Series ReviewRebooting (Brush Up Life) ชีวิตใหม่ (2023)ชีวิตและมิตรภาพถูกเล่าอย่างฉลาดประมาณนั่งฟังเพื่อนหญิงคุยกันที่อาจจุกจิกน่ารำคาญแต่ก็เพลินจนเลิกดูไม่ได้สิ่งที่ผู้เขียนชอบมากในหนังหรือซีรีส์ญี่ปุ่นคือการเล่าเรื่องที่ฉลาดที่อาจเหมือนไม่ใช่ลูกเล่นที่หวือหวาเรียบๆง่ายๆแต่เล่าได้ โดยเฉพาะเรื่องเหนือจินตนาการเหนือธรรมชาติที่ญี่ปุ่นมักจะหาวิธีมาอธิบายได้อย่างธรรมดาจนน่าทึ่งจนบางครั้งเมื่อดูแล้วก็เผลอคิดไปว่าเรื่องที่เห็นในจอเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ต่อมาคือการเล่าเรื่องที่ไม่บีบดราม่าที่วัยรุ่นข้างบ้านเรียกว่าขยี้ทำให้เรื่องที่เล่าออกมาดูจริงเหมือนนั่งดูชีวิตคนข้างบ้าน และเมื่อไม่นานมานี้เกาหลีได้ส่งซีรีส์ชั้นดีที่เกี่ยวกับการกลับมาจากวามตายเพื่อแก้ไขชีวิตและข้อผิดพลาดที่เสนอตัวมาในความเร้าใจระทึกใจและเข้มข้นใน Death's Game ที่แฝงความหมายของการมีชีวิตและมิติของการมีชีวิตในหลากหลายมุม แต่ก่อนหน้านั้นแต่เพิ่งมามีให้ดูในบ้านเราทางญี่ปุ่นก็เล่นคอนเซปต์นี้มาแล้วแต่เลือกนำเสนอในทางเบาๆดูสบายแต่ยังตั้งประเด็นที่ความหมายของการมีชีวิตเช่นกัน แล้วด้วยความที่เป็นญี่ปุ่นการเล่าเรื่องแบบญี่ปุ่นที่อาจไม่เร้าใจเท่าเกาหลีแต่กลับดูได้เรื่อยๆแต่ก็ดูจริงกว่าไม่เหมือนกับว่านี่คือเรื่องที่เหนือจริงหรือเรื่องในจินตนาการที่อาจเรียกได้ว่าดีไปอีกแบบอาซามิ คนโดะ (ซากุระ อันโดะ) หญิงสาวชนชั้นกลางทั่วไปทำงานที่ศาลาว่าการเมืองที่แต่ละวันต้องเจอกับคนกับงานจนต้องมานั่งเม้ามอยกันกับเพื่อนร่วมงานเพื่อระบาย อาซามิมีเพื่อนสนิทตัวติดกันสองคนคือนัตสึกิ (คาโฮ) กับมิโฮ (ฮารุกะ คินามิ) ที่มักจะนัดรวมตัวกันตามประสาเพื่อนเก่าตั้งแต่สมัยประถมที่ยังรักกัน จนมาวันหนึ่งอาซามิถูกรถชนเสียชีวิตแล้วเธอต้องพบกับพนักงานต้อนรับในโลกหลังความตายเพื่อพบว่าหลังความตายมีทางเลือกสองทาง หนึ่งคือการไปเกิดใหม่ที่อาซามิจะต้องไปเกิดเป็นตัวกินมดยักษ์ซึ่งเธอรับไม่ได้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมันดันขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตที่ผ่านมาของเธอ แต่ทางเลือกที่สองคือการเลือกกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งแต่ยังมีความทรงจำเดิมที่เรียกว่า Reboot เพื่อที่จะใช้ชีวิตให้ดีขึ้นและได้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์ อาซามิจึงเลือกทางนี้เพื่อมาสะสมแต้มบุญในความคิดของเธอแล้วเธอก็ทำแบบนั้นโดยที่พยายามแก้ไขอดีตที่ผิดพลาดของคนรอบข้างแต่เมื่อตายอีกครั้งก็ยังไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์อยู่ดีเธอจึงเลือก Reboot อีกหลายครั้งแต่ทำยังไงจะได้เกิดใหม่เป็นมนุษย์กันนะฉลาดเล่าโดยแบ่งเป็นช่วงชีวิตที่เหมือนเล่าเรื่องเดียวซ้ำหลายครั้งแต่ต่างกันที่รายละเอียดทำให้กลายเป็นความพลิกผัน โดยปกติแล้วซีรีส์ญี่ปุ่นประมาณนี้มักจะเล่าจบเป็นตอนๆในต่างสถานการณ์แต่เรื่องนี้กลับเลือกเล่าเป็นช่วงการใช้ชีวิตกับการ Reboot ชีวิตในแต่ละรอบที่อาจกินเวลาหลายตอนในหนึ่งชีวิต