นักวิเคราะห์ชี้สาเหตุหนัง "Birds of Prey" เปิดตัวรายได้ไม่ปัง (แถมยังเสี่ยงเจ๊ง)
ข่าวสารวงการหนัง Birds of Prey
นับว่าเป็นสถานการณ์ที่ทำให้สตูดิโอยักษ์ใหญ่อย่าง "วอร์เนอร์ บราเธอร์ส" ต้องนั่งกุมขมับกันเลยทีเดียว หลังจากที่ "Birds of Prey" หนังทีมนกผู้ล่าของพวกเขา ทำรายได้เปิดตัวได้ต่ำกว่าที่ประเมินการณ์เอาไว้ ทำเงิน 3 วันแรกไปเพียง 33 ล้านเหรียญเท่านั้น ทั้งที่ วอร์เนอร์ ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ที่ 40-50 ล้านในสัปดาห์แรก ส่งผลทำให้หนังเรื่องล่าสุดจากค่ายซีดี ต้องตกอยู่ที่ภาวะที่เสี่ยงจะขาดทุนอยู่ไม่น้อย
ขณะเดียวกัน Birds of Prey ก็เปิดตัวไม่ค่อยดีในตลาดต่างประเทศสักเท่าไหร่ด้วย ทำเงินไปได้เพียง 48 ล้านเหรียญ และไม่สามารถหวังโกยเงินจากตลาดจีนได้เพราะสถานการณ์ไวรัสโคโรนายังไม่คลี่คลาย ทำให้เว็บไซต์ Forbes ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ทำไมหนังแอคชั่นฮีโร่ที่ได้คำวิจารณ์ค่อนข้างดี แต่กลับทำเงินบนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกได้ไม่ตามเป้า
• ปัญหาเกิดขึ้นเพราะกำหนดวันเข้าฉาย?
อันที่จริง วอร์เนอร์ฯ ก็มักจะวางคิวฉายหนังตัวเองในช่วงต้นปีกุมภาพันธ์มาติดต่อกันหลายปีแล้ว และก็เปิดตัวได้ประสบความสำเร็จเสียด้วย เห็นได้จากหนังตระกูล "The LEGO Movie" อีกทั้งเลือกเข้าฉายสัปดาห์นี้เพราะในสัปดาห์ต่อไปจะตรงกับวันหยุดยาว (President Day) ที่หวังจะให้วันหยุดช่วงกระตุ้นรายได้ไม่ให้ตกลงไปมาก แต่ดูเหมือนว่าทฤษฎีนี้จะไม่ได้ผลอีกต่อไป และน่าจะใช้ได้กับกลุ่มหนังที่เหมาะกับคนดูทั้งครอบครัวมากกว่า
• ชื่อหนังที่โดดเด่นและยูนีค...จนเกินไป
Birds of Prey (and the Fantabulous Emancipation of One Harley Quinn) เป็นชื่อหนังที่มีความสดใหม่และยูนีคมาก แต่กลับส่งผลเสียกับการตลาดอย่างสิ้นเชิง เพราะหนังเรื่องนี้มีเนื้อที่หนักไปที่ตัวละคร "ฮาร์ลีย์ ควินน์" แต่ปรากฏว่าชื่อของเธอกลายเป็นส่วนประดับบนชื่อเรื่องเพียงเท่านั้น และก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้จักว่า ทีมนกผู้ล่า คือใคร? ชื่อหนังจึงกลายเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้คนดูสับสนและลังเลที่จะตีตั๋วเข้าไปดู แต่ก็ดูเหมือนว่า วอร์เนอร์ฯ จะเริ่มไหวตัว เพราะมีคำสั่งให้ทยอยเปลี่ยนชื่อเรียกหนังเป็น "Harley Quinn: Birds of Prey" อย่างที่ควรจะเป็นตั้งแต่แรก
• ภาคต่อจาก Suicide Squad ที่ไร้ส่วมผสมที่น่าจรรโลงใจ
เมื่อครั้งเฉิดฉายอยู่ใน "Suicide Squad" ตัวละครอย่าง ฮาร์ลีย์ ควินน์ ถึงจะเป็นเพียงไม้ประดับ แต่ก็โดดเด่นไม่แพ้ตัวละครอื่นๆ ที่คนรู้จักกันดีอย่าง โจ๊กเกอร์ หรือ เดดช็อต ทำให้เธอได้รับโอกาสมีหนังเป็นของตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าจะขาดแรงสนับสนุนในหลายๆ ทาง เพราะหนังที่ดูจะเป็นเหมือนภาคต่อของ Suicide Squad แต่กลับมามีตัวละครใดๆ เข้ามาร่วมสมทบ ในเมื่อหนังวายร้ายที่ไม่มี โจ๊กเกอร์ หรือ วิล สมิธ แม้กระทั่ง แบทแมน ก็ทำให้ละทิ้งความสนใจของคนดูกลุ่มหนึ่งไปได้เช่นกัน
• การตลาดและทีเซอร์ตัวอย่างที่ไม่น่าสนใจ
กระแสตอบกลับจากโซเชียลมีเดียส่วนหนึ่ง ต่างก็ยอมรับว่า Birds of Prey ได้ปล่อยตัวอย่างออกมาที่ดูไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไหร่ พวกเขายังเกิดความลังเลที่จะตีตั๋วเข้าไปชม เพราะยังไม่แน่ใจว่าหนังจะมอบความบันเทิงที่พวกเขาต้องการหรือไม่ ทำให้บางส่วนยังคงรอกระแสและคำวิจารณ์ออกมาก่อน และเมื่อหนังทำรายได้ออกมาได้ไม่ตามเป้า ก็อาจจะพลอยทำให้พวกเขาไม่เชื่อกระแสปากต่อปากเข้าไปอีก
• หนังเรท R กลายมาเป็นอุปสรรคดึงกลุ่มคนดู
Birds of Prey มีความรุนแรงจัดอยู่ในเรท R ทำให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะไม่สามารถตีตั๋วเข้าชมหนังเรื่องนี้ได้ นั่นจึงกลายเป็นอีกอุปสรรคของหนังที่จำใจต้องขาดคนดูกลุ่มที่แฟนตัวละครคอมิกส์ แต่ไม่สามารถเข้ามาชมหนังเรื่องนี้ได้ ทั้งที่หลายฝ่ายก็มองว่า หากหนังสามารถทำออกมาเป็นเรท PG-13 ได้ ก็น่าจะบทบาทช่วยเรื่องรายได้อยู่ไม่น้อย ประกอบในช่วงนี้ยังมีหนังเรท R ฉายเกลื่อนเต็มโรงหนัง ไม่ว่าจะเป็น Bad Boys 4, 1917 หรือ The Gentlemen ถ้าหนังได้รับการบั่นทอนเรทลงมาอีกนิด ก็จะได้รับส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นไปอีกแน่ๆ
Source: Forbes
----------------------------------------------------