ชวนชมAlchemy of Souls : เล่นแร่แปรวิญญาณ (2022)"ซีรีส์กำลังภายในเกาหลีที่เอาดีได้ อลังการด้านภาพตระการตา และเหมือนตั้งใจมาบันเทิงเต็มที่"ความจริงดูไปบ่นไปเป็นมนุษย์ที่ชมชอบการอ่านนิยายจีนกำลังภายในที่สำเนียงคน (เกือบ) แก่เรียกหรูๆว่ายุทธจักรนิยาย แน่นอนมันส่งผลมายังความชอบดูหนังจีนกำลังภายในรวมถึงซีรีส์จีนกำลังภายในใช้วิชาตัวเบาและเคล็ดวิทยายุทธ เรื่องบุญคุณความแค้นใครฆ่าพ่อข้าที่เรียกได้ว่าโตมากับมัน แต่ปัจจุบันผู้เขียนกลับหมางเมินซีรีส์จีนกำลังภายในไปนานอาจเพราะไม่มีแรงจูงใจในการดูนักแสดงจีนรุ่นใหม่ที่โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกห่างเหินไม่เหมือนกับนักแสดงจีนยุค 80-90 ที่ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ อีกส่วนหนึ่งด้วยจำนวนที่มากทำให้ซีรีส์จีนเรื่องล่าสุด (ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม) ที่ได้ดูแต่ไปด้วยกันได้ไม่สุดทางเพราะเห็นอาการยืดและเน้นความอลังการเกินไปหรือเรียกง่ายๆว่าเน้นภาพมากกว่าเนื้อหา ประกอบกับช่วงหลังผู้เขียนหันมาดูซีรีส์เกาหลีอย่างจริงจังเลยถอนตัวไม่ได้ จนสุดท้ายก็มาเจอซีรีส์เกาหลีใหม่ที่มาเป็นแฟนตาซีกำลังภายในเข้าจนได้คล้ายเป็นพรหมลิขิตในยุคโบราณไม่ระบุว่าเวลาไหนแห่งหนใดมีผู้ใช้เวทที่เข้าใจว่าเป็นศาสตร์มืดคือการเคลื่อนย้ายวิญญาณที่เรียกกันว่าผู้แปรวิญญาณที่เกิดความผิดพลาดมหันต์ในการแปรวิญญาณครั้งหนึ่ง ยี่สิบปีต่อมานักฆ่ามือฉกาจนามว่านักซู (โกยูนจอง) ที่เป็นผู้ใช้เวทด้วยถูกตามล่าจากสำนักซงริม นาทีสุดท้ายของชีวิตนักซูตัดสินใจแปรวิญญาณตัวเองสู่หญิงสาวนางหนึ่งแต่ความผิดพลาด (หรือไม่) ที่ทำให้วิญญาณนางไปอยู่ในร่างหญิงสาวบอบบางอ่อนแอแถมตาบอดนามว่ามูด็อค (จองโซมิน) ที่ถูกขายเข้าไปอยู่ในหอนางโลม แต่มูด็อคดันไปมีอะไรต้องใจจางอุค (อีแจอุค) หนึ่งในสี่ทายาทตระกูลสูงศักดิ์แห่งแดโฮ แต่จางอุคกลับต่างจากคนอื่นที่เขามีร่างกายอ่อนแอและไม่สามารถฝึกวิชาเป็นผู้ใช้เวทได้เพราะถูกบิดาใช้เวทปิดกั้นพลังไว้ ในขณะที่นักซูในร่างมูด็อคที่มีความแค้นกับสำนักซงริมแต่นางกลับใช้พลังยุทธ์ไม่ได้ สองคนที่ดูต่างแต่ดูคล้ายจึงได้มาพบกันดังโชคชะตาที่จะเปิดประตูแห่งพลังของกันและกันหรือไม่นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เห็นซีรีส์เกาหลีที่ดูเหมือนตั้งหน้ามาบันเทิงเต็มที่ ยิ่งในช่วงหลังโดยเฉพาะทาง NETFLIX นี่ล่ะตัวดีที่ซีรีส์ไม่ตรงปกทั้ง Green Mothers Club หรือ Our Blues ดังนั้นเมื่อผ่านสองตอนแรกไปแบบน่าสนใจแบบนี้จึงต้องมาชวนชมเพราะดูแล้วน่าจะเป็นงานที่ตั้งใจมาขายความบันเทิงเต็มที่ในแนวแฟนตาซี เพราะในสองตอนแม้จะเห็นแววดราม่าบ้างแต่ก็ไม่ได้ถึงกับเน้นมากมาย แต่เห็นไปทางโชคชะตาหรือชะตากรรมที่จะบิดเบี้ยวของตัวละครหลักที่เป็นสี่ทายาทตระกูลใหญ่ที่น่าจะมีตัวแปรในเรื่องของธรรมะอธรรมและวิญญูชนจอมปลอมตามสูตร แต่ดราม่าจะแรงจัดขึ้นหรือไม่ก็ยังบอกไม่ได้เพราะระยะทางยังอีกยาวไกลและเรื่องนี้หน้าจอที่ NETFLIX ฟ้องว่ามีมาให้ดูกันยาวๆสามสิบตอน แต่เท่าที่เห็นในสองตอนที่ผ่านมานี้คือความบันเทิงในแนวกำลังภายในต่อสู้กันด้วยวิทยายุทธปนเวทเต็มที่ที่ออกมาดูสนุกแบบไม่พยายามยืดและสิ่งที่ทำให้บันเทิงคือเรื่องไม่รีรอที่จะเปิดหน้าตัวละครหลักที่มีเสน่ห์มีสีสันเหมือนเป็นสี่มุมของเรื่องทั้งด้านเคล็ดวิชาและด้านหัวใจ เพราะนอกจากฉากต่อสู้ที่อลังการด้วยงานด้านภาพที่เห็นเป็นภาพมุมสูงภาพมุมกว้างที่ดูสวยมาพร้อมกับงาน CG ที่ถ้าว่ากันตามเนื้อผ้าว่านี่คืองานละครทีวีก็คืองานระดับที่เข้าขั้นว่าเยี่ยม ส่วนหนึ่งที่ทำให้คนดูที่สายตามเริ่มไม่ค่อยดีอย่างผู้เขียนดูสนุกทั้งที่ช่วงหลังพยายามหนีงานที่ขายความวูบวาบแสงสีฟ้าสีเขียวแบบนี้ คือการไม่พยายามหวือหวาหรือเน้น CG แต่เห็นชัดว่าใช้เนื้อหามาจัดการคนดูก่อนแล้วใช้งานเทคนิดมาเสริม ทำให้ไม่ดูละลานตาเกินไปจนทำให้ผู้ (เกือบ) เฒ่าตาลายคล้ายจะเป็นลม เพราะแม้จะเป็นงานที่มีจุดขายเรื่องเทคนิคทางด้านภาพแน่นอนแต่ก็ยังมองเห็นมิติของเรื่องมิติของความสัมพันธ์ นั่นคือแม้จะตั้งท่ามาบันเทิงแต่ก็ไม่ลืมเรื่องรากฐานนั่นคือ Story ยังจัดการอารมณ์ได้เช่นกันส่วนต่อมาคือนักแสดงดูดีมีเสน่ห์มาพร้อมอารมณ์ขันที่พอดี สาบานได้ว่าผู้เขียนไม่เคยสะดุดตาจองโซมินมาก่อนจนเรื่องนี้ที่บทดูเหมือนเบาแต่ไม่เบา และกล้าบอกเลยว่าการเข้าฉากแบบกุ๊กนิดกิ๊กหน่อยกับอีแจอุคนับเป็นส่วนที่ดีที่สุดของสองตอนเริ่มต้นนี้ได้อย่างไม่อายปาก แต่ยังมีมิติความสัมพันธ์ทางหัวใจของคุณชายคุณหนูทายาทสี่ตระกูลมาพัวพันแน่นอนที่ตอนนี้อาจเห็นเพิ่มมาอีกแค่สอง แต่อะไรก็ไม่แน่ทั้งนั้นเพราะถ้าเอาตามเครดิตผู้เขียนบทคนคู่สองพี่น้องฮงจองอึนกับฮงมีรันแห่ง Hotel Del Luna , A Korean Odyssey หรือย้อนไปไกลอีกหน่อยอย่าง The Master's Sun ก็จะเห็นมิติความสัมพันธ์ของตัวละครที่พลิกผันแพรวพราวหลากหลาย และกลเม็ดเด็ดพรายที่ใส่มาทำให้คนดูได้ยิ้มได้หัวเราะไปพร้อมกับซาบซึ้งในความสัมพันธ์หรืออาจมีบ้างที่แอบตื้นตันโศกเศร้าเคล้าน้ำตา แต่เท่าที่เป็นคือนักแสดงนำสองคนจัดการคนดูก่อนได้แล้วและเป็นพลังดึงดูดให้กับเรื่องที่ดูสนุกให้น่าดูยิ่งขึ้นจึงนับว่าถ้าเอากันที่ส่วนตัวผู้เขียนเป็นที่ตั้งนี่คืองานซีรีส์ที่น่าดูและน่าจะสนุกในอารมณ์ที่แตกต่าง เพราะทุกสามทุ่มคืนวันเสาร์อาทิตย์ตลอดสองเดือนครึ่งที่ผ่านมาหัวใจคนดูอย่างผู้เขียนชุ่มโชกไปกับฟ้าใสหัวใจหม่นของ Our Blues แล้วเมื่อได้เริ่มดูเรื่องนี้ที่มาออกอากาศแทนและได้สัมผัสเรื่องในโทนเบาลงบ้างที่เบาลงจริงๆในแง่ของหัวใจ เพราะในสองตอนที่เป็นการแนะนำตัวละครแนะนำมิติที่จะเป็นปัจจัยในการต่อสู้ทั้งเชิงรบและเชิงรักดูลงตัวดีไม่มีอะไรน้อยหรือมากไป เพราะความสนุกกับฉากแอ็คชั่นก็จัดให้ได้จะผ่อนคลายอารมณ์ก็ได้ยิ้มตามไป หรือจะใส่ความหนักทางหัวใจที่กำหนดอารมณ์ดราม่าบางๆมาบ้างก็นับว่าใช้ได้ แต่ด้วยความที่เป็นเกาหลีที่ไม่ถึงวินาทีสุดท้ายก็ยังไว้ใจไม่ได้เพราะมักจะมีความพลิกผันมาตลบหลังคนดูเสมอ และกับเรื่องนี้ที่ระยะทางค่อนข้างยาวผู้เขียนไม่เชื่อว่าจะตั้งท่ามาขายความบันเทิงเป็นเส้นตรงแน่แต่จะพลิกซ้ายพลิกขวายังไงก็น่าติดตามมิใช่น้อยดูสนุกเพลินดีนักแสดงมีเสน่ห์เป็นอารมณ์ที่ต่างไปจนต้องออกมาชวนชมดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 , 3 , 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 จาก Instagram tvn_dramaภาพที่ 8 และ VDO จาก Facebook Netflixhttps://www.facebook.com/NetflixTH/videos/997782780752153 *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี` คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565