สวัสดีเพื่อนๆ ชาว intrend ทุกคนนะครับ หากพูดถึงสายลับผู้ดีอังกฤษเจ้าเสน่ห์ในโลกภาพยนตร์แล้วหละก็ ทุกคนคงจะต้องนึกถึง เจมส์ บอนด์ (James Bond) สายลับ MI6 โค้ดเนม 007 อย่างแน่นอน และได้มีนักแสดงชายเจ้าเสน่ห์มารับบทนี้ถึง 6 คนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าแฟรนไชส์หนังชุดนี้มีความเก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ จากครั้งที่แล้วที่เราได้ทำการคาดเดาว่าใครจะมารับบท 007 ต่อจาก แดเนียล เครก (Daniel Craig) กันไปแล้ว ครั้งนี้ Feel Good Studio จะขอพาทุกคนไปย้อนชมหนังชุด เจมส์ บอนด์ 007 ที่แสดงโดย แดเนียล เครก (Daniel Craig) กันซักหน่อย ก่อนที่จะไปลุ้นกับเจมส์ บอนด์ คนต่อไป จะสนุก จะมันส์ น่าติดตามขนาดไหน เราไปดูกันเลยครับ..!!!Casino Royale 007 พยัคฆ์ร้ายเดิมพันระห่ำโลก (2006)เจมส์ บอนด์ 007 ได้รับภารกิจให้ไปสืบหาความจริงและจัดการกับกลุ่มวายร้ายในบ่อน คาสิโนรอยัล (Casino Royale) ขณะที่แฝงตัวเข้าไปทำภารกิจ เขาได้เผชิญหน้ากับนายทุนให้กับเหล่าผู้ก่อการร้าย อย่าง “เลอชีฟฟ์” (รับบทโดย แมดส์ มิคเคลเซ่น) ดังนั้นนี่จึงเป็นศึกเดิมพันระหว่างบอนด์กับเลอชีฟฟ์ ที่ทั้งมันส์ ตื่นเต้น บ้าระห่ำสุดเหวี่ยง ฉีกทุกขนบของบอนด์ภาคก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัดการรับบทเจมส์ บอนด์ ของ แดเนียล เครก ถูกกระแสต่อต้านอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อหนังฉายออกมา การวิพากษ์วิจารณ์เปลี่ยนทิศทางไปในทางบวก และ แดเนียล เครก ได้ถูกยอมรับในฐานะเจมส์ บอนด์ คนที่ 6 ของโลกอย่างไร้ข้อกังขา เสน่ห์ของเจมส์ บอนด์ ภาค Casino Royale นั้นแตกต่างจากภาคก่อนๆ อย่างมาก ตัวเจมส์ บอนด์ มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ไม่ได้เก่งเว่อวัง ไม่มีความเจ้าสำอาง มีเลือดมีเนื้อเหมือนคนธรรมดาทั่วไป บาดเจ็บได้ มีความรู้สึก ที่สำคัญคือ ฉากแอคชั่นที่ดูดิบเถื่อน บ้าระห่ำ ตื่นตาตื่นใจ สมจริงมากกว่าที่เคยเป็นมา จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์และสูตรสำเร็จของเจมส์ บอนด์ ฉบับ แดเนียล เครก ในภาคต่อๆ ไปQuantum of Solace 007 พยัคฆ์ร้ายทวงแค้นระห่ำโลก (2008)เรื่องราวดำเนินต่อจากภาค Casino Royale ทันที โดยหลังจากเจมส์ บอนด์ ได้สูญเสียคนรักไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาจึงเกิดความเคียดแค้นในใจ และพยายามที่จะแก้แค้นผู้ที่พรากชีวิตคนรักของเขาไป ผ่านภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากเอ็ม (รับบทโดย จูดี้ เดนช์) ในภาคนี้บอนด์ต้องเผชิญหน้ากับตัวร้ายอย่าง “โดมินิค กรีน” (รับบทโดย แมทธิว อมัลริค) นักธุรกิจผู้เป็นหมากสำคัญขององค์กรควอนตัม (Quantum) และอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของคนรักของบอนด์ในภาคที่แล้ว กรีนพยายามครอบครองทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของโลก ด้วยการแลกเปลี่ยนว่าจะช่วยเหลือกับนายพลเมดราโนในการโค่นล้มรัฐบาลโบลิเวียภาคต่อเรื่องนี้ได้เพิ่มความระห่ำ บู๊แหลกคูณสองเข้าไป อีกทั้งยังพิสูจน์ให้เห็นว่าเจมส์ บอนด์คนนี้มีหัวใจ รักใครรักจริง พร้อมแก้แค้นให้กับคนรักอย่างมุ่งมั่น แม้ภาค Quantum of Solace จะไม่ได้ประสบความสำเร็จหรือได้รับเสียงวิจารณ์ดีเท่ากับ Casino Royale แต่ยังคงรักษามาตรฐานความเป็นหนังบอนด์ฉบับแดเนียล เครก ได้อย่างดีเลยทีเดียวSkyfall พลิกรหัสพิฆาตพยัคฆ์ร้าย 007 (2012)บอนด์และอีฟได้รับภารกิจให้ตามยึดฮาร์ดไดรฟ์ที่บรรจุข้อมูลเกี่ยวกับสายลับ NATO ทุกคนที่แฝงตัวอยู่ในองค์กรก่อการร้ายทั่วโลกคืนมา แต่ภารกิจกลับล้มเหลว บอนด์ถูกยิงและตกลงไปในแม่น้ำ ทุกคนจึงคิดว่าบอนด์ตายแล้ว แต่กลับไม่พบศพ บอนด์จึงอยู่ในสถานะหายสาบสูญ หลังจากนั้นเอ็มถูกกดดันให้ลาออก สถานการณ์เริ่มรุนแรงมากขึ้นเมื่อศูนย์บัญชาการ MI6 ถูกลอบวางระเบิด มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตถึง 8 คน และถูกขู่ว่าจะเปิดโปงสายลับสัปดาห์ละ 5 คนเมื่อเป็นเช่นนั้นบอนด์จึงกลับมาที่ลอนดอน และรับภารกิจสืบหาตัวคนร้าย ไล่ล่าตั้งแต่เซี่ยงไฮ้ มาเก๊า รวมถึงเกาะร้าง จนบอนด์ได้พบกับ “ราอูล ซิลวา” (รับบทโดย ฮาเวียร์ บาร์เด็ม) อดีตสายลับ MI6 ผู้ทรยศองค์กร ซิลวามีความเคียดแค้นต่อเอ็ม เพราะในอดีตเอ็มไม่ช่วยเหลือเขาจากการจับคุม เขาจึงตามล่าเพื่อหวังเอาชีวิตเอ็ม บอนด์จึงพาเอ็มมาหลบหนีที่คฤหาสน์ Skyfall และล่อซิลวาให้มาติดกับที่นี่ หลังจากการต่อสู้กันบอนด์ได้สูญเสียเอ็มผู้ที่เป็นเหมือนทั้งแม่ เจ้านาย ที่ปรึกษา และเพื่อนที่คอยช่วยเหลือเขาไปอย่างน่าสลดภาค Skyfall ถือว่าเป็นภาคที่ทำออกมาได้ตื่นเต้น สนุกเร้าใจ ทำให้คนดูไม่อยากพลาดซักวินาที สมกับที่เป็นหนังบอนด์ที่ทำรายได้สูงที่สุดของแฟรนไชส์จนถึงปัจจุบัน ด้วยความที่ตัวหนังเน้นไปทางการชิงไหวชิงพริบ ปะทะเล่ห์เหลี่ยม และการต่อสู้ที่มันส์ทะลุโลกในตอนท้ายเรื่อง ยิ่งไปกว่านั้นเป็นการสร้างบาดแผลในใจให้กับบอนด์อีกหนึ่งแผลจากการสูญเสียคนสำคัญอย่างเอ็มไป ทำให้ตัวละครเจมส์ บอนด์ มีความเรียล และมีมิติมากยิ่งขึ้นSpectre องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย (2015)เจมส์ บอนด์ ได้รับภารกิจจากเอ็มคนใหม่ (รับบทโดย เรล์ฟ ไฟนส์) ในการตามล่าองค์กรที่มีชื่อว่า “สเปกเตอร์ (Spectre)” เขาได้รับความช่วยเหลือจากแม่ม่ายสาวอย่าง “ลูเซีย สเกียร์รา” (รับบทโดย โมนิก้า เบลุคซี่) และลูกสาวของไวท์ (รับบทโดย เจสเปอร์ คริสเตนเซ่น) อดีตคู่ปรับตัวฉกาจของบอนด์ อย่าง “เมเดอลีน สวอนน์” (รับบทโดย ลีอา แซดู) ผู้ที่เป็นกุญแจสำคัญเพียงคนเดียวในการตามล่าหาตัวองค์กรสเปกเตอร์ภาค Spectre ถือว่าสานต่อความสำเร็จจาก Skyfall ได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของคำวิจารณ์และรายได้ แม้จะไม่เทียบเท่า Skyfall ก็ตาม ภาคนี้ถือว่าเป็นการเปิดตัวองค์กรที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของเจมส์ บอนด์ที่ถูกพูดถึงมาหลายต่อหลายรุ่นอย่าง องค์กรสเปกเตอร์ ที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปปลาหมึก ไม่ว่าจะเป็นแผนการอันแยบยล สมาชิกที่ลึกลับและทักษะฝีมือที่เยี่ยมยอด รวมไปถึงเล่ห์เหลี่ยมที่เข้าขั้นอันตราย ทำเอาบอนด์เกือบพลาดท่าอยู่หลายครั้ง นอกจากนี้ภาค Spectre ยังเป็นการสานต่อความระห่ำแบบฉบับของบอนด์แดเนียล เครก ที่กลายมาเป็นสูตรสำเร็จของหนังแอคชั่นจารกรรมในปัจจุบันNo Time to Die พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ (2021)หลังจากเกษียณงานสายลับ เจมส์ บอนด์ ได้ไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่จาไมก้า แต่ก็ไม่วายมีเรื่องให้เขาต้องกลับไปทำงานสายลับอีกครั้ง เมื่อ “เฟลิกซ์ ไลเตอร์” (รับบทโดย เจฟฟรีย์ ไรท์) เจ้าหน้าที่จาก CIA มาขอให้บอนด์ช่วยเหลือในภารกิจพาตัวนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกลักพาตัวไปกลับมา ทำให้บอนด์ต้องเผชิญหน้ากับมหาวายร้ายสุดอันตรายอย่าง “ซาฟิน” (รับบทโดย รามี่ มาเลค) ชายผู้ลึกลับที่เชี่ยวชาญการใช้เทคโนโลยีสุดไฮเทคหนังภาค No Time to Die เป็นภาคสุดท้ายที่เราจะได้เห็น แดเนียล เครก สวมบทบาทเป็นเจมส์ บอนด์ ก่อนจะส่งไม้ต่อไปให้นักแสดงคนถัดไป (ซึ่งตอนนี้ก็มีแต่การสันนิษฐานเพียงเท่านั้น) โดยก่อนที่หนังจะเข้าฉาย ต่างก็มีการคาดเดาสารพัดถึงผู้ที่จะมารับบทบอนด์คนต่อไป เกิดเป็นกระแสทั้งเชิงบวกและลบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประเด็น บอนด์ผู้หญิง, บอนด์ผิวสี, บอนด์ที่ไม่มีเชื้อสายอังกฤษ ฯลฯ แต่ท้ายที่สุดเมื่อตัวอย่างหนังออกมาได้เกิดความกระจ่างหายสงสัยในทันทีเมื่อประเด็นต่างๆ เหล่านี้เป็นเพียงความเข้าใจผิด เพราะบอนด์ผิวสีและบอนด์ผู้หญิงที่ก่อนหน้านี้ถูกเป็นประเด็น คือ ตัวละครที่มีชื่อว่า “โนมิ” (รับบทโดย ลาชานา ลินช์) สายลับสาวที่จะมาช่วย เจมส์ บอนด์ในการทำภารกิจครั้งนี้เท่านั้นเองแม้ว่าจะเกิดความล่าช้า เพราะเรื่องเหตุการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้เจมส์ บอนด์ ภาค No Time to Die ต้องเลื่อนฉายซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกินเวลามาถึง 6 ปี ห่างจากภาค Spectre แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ความสนุกแบบบอนด์แดเนียล เครก ไม่มีคำว่าจางหาย อัดแน่นและทวีคูณความสนุก ความตื่นเต้น และระห่ำที่สุดกว่าที่เคยเป็นมาแน่นอนและนี่คือ 5 เรื่องในแฟรนไชส์พยัคฆ์ร้าย 007 เจมส์ บอนด์ ที่แสดงโดยแดเนียล เครก ขนความสนุก ความบู๊เต็มพิกัด และน่าติดตามในแบบฉบับของตนเอง ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ และกลายมาเป็นหนังบอนด์ที่ทำรายได้ให้กับแฟรนไชส์มากที่สุดอีกด้วยก่อนจากกัน..บอกเราหน่อยครับว่า คุณชอบหนังบอนด์ของแดเนียล เครก เรื่องไหนมากที่สุด คอมเม้นต์บอกกันได้นะครับ และอย่าลืมกดติดเพื่อเป็นกำลังใจให้ Feel Good Studio และเพื่อไม่ให้พลาดคอนเทนต์ที่น่าสนใจแบบนี้นะครับ สำหรับวันนี้ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ..นักแสดงชายที่อาจได้รับบท James Bond 007 คนต่อไป by Feel Good Studioขอขอบคุณรูปภาพสวยๆ จาก @JamesBond007ภาพปก : (1) / (2) / (3) / (4) / (5)ภาพประกอบ : (1) / (2) / (3) / (4) / (5) / (6) / (7) / (8) / (9) / (10) / (11) / (12) / (13) / (14) จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !