เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่แฟนๆตั้งตารอไม่น้อยกับ Resident Evil: Welcome to Raccoon City ที่เพิ่งฉายไปไม่กี่วันที่ผ่านมา และต้องบอกว่าเสียงวิจารณ์จากแฟนๆนั้นไปในทิศทางลบอย่างเห็นได้ชัดแม้แต่คะแนนจากเว็บมะเขือเน่าอย่าง rotten tomatoes ก็ให้หนังเรื่องนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำอย่างน่าใจหาย และต้องออกตัวก่อนว่าผู้เขียนเองก็ชื่นชอบแฟรนไชส์ของเกม Resident Evil เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงมีความตั้งใจว่าจะไปพิสูจน์กับตาตัวเองในโรงภาพยนตร์เผื่อหนังมันอาจจะไม่ได้แย่มากมายขนาดนั้น พอดูหนังจบต้องเรียนตามตรงว่า เอิ่ม... หนังมันค่อนข้างเละเทะอย่างที่ใครว่าไว้จริงๆ ทั้งการดำเนินเรื่อง ทั้งบทของตัวละครที่มันไปไม่สุดสักทางถึงแม้ผู้กำกับอย่าง โยฮันเนส โรเบิร์ตส์ จะออกตัวไว้ตั้งแต่แรกว่าตัวเองเป็นแฟนเดนตายของ Resident Evil แต่หนังเรื่องนี้กลับทำออกมาครึ่งๆกลางๆไร้เสน่ห์โดยสิ้นเชิงปีที่ออกอากาศ : ค.ศ. 2021ประเภท : ภาพยนตร์แอ็คชั่นสยองขวัญผู้กำกับ : โยฮันเนส โรเบิร์ตส์นักแสดง : คายา สโคเดลาริโอ, อวาน โจเกีย, แฮนนาห์ จอห์น-คาเมน, ร็อบบี้ อเมล, ทอม ฮอปเปอร์, นีล แมคโดโนห์ ช่องทางการรับชม : โรงภาพยนตร์ภาษาและเสียงในการรับชม : EN/TH ระดับความเหมาะสม : อายุ 18+การดำเนินเรื่องหนังเองมีความพยายามเดินตามรอยต้นฉบับวิดีโอเกมอย่าง Resident Evil 2 แบบทุกย่างก้าว ซึ่งจุดนี้ผมเองก็เข้าใจได้เพราะผู้กำกับเองก็ดูมีความพยายามเคารพต้นฉบับอยู่พอสมควรการเล่าถึงเหตุการณ์ในเมืองแร็คคูนซิตี้เมืองที่เป็นต้นตอของเรื่องราวไวรัสทั้งหมด ซึ่งถ้าท่านผู้ชมคนใดที่เป็นแฟนเกม Resident Evil 2 คงจะทราบเนื้อหาตรงนี้เป็นอย่างดีเพราะหนังเองก็ไม่ได้เสริมเติมแต่งเนื้อหาที่ผิดแปลกไปจากต้นฉบับเลย การดำเนินในช่วงต้นกับช่วงกลางทำออกมาโอเคในระดับหนึ่ง "คือจะให้บอกว่าหนังมันเละเทะตั้งแต่เริ่มเรื่องอันนี้ผู้เขียนเองคงดูใจร้ายเกินไปหน่อย" เพราะหนังเองก็มีความพยายามที่จะบิวด์อัพคนดูด้วยบรรยากาศอึมครึม ม่นๆ มีความเป็น Horror ในตัวพอสมควร ตรงจุดนี้ถือว่าทำออกมาไม่เลวเลย ซึ่งถ้าย้อนกลับไปดูคาแรคเตอร์ดั่งเดิมของ resident evil ก็ไม่ได้จัดอยู่ในหมวดแอ็คชั่นแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันมีเพียงแค่หนังเวอร์ชั่น มิลลา โยโววิช เท่านั้นแหละที่เรียกว่าว่าหนังแอ็คชั่นได้เต็มปากแต่เนื้อหาของเรื่องก็ดันออกทะเลไปไกลโขเหมือนกันเนื้อหาพอเลยช่วงกลางเรื่องไปสังเกตได้เลยว่าหนังเองกลับมีช่องโหว่ให้เห็นมากมาย ด้วยความที่ตัวหนังเองต้องการยัดปมประเด็นต่างๆเข้ามามากมายเกินไปจนไม่สามารถโฟกัสประเด็นใดประเด็นหนึ่งได้มากนัก แถมปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือจังหวะการดำเนินเรื่องที่เร็วเกินไปดูรีบ ดูรวบรัดไปหมดในส่วนของฉากแอ็คชั่นนั้นก็ทำออกมาตามมาตรฐานครับไม่ได้หวือหวามากนัก ด้วยความที่หนังมันเดินตามต้นฉบับในการเป็นสาย Horror ก็เลยไม่เน้นหนักตรงแอ็คชั่นสักเท่าไร แต่จุดที่มันค่อนข้างขัดใจนั้นคือซอมบี้บอสหลักของเรื่อง "วิลเลียม เบอร์กิน" ที่เหมือนเจ้าตัวเองมาเป็นเพียงกระสอบทรายของ คริส ,ลีออน เท่านั้นตัวละครต้องบอกว่านักแสดงบางคนนั้นเล่นได้ดี แต่บางคนนี่ไม่ไหวจริงๆ ตัวละครที่เล่นได้ดีและโดดเด่นคงหนีไม่พ้นเธอคนนี้ แคลร์ เรดฟิลด์ ที่รับบทโดยคุณ คายา สโคเดลาริโอ ซึ่งเธอเองก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงผ่านงานใหญ่ทั้ง Maze Runner หรือ Pirates of the Caribbean มาแล้ว ดั่งนั้นงานแสดงสำหรับ Resident Evil จึงดูเป็นงานที่ไม่ยากเท่าไรการถ่ายทอดคาแรคเตอร์บู๊ๆลุยๆตามสไตล์ แคลร์ เรดฟิลด์ ของนักแสดงนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลย สามารถพาคนดูอินไปกับเธอได้ไม่ยากส่วนนักแสดงที่เหลือนี้ต้องยอมรับตามตรงว่าแทบไม่ค่อยอินกับพวกเขาเลย "คือไม่ใช่จะบอกว่านักแสดงเล่นไม่ดีนะ" แต่คือบทมันไม่ส่งให้นักแสดงจริงๆ ยิ่งตัวละครอย่าง ลีออน ที่แสดงโดยคุณ อวาน โจเกีย บทพี่แกแทบจะพังไม่เป็นท่าเลย จากคาแรคเตอร์ของลีออนที่ดูเป็นตำรวจน้องใหม่ไฟแรง พอมาอยู่ในหนังเรื่องนี้กลับกลายเป็นลีออนที่ดูเฉื่อยชา ดูเนือยไปหมดส่วนตัวละครอื่นๆอย่าง จิล วาเลนไทน์ คริส เรดฟิลด์ หรือ อัลเบิร์ต เวสเกอร์ ก็ไม่ได้โดดเด่นเท่าที่ควร เพราะด้วยความที่แอร์ไทม์ตัวละครเหล่านี้มีไม่มากนักบทต่างๆมันไปกองที่ แคลร์ กับ ลีออน ซะเป็นส่วนใหญ่ มันเลยเป็นจุดที่ค่อนข้างน่าเสียดายเพราะอุตส่าห์ได้ตัวละครขวัญใจแฟนคลับมาลงจอทั้งทีสรุปโดยรวมResident Evil ฉบับ โยฮันเนส โรเบิร์ตส์ เรื่องนี้ มันก็ไม่ได้แย่จนพังพินาศอะไรขนาดนั้น แต่มันก็ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีสมกับการตั้งตารอเหมือนกัน "สำหรับบรรดาแฟนๆ Resident Evil เองอาจจะมองไปทางค่อนข้างแย่ด้วยซ้ำ" เหมือนหนังเองมาขายแค่บรรยากาศกับซาวด์ประกอบฉากเพียงอย่างเดียว พอเป็นส่วนของการดำเนินเรื่องกับบทตัวละครต้องยอมรับว่าสอบตกแบบชัดเจน จนบางทีผู้เขียนเองก็แอบสงสารนักแสดงเหมือนกันที่โดนกระแสวิจารณ์ค่อนข้างแรงไม่น้อยจากบทป่วยๆของหนัง และยิ่งนักแสดงอย่างคุณ อวาน โจเกีย ที่โดนแฟนหนังตามด่าจนเป็นหนึ่งในสาเหตุให้พี่แกต้องปิดไอจีหนี ดูแล้วรู้สึกสงสารนักแสดงไม่น้อยเลย สุดท้ายเราคงต้องมาลุ้นกันละครับว่า Resident Evil: Welcome to Raccoon City เรื่องนี้จะได้ไปต่อในภาคต่อไปไหมเพราะตอนจบหนังเองก็ทิ้งปมเอาไว้ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว แต่ถ้าสมมุติรายได้ที่ออกมามันถดถอยเหมือนคำวิจารณ์แล้วละก็ ดูท่าว่าคงไปต่อได้ยากจริงๆhttps://youtu.be/ah3omKiCDhg รูปภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก : Robbie Amell | ภาพประกอบที่ 1 : IGN | ภาพประกอบที่ 2 : Resident Evil | ภาพประกอบที่ 3 : Resident Evil | ภาพประกอบที่ 4 : Decider | ภาพประกอบที่ 5 : Screen Rant | ภาพประกอบที่ 6 : Resident Evil | วิดีโอประกอบ : Sony Pictures Thailandบทความแนะนำจากผู้เขียนรีวิว The Silent Sea ทะเลสงัด (แบบไม่สปอยล์)The Wasteland หนีเอาตัวรอดจากปีศาจที่เกิดจากความกลัวThe Lost Daughter ภาพยนตร์ดราม่าส่งท้ายปีที่เล่าถึงความเป็นแม่ได้สะเทือนอารมณ์รีวิว Archive 81 วิดีโอเทปลึกลับกับไทม์ไลน์เวลาประหลาด จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !