุทธ์ที่เจ๋งมาก มันทำให้หนังมีความพิเศษและต่างจากหนังเรื่องอื่นในยุคนั้น ไม่แปลกใจเลยที่จักรวาลนี้กลายเป็นตำนานระดับโลก! อ้างอิง ภาพจาก Facebook Star Wars / ภาพที่ #1 / ภาพที่ #2 / ภาพที่ #3 / ภาพที่ #4 / ภาพที่ #5 / ภาพหน้าปก เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !