"สตีเว่น สปีลเบิร์ก" ยังคงส่งของขวัญให้ "คีฮุยควน" ตลอด 38 ปีที่ผ่านมา
ในงานอีเวนต์ D23 Expo ที่จัดขึ้นโดย Disney เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หากยังจำกันได้ นอกจากจะมีการเปิดตัวคอนเทนต์ใหม่ ๆ มากมายมหาศาลแล้ว ความประทับใจที่กลายเป็นไวรัลในเวลานั้นคงหนีไม่พ้นการกลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบ 38 ปี ของสองนักแสดงอย่าง แฮร์ริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) วัย 80 ปี กับ คีฮุยควน (Ke Huy Quan) หรือ โจนาธาน คี ควาน (Jonathan Ke Quan) อดีตนักแสดงเด็กชาวเวียดนาม-อเมริกันวัย 51 ปี ที่เคยร่วมงานกันในภาพยนตร์ ‘Indiana Jones and the Temple of Doom’ ที่ฉายในปี 1984
ในครั้งนั้น ฟอร์ดมาปรากฏตัวในงานเพื่อโปรโมต ‘Indiana Jones 5’ ซึ่งเป็นการรับบท อินเดียนา โจนส์ ครั้งสุดท้าย ส่วนควน เจ้าของบทเด็กชายชอร์ตราวนด์ (Short Round) ใน Indiana Jones มาในฐานะนักแสดงที่ได้ร่วมแสดงใน ‘Loki’ ซีซัน 2 ของ Marvel Studios โดยการเจอกันในครั้งนั้น อย่างที่ได้เห็นว่า ทั้งคู่ต่างสวมกอดกันอย่างชื่นมื่น และควนก็ได้โพสต์ภาพนี้ลงในอินสตาแกรมของตัวเองในเวลาต่อมา
ล่าสุด ควนได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ The Guardian ซึ่งในบทสัมภาษณ์นี้ นอกจากเขาจะได้เล่าเปิดเผย เผยเรื่องราวชีวิตในวัยเด็ก และการฝ่าฟันอุปสรรคจนสามารถแจ้งเกิดในฐานะนักแสดงเด็ก การผันตัวไปทำงานเบื้องหลังในช่วงวัยรุ่น และกลับมาแจ้งเกิดในฮอลลีวูดอีกครั้งในปัจจุบันแล้ว เขายังได้เล่าถึง 2 บุคคลที่มอบโอกาสให้เขาได้แจ้งเกิดในฮอลลีวูดด้วย ซึ่งคนแรกก็คือฟอร์ด ที่เขาได้เล่าความรู้สึกเพิ่มเติม ณ วันที่ทั้งคู่ได้เจอกันในงาน D23 อีกครั้ง :-
“(ในงาน D23) มีคนมาบอกผมว่า แฮร์ริสันก็อยู่ในงานด้วย เราอยู่ในห้องพักที่มีทั้งนักแสดง โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับหลายคน จนกระทั่งคนที่เป็นตัวแทนที่รับหน้าที่ดูแลผมก็บอกว่า ตอนนี้ แฮร์ริสัน ฟอร์ด อยู่ข้างนอกห้องพัก คุณอยากจะไปทักทายเขาไหม ? “
“ตอนนั้นเขาอยู่ในห้องพักสีเขียว ผมไม่ได้เจอเขามาตั้ง 38 ปีแล้ว พอผมเข้าไปใกล้ เขายังมีรังสีความคลาสสิก ความเป็นคนดัง ความหน้าบึ้งตึงในแบบ แฮร์ริสัน ฟอร์ด ใจผมสั่นมากเพราะผมกลัวว่าเขาจะจำผมไม่ได้ เขาคงคิดว่าผมเป็นแฟนคลับและกำลังจะพูดว่า อย่าเข้าใกล้เขาเชียวนะ แต่เขาก็หันกลับมา และชี้นิ้วมาที่ผม แล้วเขาก็พูดว่า ‘นั่นชอร์ตราวนด์ใช่ไหมน่ะ ? ‘ ผมก็เลยตอบว่า ‘ใช่แล้วอินดี้’ แล้วเขาก็พูดว่า ‘มานี่เลย มากอดกัน’ แล้วเราก็กอดกันแน่นเลยครับ”
อีกคนที่เขากล่าวถึงในบทสัมภาษณ์นี้ก็คือ พ่อมดฮอลลีวูด สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ผู้ให้โอกาสเขารับบท ชอร์ตราวนด์ ประกบกับดาราดังอย่างฟอร์ด ซึ่งถือเป็นโอกาสแรกในชีวิตของเด็กชายควนในวัย 13 ปี และให้โอกาสที่สองแก่เขาในบทเด็กชายดาตา (Data) ในหนัง Adventure Comedy เรื่อง ‘The Goonies’ (1985) ที่สปีลเบิร์กเป็นผู้อำนวยการสร้าง
โดยเขายังได้เผยอีกว่า แม้เขาจะได้รับโอกาสจากสปีลเบิร์กมานานกว่า 37 ปีแล้ว แต่พ่อมดฮอลลีวูดก็ไม่เคยลืมอดีตนักแสดงเด็กคนนี้เลย เพราะเขาเล่าว่า สปีลเบิร์กยังคงส่งของขวัญในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของทุก ๆ ปีมาโดยตลอดมาจนถึงตอนนี้ :-
“ใน ‘Indiana Jones’ ผมเป็นเด็กคนเดียวในนั้น ผมก็เลยได้รับความรักและความเอาใจใส่อย่างดี แต่ใน ‘The Goonies’ เนี่ย ผมเป็นหนึ่งในแก๊งเด็ก 7 คน ฉะนั้น ผมเลยมักจะเรียกร้องความสนใจเยอะหน่อย ซึ่งผมชินมาก เพราะว่าพ่อแม่ผมมีลูกตั้ง 9 คนแน่ะครับ ผมเลยสนุกมาก โดยเฉพาะฉากที่น่าทึ่งพวกนั้น เวลาที่อยู่ในกอง เหมือนผมไปเที่ยวสนามเด็กเล่นเลยแหละ”
“เขาคือคนที่ให้งานแรกกับผม และผ่านมาหลายปี เขาก็ยังไม่เคยลืมผมเลย ทุกครั้งที่ผมต้องการความช่วยเหลือ เขาจะอยู่ตรงนั้นเสมอ”
คีฮุยควน เป็นอดีตนักแสดงเด็กที่เคยมีชื่อเสียงจากผลงานการแสดงในทศวรรษ 1980 เขาเกิดและเติบโตที่เมืองโฮจิมินห์ซิตี (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม เขาย้ายออกจากเวียดนามพร้อมกับพ่อแม่ชาวจีน รวมทั้งพี่สาว 6 คน และพี่ชายอีก 2 คนเพื่อลี้ภัยสงคราม ก่อนที่ครอบครัวของเขาจะปักหลักที่ย่านไชนาทาวน์ ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา
ก่อนที่ทีมคัดเลือกนักแสดงของหนัง ‘Indiana Jones’ ภาค 2 จะแนะนำให้น้องชายของเขาไปออดิชันบทชอร์ตราวนด์ ตอนที่เขาอายุได้ 13 ปี แต่กลายเป็นว่า สปีลเบิร์กกลับชอบคาแรกเตอร์ของควนมากกว่า เขาจึงได้มีโอกาสบินไปร่วมถ่ายทำหนัง ‘Indiana Jones and the Temple of Doom’ ที่ประเทศศรีลังกา โลเคชันหลักของเรื่องในวัย 13 ปี
เขายังกล่าวถึงสปีลเบิร์ก ในฐานะผู้บุกเบิกที่นำเอานักแสดงชาวเอเชียมาปรากฏตัวในหนังฮอลลีวูดยุค 80’s ในช่วงยามที่นักแสดงเอเชียยังไม่เป็นที่ยอมรับนัก หรือถ้ามี ก็มักจะเป็นได้แค่เพียงนักแสดงสมทำหรือตัวประกอบ แม้ว่าตัวของควนเองจะเป็นนักแสดงเด็กที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง
แต่หลังจากที่ควนรับบทใน ‘The Goonies’ และเรื่องอื่น ๆ เขาเองก็เริ่มห่างหายจากวงการฮอลลีวูดตอนที่เขาอายุได้ 20 ปี เนื่องจากวัยที่โตขึ้น และการที่ฮอลลีวูดในเวลานั้นยังไม่ได้มีบทบาทที่เหมาะสมและโดดเด่นสำหรับชาวเอเชียมากนัก จนเขาต้องหันไปทำงานเบื้องหลัง ทั้งเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ และผู้ออกแบบคิวบู๊ในเวลาต่อมา ก่อนที่นักแสดงเอเชีย และเรื่องราวของชาวเอเชียจะกลับมามีบทบาทในฮอลลีวูดอีกครั้งในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา
“สำหรับผม ชอร์ตราวนด์เป็นตัวละครที่แหวกแนวมาก สปีลเบิร์กคือคนแรกที่สร้างใบหน้าแบบชาวเอเชียให้ปรากฏในหนังระดับบล็อกบัสเตอร์ของฮอลลีวูด ชอร์ตราวนด์เป็นเด็กอารมณ์ดี กล้าหาญ เป็นลูกมือของอินดี้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากในตอนนั้น ก่อนที่หลังจากนั้นอีกหลายปี ทุกอย่างจะวนเข้าลูปเดิม”
ที่มา: The Guardian, Variety