สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้มาพบกับ XiaoJay ในบทความแนะนำซีรีส์กันอีกแล้วนะคะ โดยวันนี้ XiaoJay อยากจะมาแนะนำ 3 ซีรีส์แวมไพร์คุณภาพน่าดูจาก Netflix มีทั้งซีรีส์จากทีมผู้สร้างของ Netflix เองและจากทีมผู้สร้างค่ายดังค่ายอื่น ๆ ที่ทาง Netflix นำมาจัดจำหน่าย ให้ผู้อ่านได้ไปติดตามชมกันค่ะ 1. The Originalsซีรีส์เรื่องนี้จะมีความแฟนตาซีหน่อย ๆ สร้างโดย CW และมีผู้นำไปจัดจำหน่ายหลายเจ้าด้วยกันเรื่องนี้เป็นซีรีส์จักรวาลเดียวกันกับ The Vampire Diaries เป็นเรื่องราวของ Niklaus แวมไพร์ลูกผสมมนุษย์หมาป่าหรือเรียกว่า original hybrid เขาเป็นลูกชู้ที่เกิดการผสมข้ามสายพันธ์ุและเขาถูกเลี้ยงดูขึ้นมาในตระกูล แวมไพร์รุ่นแรก เขาถูกผู้เป็นแม่ร่ายคาถาสะกดความเป็น werewolf ไว้ ด้วยเหตุนี้ Niklaus เลยฆ่าแม่ตัวเอง และหนีไปพร้อมกับพี่และน้อง ๆ ผู้เป็นพ่อ (พ่อเลี้ยง) จึงออกตามล่า Niklaus มาตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา Niklaus ปักหลักสร้างอำนาจอยู่ที่เมืองนิวออรีน จนเขาได้พบกับหมาป่าสาว เฮลีย์ ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันจนเฮลีย์เกิดตั้งท้อง hybrid ขึ้นมาอีกคนนึง ครอบครัวพวกเขาจึงถูกตามล่าหมายเอาชีวิตจากแวมไพร์กลุ่มอื่น เรื่องราวของพวกเขาจะจบลงอย่างไรติดตามชมได้ใน Netflixรีวิว: The Originals เป็นซีรีส์ที่ XiaoJay ชอบมากและเป็นเรื่องที่เอามาดูซ้ำบ่อย เรื่องนี้มาแนว ๆ เดียวกะ The Vampire Diaries ถ้าใครชอบแนวนี้รับรองติดอกติดใจแน่ ๆ จะเป็นเรื่องราวของ Vampire รุ่นแรก ๆ เน้นที่สายสัมพันธ์ครอบครัว การแก่งแย่งชิงดี การดำเนินเรื่องค่อนข้างช้า การลำดับเรื่องดีพล็อตและไอเดียแปลกใหม่เนื้อหาชวนติดตาม นักแสดงเหมาะสมกับบทบาททุกคนตัวเอกมาในลุค Bad แต่ค่อย ๆ พัฒนาดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยตัวละครโปรดของ XiaoJay นั้นคือ เอไลจาห์ พี่ชายของ Niklaus นั่นเอง คาแร็คเตอร์ของบทนี้เป็นแวมไพร์เจ้าเสน่ห์ที่แสนอบอุ่นทำให้ XiaoJay ชื่นชอบตัวละครนี้เป็นพิเศษ บรรยากาศและโลเคชั่นเหมาะสม เอฟเฟ็กต์การแต่งหน้าสมจริงมาก ๆ คอหนังคอซีรีส์แวมไพร์ไม่ควรพลาดเลยค่ะเรื่องนี้ 2. Van Helsingเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อภูเขาไฟเยลโล่สโตนประทุเป็นเหตุให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลให้เกิดละอองฝุ่นหนาทึบบดบังแสงอาทิตย์ เหล่าแวมไพร์ที่เคยหลบซ่อนตัวแฝงอยู่ในสังคมร่วมกับพวกมนุษย์ได้ออกมาอาละวาดดูดกินเลือดมนุษย์อย่าบ้าคลั่ง ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อกลายเป็นแวมไพร์แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ความหวังในการรอดชีวิตเริ่มลดลงเรื่อย ๆ เผ่าพันธุ์มนุษย์กำลังจะถูกแทนที่ด้วยเผ่าพันธ์ุที่แข็งแกร่งกว่าและเป็นผู้ล่าที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร 5 ปีให้หลังหญิงสาวนามว่า วาเนสซ่า ได้ตื่นขึ้นในห้องพยาบาลแห่งหนึ่งเธอถูกเฝ้าอารักขาจาก จ่าแอ็กเซล มิลเลอร์ ทหารนาวิกโยธินที่ได้รับคำสั่งให้เฝ้าดูแลเธอให้มีชีวิตรอดปลอดภัย แม้ว่าเมืองทั้งเมืองจะตกอยู่ในมือของพวกแวมไพร์แต่เขาก็ยังคงปกป้องวาเนสซ่ามาโดยตลอด และในที่สุดวาเนสซ่าก็ค้นพบวิธีรักษาพวกผีดิบ เธอพบว่าเธอไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไปเลือดของเธอเปลี่ยนพวกมันให้กลับคืนสู่ความเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังมีพละกำลังแข็งแกร่งและร่างกายของเธอยังฟื้นตัวได้ไวจากอาการบาดเจ็บอีกด้วย วาเนสซ่าพยายามออกตามหาลูกสาวของเธอที่หายไปจนเธอได้มาพบกับ ดีมีทรี หัวหน้าแวมไพร์ที่มีชีวิตมาแล้วหลายร้อยปี มันบอกกับเธอว่าที่จริงแล้ววาเนสซ่าคือสายเลือดของ อับราฮัม แวนเฮลซิ่ง นักล่าแวมไพร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผู้ที่เคยต่อสู้กับเคาน์แดร็กคูล่ามาแล้วในอดีต ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจออกเดินทางค้นหาความลับของตระกูลที่เธอไม่เคยล่วงรู้มาก่อน การเดินทางของเธอครั้งนี้จะจบลงอย่างไร และเธอจะสามารถช่วยมนุษย์ให้เหลือรอดจากโลกที่ถูกพวกแวมไพร์ปกครองได้หรือไม่ สามารถติดตามชมได้ที่ Netflixรีวิว: การดำเนินเรื่องและการลำดับเรื่องราวพอใช้จะมีอืดอาดบ้างเล็กน้อย ใส่ประเด็นดราม่าเข้ามาบ่อยและค่อนข้างเยอะเกินไปในช่วงซีซั่นแรก ๆ พล็อตเรื่องน่าสนใจแต่ปูพื้นตัวละครสมทบที่ตายไปน้อยเลยทำให้ไม่อินกับความสูญเสียสักเท่าไหร่ ปูพื้นตัวละครวาเนสซ่าได้น่าสนใจชวนให้ติดตาม เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อนเข้าใจง่าย ในซีซั่นหลัง ๆ สนุกมากเนื้อเรื่องเริ่มซับซ้อนเข้มข้นชวนติดตามและมีการปล่อยตัวละครใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ อาทิ สการ์เล็ต บทน้องสาวของวาเนสซ่าซึ่งเป็นตัวละครโปรดที่สุดของ XiaoJay และยังได้รับความนิยมจากแฟนซีรีส์เยอะมาก ตัวละครสมทบตัวอื่น ๆ ก็บทดีเกือบทุกคน มีฉากแอคชั่นเจ๋ง ๆ มาให้ได้ชมกันมากขึ้น ฉากจบแต่ละซีซั่นคือค้างคามากทำให้คนดูกระหายที่จะอยากรู้อยากติดตามซีซั่นต่อไปเรื่อย ๆ 3. V Warsเป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนของ Jonathan Maberry และ Alan Robinson เล่าเรื่องราวของด็อกเตอร์ Luther Swann รับบทโดย Ian Somerhalder ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสและโรคติดต่อ ซึ่งเขาต้องเดินทางร่วมกับเพื่อนสนิท Michael Fayne รับบทโดย Adrian Holmes ไปทำภารกิจที่อาร์ติกอย่างกระทันหัน แต่เมื่อพวกเขากลับมายังวอชิงตันก็ถูกกักตัวเนื่องจากพวกเขาอาจได้รับเชื้อไวรัสบางอย่างที่ทำให้คนกลายเป็นแวมไพร์ โชคร้ายที่ไมเคิลได้รับเชื้อและเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ และการระบาดระลอกใหญ่ของเชื้อร้ายได้เริ่มต้นขึ้นพร้อม ๆ กับมิตรภาพระหว่างเพื่อนแท้ของพวกเขาทั้งสองกำลังจะจบลง เรื่องราวจะสนุกตื่นเต้น น่าลุ้นระทึกขนาดไหน สามารถติดตามได้ใน Netflixรีวิว: เปิดหัวซีรีส์มาดี การดำเนินเรื่องไปเร็วเข้าใจง่าย เก็บรายละเอียดค่อนข้างดี แจกแจงเหตุการณ์ต้นตอการเกิดแวมไพร์ให้เข้าใจและสมเหตุสมผลดี ฉากแอคชั่นช่วงแรกทำได้น่าสนใจ โหด ดิบ เถื่อน มันส์ เลือดสาด มีการไล่ล่าตามหาฆาตกรต่อเนื่องช่วงนี้สนุกและลุ้นมากค่ะ แต่ฉากท้าย ๆ ดันเอาเรื่องการเมืองเข้ามาผนวกด้วย XiaoJay รู้สึกว่ามันยังไม่โอเคควรเก็บไปทำซีซั่นอื่น ถ้าทำฉากแอคชั่นไล่ล่าในช่วงหลังจะสนุกกว่านี้ค่ะ นักแสดงแสดงดีทุกคนค่ะเหมาะกับบทบาท ส่วนของโลเคชั่นและบรรยาสมจริงและเหมาะสมค่ะ XiaoJay คิดว่าจำนวนตอนน้อยไปหน่อย ยังดูไม่สะใจควรจะทำออกมาให้มากกว่านี้ โดยรวมหากไม่ได้ติดเรื่องการเมืองก็เป็นซีรีส์ที่สนุกอีกเรื่องค่ะ ท่านใดที่อ่านบทความของ XiaoJay แล้วสนใจอยากจะรับชมสามารถรับชมได้ที่ Netflix ผ่านกล่อง trueID TV ได้แล้ววันนี้ True ID จัดให้คุณสามารถดูหนังและซีรีส์พร้อมคอนเทนต์เนื้อหาสุดพิเศษแบบจุใจ แถมดู Netflix จอใหญ่แบบสะดวกสบาย สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ True ID TV ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความของ XiaoJay นะคะเอาไว้เจอกันบทความหน้า สวัสดีค่ะ ขอบคุณภาพประกอบปกจาก Netflix และ AMC, ขอบคุณภาพประกอบทั้งหมดจาก Netflix