จะมีหนังสักกี่เรื่องกันที่ตัวนักแสดงนำถูกพูดถึงมากกว่าบทในหนัง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอได้รับการยกย่องเป็นอย่างมากจากการแสดงของเขาในเรื่อง BLOOD DIAMOND เทพบุตรเพชรสีเลือด กับบทบาทที่เข้มข้น และโดดเด่นเป็นอย่างมาก แต่ไม่เฉพาะ ดิคาปริโอเท่านั้น แม้แต่ จิมอน ฮาวน์ซู นักแสดงสมทบก็ได้รับคำชื่นชมไปไม่น้อยจากหนังเรื่องนี้ รวมถึงเจนนิเฟอร์ คอนเนลลี ในบทนักข่าวสาวผู้ยืนหยัดเพื่ออุดมการณ์ และเป็นตัวแปรสำคัญในการสรุปเรื่องราวทั้งหมด ขอบคุณภาพประกอบจาก IMDBเนื้อหาในบทของหนัง BLOOD DIAMOND ค่อนข้างแรง เป็นแนวตีแผ่วิพากษ์วิจารณ์สังคม แต่อย่างที่บอกกลายกลับเป็นว่า นักแสดงในเรื่องที่แสดงได้อย่างมีพลังจนกลบการนำเสนอบทของหนังไปเยอะทีเดียว ตอนแรก BLOOD DIAMOND ถูกนักวิจารณ์ตั้งข้อสังเกตว่าจงใจเจตนาให้บทของหนังแรงเกินจริง เพื่อให้เข้าตากรรมการในการเข้าชิงรางวัล แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม BLOOD DIAMOND ก็มีบทที่กล้าตีแผ่ปัญหาระดับชาติที่คนอาจไม่เคยรู้กันมาก่อน ในแง่มุมของการนำเสนอ การแฉความจริงความรุนแรงออกมาในโลกภาพยนตร์ ก็อาจเท่ากับว่าช่วยลดปัญหาความรุนแรงในโลกแห่งความจริงได้ระดับนึงเหมือนกัน การกระชากหน้ากากขบวนการอุตสาหกรรมเพชรผิดกฎหมาย ธุรกิจทุนข้ามชาติที่มีประเทศยักษ์ใหญ่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง โดยเกี่ยวพันไปกับเรื่องอาวุธสงคราม และการลักลอบเอาเพชรออกจากแอฟริกา ไปเข้าขบวนการผลิตในประเทศตะวันตก ก่อนออกจำหน่ายสู่โลก นี่คือขบวนการเพชรผิดกฎหมาย เป็นการตราบาปให้กับผู้บริโภค และการได้มาของวัตถุดิบยังต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อและชีวิตขอบคุณภาพประกอบจาก IMDBทั้งนักธุรกิจใหญ่ นายทหารใหญ่ และบริษัททุนข้ามชาติ ที่เข้ามามีอิทธิพลในอุตสาหกรรมเพชร หนังถูกเล่าเรื่องราวขบวนการค้าการผลิต การติดต่อ จัดซื้อกันเป็นทอด ๆ และยังมีเรื่องราวของเพชรสีชมพูเม็ดใหญ่ ที่ถูกแอบซ่อนไว้ในเหมืองแห่งหนึ่งในกรุงเซียราลีโอน การตามล่าเพชรสีชมพู นำมาซึ่งข้อต่อรอง การเดิมพัน และผลตอบแทนมากมาย BLOOD DIAMOND เกือบจะถือว่าเป็นหนังคุณภาพแล้วก็ว่าได้ การได้ เอ็ดเวิร์ด ซวิค มากำกับ ตัวหนังทำออกมาแบบกึ่งบู๊กึ่งหนังชีวิต ทั้งเครียดทั้งตื่นเต้นเร้าใจ แต่ตัวบท BLOOD DIAMOND กลับขาดความลงตัวจนเห็นได้ชัดเลย ไม่รู้ว่าเพราะต้องการเอาใจตลาดมากเกินไปหรือเปล่า จึงใส่บทแอ็คชั่นมาจนล้นเกิน ฉากสะเทือนใจก็เหมือนจะถูกจับใส่ไว้เพื่อหวังรางวัลแบบที่วิจารณ์ว่าไว้จริง ๆ หากหนัง BLOOD DIAMOND จับแค่ประเด็นอุตสาหกรรมเพชร หนังจะทรงพลังและน่าประทับใจมากกว่านี้ และผลลัพธ์ที่ตามมาก็น่าจะดีกว่านี้ด้วยเช่นกันขอบคุณภาพประกอบจาก IMDBBLOOD DIAMOND เป็นหนังที่มีความยาว แต่กลับสิ้นเปลืองไปกับฉากแอคชั่น และจงใจใส่ความสะเทือนใจจนหนังยืดเยื้ออย่างไม่คุ้มค่าเวลา โดยเฉพาะฉากการเผชิญหน้ากันระหว่าง โซโลมอนและลูกชายที่ไม่มีพลังพอจะสะเทือนอารมณ์คนดูได้มากเท่าใด บีบคั้นความรู้สึกของคนดูอย่างที่หนังไม่ควรจะทำ เรื่องเล็ก ๆ น้อยเหล่านี้นี่แหละ ที่ลดทอนพลังตัวบทของหนังอย่างน่าเสียดายเหลือเกิน แต่ความซาบซึ้งประทับใจกลับถูกขโมยซีนไปโดยความโรแมนติคซะงั้น เพราะหลายคนกลับยกย่องให้เป็นฉากที่ดีที่สุดในหนัง BLOOD DIAMOND กันเลยทีเดียวขอบคุณภาพประกอบจาก IMDBบทหนังแม้จะดูย้อนแย้งในเรื่องความสมจริงต่อสถานการณ์ความเลวร้าย แต่ก็เพราะความเป็นหนังนี่แหละที่ทำให้ชีวิตจริงไม่มีทางแฮปปี้เอนดิ้งได้แบบนั้นหรอก สามารถเป็นจริงขึ้นมาได้ เอ็ดเวิร์ด ซวิค ผู้กำกับเอง อาจจะมองหาทางออกให้มันลงตัวกับความบันเทิงไว้แบบนี้ก็เป็นได้ขอบคุณภาพประกอบจาก IMDBBLOOD DIAMOND เป็นหนังที่เล่นกับความหนัก แต่ทำได้ไม่ถึงความหนักที่ว่านั่นจริง ๆ ก็เลยเกิดข้อบกพร่องขึ้นมามากมายบทหนังจริง ๆ ควรถูกจดจำได้มากกว่านี้ ควรค่าแก่การศึกษาเรื่องราวมากกว่านี้ การเปิดโปงขบวนการอุตสาหกรรมเพชรเถื่อน และองค์กรธุรกิจข้ามชาติเป็นความดีงามที่หนังถ่ายทอดออกมา หนังกล้าจุดไฟในความมืดขึ้น เพื่อให้ทุกคนได้มองเห็นตัวปีศาจร้ายอันน่าสะพรึงกลัว แต่ก็เป็นหนังเองเช่นกันที่ดับไฟลุกโชนลงด้วยมือตัวเอง ด้วยการพยายามใส่อะไรหลาย ๆ อย่างลงไปในหนังจนเกินพอดี BLOOD DIAMOND จึงเป็นความผิดบาปที่อภัยให้ไม่ได้ ทั้งในแง่ขบวนการอุตสาหกรรมเพชรในโลกแห่งความเป็นจริง และ ขบวนการอุตสาหกรรมเพชรในโลกที่ทำออกมาเป็นภาพยนตร์BLOOD DIAMONDผู้กำกับ-ผู้อำนวยการสร้างร่วม เอ็ดเวิร์ด ซวิคผู้แสดง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี, จิมอน ฮาวน์ซู, อาร์โนลด์ วอสลู iSSANDYS ขอบคุณภาพประกอบจาก IMDB ภาพปกจาก official trailer