ภาพจาก disney.co.thภาพยนตร์ Animation เรื่อง Onward เป็นผลงานของ Walt Disney Pictures และ Pixar Animation Studio โดยได้ “Dan Scanlon” จาก “Monsters University” มาเป็นผู้กำกับ พร้อมกับ “Tom Holland” และ “Chris Patt” มาพากย์เสียงตัวละครหลักทั้งสองตัวของ Animation เรื่องนี้ด้วยOnward เป็นดินแดนในโลกแห่งจินตนาการที่เป็นที่อาศัยของชาวเอลฟ์ โทรลล์ และเทวดา รวมไปถึงสัตว์ในเทพนิยายต่าง ๆ ซึ่งในอดีตกาลเป็นโลกในยุคที่มีการใช้เวทมนตร์ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปเวทมนตร์ก็ถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี ประชากรในเมืองก็ต่างใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ในยุคปัจจุบัน เนื้อเรื่องดำเนินด้วยตัวละครหลัก 2 คือ “เอียน” และ “บาร์ลีย์” เอลฟ์สองพี่น้อง ที่ได้รับของขวัญจากแม่ในวันเกิดครบรอบ 16 ปีของเอียนผู้เป็นน้องชาย ซึ่งของขวัญที่ได้รับก็คือ “ไม้เท้าพ่อมด” โดยพ่อที่ล่วงลับไปแล้วได้มอบไว้ให้กับแม่และสั่งเสียไว้ว่าเมื่อลูกทั้งสองอายุครบ 16 ปีให้นำของสิ่งนี้ไปให้ ทั้งคู่ได้พบกระดาษแผ่นหนึ่งที่มาพร้อมกับไม้เท้าซึ่งเหมือนเป็นมนต์วิเศษที่จะสามารถทำให้พ่อของพวกเขาฟื้นคืนชีพได้เป็นเวลา 1 วันเต็ม แต่ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นเพราะเมื่อร่ายมนต์ไปแล้ว พ่อของพวกเขากลับโผล่มาแค่ครึ่งท่อนล่างเท่านั้น ดังนั้น “เอียน” และ “บาร์ลีย์” จึงต้องออกไปผจญภัยเพื่อเสาะหาวิธีในการทำให้พ่อของพวกเขาฟื้นคืนชีพมาได้แบบเต็มตัวภาพจาก disney.co.thประเด็นที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ก็คือการที่นำตัวละครต่าง ๆ ที่เป็นสัตว์ในจินตนาการ เช่น เอลฟ์ โทรลล์ หรือพวกสัตว์ครึ่งคนอย่างนางเงือกและเซนทอร์ เป็นประชาชนทั่วไปแทนที่จะเป็นคน และสัตว์เลี้ยงที่ควรจะเป็นสุนัขหรือแมวก็กลับมาใช้เป็นมังกรหรือยูนิคอร์นแทน รวมไปถึงการที่จะมีเวทมนตร์ในเนื้อเรื่องก็เป็นการทำให้หนังมีมิติของความแฟนตาซีและน่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้นไปอีกภาพจาก disney.co.thภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ทำเป็นในลักษณะที่ว่าให้ทั้งผู้ใหญ่และเด็กดูได้แบบไม่มีเบื่อ ด้วยการใส่มุกตลกเข้ามาตลอดการดำเนินเนื้อเรื่อง และการดำเนินเนื้อเรื่องหลักที่หนังเรื่องนี้อยากจะเน้นก็คือเรื่องความรักระหว่างครอบครัว พี่น้องและมิตรภาพ ในช่วงท้ายของเนื้อเรื่องก็พยายามที่จะทำให้คนดูรู้สึกซึ้ง แต่ด้วยความที่มีการใส่มุกตลกเข้ามาโดยตลอดจึงอาจทำให้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งกินใจนั้นอาจจะน้อยไปซักหน่อย จึงทำให้คนดูรู้สึกเพียงแค่น้ำตาซึม ๆ ยังไม่ถึงกับบ่อน้ำตาแตกนั่นเองภาพจาก movie.trueid.netโดยรวมของหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าทำได้ดี ทั้งภาพที่สวยงามเรียกว่าไม่มีที่ติ เสียงพากย์ก็พากย์ได้เหมือนเป็นเสียงของตัวละครพูดออกมาจริง ๆ ทำให้รู้สึกไม่ติดขัดเลย การใส่มุกตลกเข้ามาตลอดทั้งเรื่องทำให้คนดูรู้สึกคลายเครียดและสนุกไปกับหนัง เรียกได้ว่าไม่รู้สึกเบื่อเลย อีกทั้งจินตนาการที่ใส่มาอย่างแน่นเอี๊ยดในหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าทำได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการสื่อสารในด้านความรักของครอบครัวก็ทำได้ดี แต่ติดอยู่เพียงแค่จุดที่จะทำให้ซึ้งนั้นยังไม่ถึงใจเท่าที่ควร ดังนั้นคะแนนสำหรับหนังเรื่องนี้จึงให้ไว้ที่ 9 เต็ม 10 ซึ่งคะแนนระดับนี้ก็เรียกได้ว่าไม่ไปดูไม่ได้เลยทีเดียว