และสิ่งที่น่าทึ่งคือการเล่าเรื่องชีวิตของคนคนเดียวตั้งแต่เริ่มต้นคือเริ่มตั้งแต่เกิดจนตายอีกครั้งหลายๆครั้งที่เหมือนเป็นการเล่าเรื่องเดียวซ้ำๆ กระนั้นความฉลาดเล่าคือการให้ตัวละครมีความทรงจำเดิมที่สะสมขึ้นเรื่อยๆตามรอบของการ Reboot ที่จะต้องเจอเหตุการณ์เดียวกันในชีวิตที่ต่างกันเพราะเลือกเปลี่ยนทางชีวิต และนั่นนำมาซึ่งความพลิกผันที่อาจเรียกได้ว่าหักมุมเล็กๆไปเรื่อยๆตลอดทางเพราะต่อให้เล่าเรื่องเดียวกันเหตุการณ์เดียวกันแต่ผลของมันกลับต่างกันไปทำให้ออกมาสุก ต่อมาเมื่อวางเป้าหมายคือการกลับมาเกิดใหม่เป็นมนุษย์สิ่งที่ต้องติดตามและลุ้นว่าอาซามิจะตายเมื่อไหร่แบบไหนและเธอจะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษยหรือไม่และที่ผ่านมาเธอพลาดตรงไหนก่อนที่ท้ายสุดจะเฉลยเองฉลาดเล่นด้วยการเดินเรื่องประมาณการนั่งฟังเพื่อสาวเม้ามอยหอยสังข์ให้ฟังทำให้มีอารมณ์ขันที่จัดจ้าน ต่อมาที่ทำให้เรื่องออกมาดูเพลินคือการเลือกเดินเรื่องด้วยความจุกจิกเป็นซีรีส์พลังหญิงที่อาจเป็นเรื่องง่ายๆที่ผู้ชายไม่รู้ เพราะเรื่องเดินไปข้างหน้าด้วยผู้หญิงเหมือนเป็นการ์ตูนสำหรับผู้หญิงที่เล่าด้วยรายละเอียดผ่านบทสนทนาที่จุ๊กจิ๊กประมาณนั่งฟังกลุ่มเพื่อนหญิงนั่งเม้ามอยนินทาคนนั้นคนนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ดูเพลินเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงคือความจัดจ้านของอารมณ์ขันที่มาพร้อมกับพฤติกรรมของผู้หญิงเมื่อรวมกลุ่มกันที่คงไม่ต่างจากผู้ชายสุมหัวกัน ที่สำคัญอารมณ์ขันที่จัดจ้านไม่ได้มาแบบเร่งเร้ารุนแรงแต่มาพร้อมตลกหน้าตายแบบไม่รู้ตัวว่าทำอะไรหรือเจอกับอะไรอยู่และจังหวะนรกที่มาแบบไม่รู้ตัว ทำให้ต่อให้เหมือนนั่งดูผู้หญิงเม้ากันแต่สนุกเพราะความขบขันของพวกเธอทำให้มีทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ตลอดทาง กระนั้นในเรื่องของดราม่าที่ยังไงมันต้องมีแต่เลือกเสนอมาแค่กระเทาะผิวด้วยความเป็นญี่ปุ่นจะไม่ขยี้ต่อให้มีช่องเพราะแก่นของเรื่องเป็นอีกอย่างแต่แค่นี้ก็ทำให้เรื่องนี้สนุกเกินคาดความหมายของการมีชีวิตและมิตรภาพถูกเล่าผ่านการตั้งคำถามว่าถ้ามีโอกาสเราจะกลับไปแก้ไขชีวิตในส่วนไหน เพราะแก่นของเรื่องคือเรื่องของโอกาสที่จะไปแก้ไขชีวิตของตัวเองหรือแก้ไขเพื่อคนอื่นการกระทำใดหลังจาก Reboot จะมีผลกระทบกลับมาแต่นั่นเป็นผลกระทบต่อใครมากกว่า แล้วตั้งคำถามว่าถ้าเราสามารถกลับมาเริ่มต้นใหม่อย่างในเรื่องเราจะกลับไปแก้ไขสิ่งใดในช่วงเวลาไหนในชีวิตและแก้มันเพื่อใครเพื่อเราเองหรือเพื่อคนอื่น ทั้งนี้ตลอดเวลาตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องนี้อบอวลไปด้วยมิตรภาพที่แน่นแฟ้นที่สามารถบอกได้ว่าเพื่อนแท้อาจมีได้แค่ไม่กี่คนแต่เพื่อนแท้มีมิติเชิงลึกที่บอกได้ว่าปริมาณไม่สำคัญเท่ากับคุณภาพของความเป็นเพื่อนที่สามารถเฒ่าชราไปด้วยกันได้ ทั้งยังเล่าบนพื้นฐานของบริบททางสังคมญี่ปุ่นปัจจุบันที่คนหนุ่มสาวเริ่มครองตัวเป็นโสดมากขึ้นผ่านก๊วนเพื่อนสาวที่ต่อให้ไม่แต่งงานแต่การมีเพื่อนแท้ก็สามารถแทนได้ที่เป็นความแหลมคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้เรื่องเหนือจริงเหมือนเป็นเรื่องจริงเพราะเรื่องที่เล่าเป็นเรื่องพื้นฐานในชีวิตที่ทุกคนจะตั้งคำถามชีวิตแบบนี้ เพราะนี่คือซีรีส์ที่เป็นละครฉายทางโทรทัศน์การแสดงจึงมาตามมาตรฐานละครโทรทัศน์ที่ดีพอที่จะเป็นตัวละครนั้นๆ อาจเพราะบทไม่เลือกทางเข้มข้นแต่เลือกจุกจิกก็มีส่วนที่ทำให้การแสดงออกมาจุกจิกตามไปด้วยเหตุผลที่ว่านี่คือเรื่องของกลุ่มเพื่อนหญิงที่เป็นสาวโสดสนิท และด้วยความที่เป็นงานระดับซีรีส์ฉายทางโทรทัศน์การแสดงก็มาในระดับละครโทรทัศน์ที่มีบ้างที่ขาดมีบ้างที่เกินแต่ที่ต้องชื่นชมคือต่อให้เป็นอย่างนั้นก็เห็นความเป็นตัวละครนั้นๆในตัวนักแสดงโดยเฉพาะซากุระ อันโดะที่เป็นตัวหลักในการเดินเรื่อง น่าเสียดายที่งานจากญี่ปุ่นมักจะเป็นแบบนี้คือถ้าเลือกเล่าทางหนึ่งจะไม่ไขว้เขวไปอีกหลายทางนั่นหมายความว่าเรื่องนี้เลือกไปทางความหมายของการมีชีวิตและมิตรภาพทำให้มิติตัวละครในด้านอื่นไม่มีความลึก ทำให้การแสดงพาคนดูไปนั่งสนทนาด้วยไม่ได้เข้าใกล้ที่สุดคือการนั่งโต๊ะข้างๆฟังกลุ่มเพื่อนสาวเม้ากันหรือนั่งฟังอาซามิเล่าเรื่องให้ฟังไม่ใช่การเข้าไปมีส่วนร่วม แต่ถ้าเข้าใจจะเข้าใจว่าการแสดงที่ดูธรรมดาก็เพราะตัวละครเป็นคนธรรมดาที่สามารถเห็นได้ทั่วไปก็คือดีพอแล้วเพราะดูจริงในมุมผู้ชายอาจมีบ้างที่น่ารำคาญประมาณนั่งฟังเพื่อนหญิงคุยเรื่องจุกจิกแต่ก็เป็นความบันเทิงที่ประหลาดเพราะอาจรำคาญแต่เลิกดูไม่ได้ ออกตัวไว้ก่อนตรงนี้คือเรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับพวกผู้ชายที่ความอดทนต่ำหรือไม่เข้าใจผู้หญิง เอาง่ายๆคือถ้าทัศนคติของผู้ชายมาในมุมที่เอาตัวเองเป็นใหญ่เอาความคิดแบบผู้ชายเป็นตัวตั้งเรื่องนี้ไม่เหมาะแน่นอน เพราะความบันเทิงหลักคือการนั่งฟังผู้หญิงคุยกันและแน่นอนเมื่อผู้หญิงรวมหัวคุยกันทุกเรื่องก็จะมาในมุมของผู้หญิงที่ผู้ชายจะมีบ้างที่น่ารำคาญซึ่งผู้เขียนก็เป็น แต่เรื่องนี้ก็น่าประหลาดอย่างน่าทึ่งสำหรับผู้เขียนคือต่อให้รำคาญผู้หญิงคุยกันหรืออาจเหมือนทนนั่งฟังเพื่อนผู้หญิงที่ชื่ออาซามิบ่นระบายให้ฟังในเสียงบรรยายแต่จะเลิกดูหรือเทกลางทางก็ไม่ได้ เพราะความอยากรู้อยากเห็นเรื่องของชาวบ้านอาจเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่ผู้ชายก็เป็นทำให้ไม่ว่ายังไงก็ต้องกลับมาดูต่อให้จบจนบทสรุปสุดท้ายที่ดีต่อใจที่ไม่ว่าใครก็อยากมีเพื่อนอย่างที่เห็นในเรื่อง เพราะมิตรภาพคือสิ่งสวยงามความรักที่มีต่อเพื่อนก็เป็นสิ่งสวยงามและมีคุณค่าพอให้เสียสละเพื่อมันดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก,ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Instagram brushuplife_ntv ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/JpRBDYMad8Ephttps://entertainment.trueid.net/detail/NMLQL1LEBRkjhttps://entertainment.trueid.net/detail/8M3kOq90OKJMhttps://entertainment.trueid.net/detail/oPVG6V4lbKdLเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !