ข้าจำเขาได้ แม้ด้วยสัมผัสอย่างเดียวเท่านั้น ข้ารู้ว่าเป็นเขา ต่อให้ตาบอดก็ตาม รู้ได้ด้วยฟังเสียงจังหวะลมหายใจ และเสียงฝีเท้าของเขาย่ำบนผืนดิน ข้ารู้ว่าเป็นเขา แม้ในความตาย ณ สุดขอบโลก - พาโทรคลุสThe Song of Achilles เดอะ ซอง ออฟ อะคิลลิส แค่พูดชื่อเรื่องเท่านั้น เชื่อว่าแฟน ๆ เทพปรณัมกรีกทั้งหลายก็คงจะตื่นเต้นนะคะ เพราะอะคิลลิสเป็นวีรบุรุษในตำนานกรีกที่โด่งดัง ในฐานะนักรบคนสำคัญแห่งสงครามกรุงทรอย และมหากาพย์อีเลียดของโฮเมอร์ก็เรียกว่าเขียนเล่าตามติดชีวิตอคิลลิสเป็นหลักเลยก็ว่าได้ ดังนั้น เมื่อมีนวนิยายเกี่ยวกับเขาได้รับรางวัล Orange Prize ได้รับคัดเลือกเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาในหลายมหาวิทยาลัย แถมยังเป็นนิยายรักชายรักชาย! โอ้โห ใครจะอดใจไม่หยิบมาอ่านได้ล่ะจริงไหมคะก่อนอื่นต้องขออธิบายเท้าความ สำหรับคนที่อาจจะไม่คุ้นเคยกับเรื่องสงครามกรุงทรอย (เพราะเดี๋ยวจะอ่านนิยายไม่รู้เรื่องเลย) จริง ๆ แล้ว ตำนานกรีกโบราณเขียนต่อเนื่องกันละเอียดลออยาวเฟื้อยยยย เต็มไปด้วยผู้คนและเทพเจ้ายุ่งเกี่ยวกันมั่วไปหมดเลย สงครามกรุงทรอยเป็นเพียงตอนหนึ่งของเหตุการณ์ทั้งหมดเท่านั้นนะคะ เหตุการณ์สำคัญ ๆ มีดังนี้1. Golden Apple of Discord มูลเหตุของเรื่องเริ่มจากในงานแต่งงานของพระราชากรีก เพเลอัส กับนางภูตน้ำ เธทิส พวกเขาไม่ได้เชิญ เอริส เทพีแห่งความแตกแยกมาร่วมงาน นางโกรธ ก็เลยโผล่เข้ามาสร้างความร้าวฉานตามหน้าที่ โดยโยนแอปเปิ้ลทองคำมาให้พวกเทพีแย่งกัน ว่าใครสวยที่สุดจะเป็นผู้ได้ไป2. Judgement of Paris เทพีผู้เข้าชิงตำแหน่งสวยที่สุดมี 3 องค์ ได้แก่ เฮร่า ราชินีสวรรค์และเทพีคุ้มครองการแต่งงาน อเธน่า เทพีแห่งสงครามและปัญญา และ อะโฟรไดท์ เทพีแห่งความงามและความรัก เจ้าชาย ปารีส แห่งกรุงทรอยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งแต่ละนางก็ติดสินบนปารีสด้วยสิ่งน่าปรารถนาต่าง ๆ กันไป สุดท้ายปารีสเลือกอโฟรไดท์ เพราะอโฟรไดท์สัญญาว่าจะมอบผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกให้กับเขา3. The Abduction of Helen แล้วผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกนั้นมันใครกันล่ะ คำตอบคือ เฮเลน พระราชินีแห่งสปาร์ต้า ซึ่งปรากฏว่านางมีสามีอยู่แล้ว คือ เมเนเลอัส น้องชายของกษัตริย์กรีกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในขณะนั้น อะกาเมมนอน แต่แน่นอนว่าปารีสได้รับสัญญาจากอะโฟรไดท์แล้ว เขาจึงไม่กลัว มาลักพาตัวเฮเลนไปยังกรุงทรอย (กรุงทรอยนี้อยู่บนเกาะไกลนะคะ ต้องล่องเรือไป) เมื่อเฮเลนโดนลักพาตัวไปเช่นนี้ อะกาเมมนอนก็เห็นเป็นโอกาสดีที่จะได้ตีกรุงทรอยมาเป็นของชาวกรีกเสีย จึงเรียกรวมทัพพระราชา เจ้าชาย และวีรบุรุษทั้งหลาย ล่องเรือไปทำศึกกันค่ะ4. Achilles on Skyros ยังจำเพเลอัสกับเธทิสที่แต่งงานกันได้ใช่ไหมคะ พวกเขามีลูกชายที่เก่งกาจและสง่างามสุด ๆ นั่นก็คือ อะคิลลิส พระเอกของเรานี่แหละค่ะ! แต่เนื่องจากเธทิสเป็นภูตน้ำที่ทำนายอนาคตได้ นางหยั่งรู้ว่าอะคิลลิสจะต้องตายในสงครามกรุงทรอย จึงพยายามต่อชีวิตให้ลูกชายนานที่สุด โดยส่งอะคิลลิสไปแต่งตัวเป็นผู้หญิง ซ่อนตัวปะปนอยู่กับพวกเจ้าหญิงในวังเกาะสไกโรส แต่ในที่สุดแล้ว พระราชากรีกผู้ชาญฉลาด ชื่อ โอดิสเซอุส ก็หาอะคิลลิสเจอ และชวนไปกรุงทรอยได้สำเร็จค่ะ5. The Trojan War เมื่อชาวกรีกแล่นเรือไปถึงกรุงทรอย ทั้งสองฝ่ายก็ทำสงครามกันอุตลุดเป็นเวลาถึง 10 ปี เหตุที่มันยืดเยื้อก็เพราะว่าเทพเจ้าต่าง ๆ เข้ามาส่งพลังช่วยเหลือทั้งสองฝ่าย เช่น เฮร่ากับอเธน่า(ที่ปารีสตัดสินให้ไม่ได้แอปเปิ้ลทองคำ)เข้าข้างฝ่ายกรีก อะโฟรไดท์เข้าข้างฝ่ายทรอย เป็นต้น และพวกกรีกก็มีปัญหาขัดแย้งกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะอะคิลลิส ซึ่งเป็นนักรบใจร้อนลุยอยู่ข้างหน้า กับอะกาเมมนอน ซึ่งเป็นพระราชาที่โลภและบ้าอำนาจ นี่เองก็คือ หนึ่งในปมสำคัญที่นิยายเรื่องนี้จะนำมาเล่นอย่างไรก็ตาม เพียงเปิดหนังสือมาหน้าแรก The Song of Achilles ก็ทำให้แปลกใจค่ะ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เริ่มที่อะคิลลิส วีรบุรุษคนเก่งของเราตามแบบมหากาพย์แต่อย่างใด เรื่องนี้กลับติดตามชีวิตของ พาโทรคลุส เจ้าชายหนุ่มน้อยผู้ตกอับน่าสงสาร ที่ถูกถอดยศเนรเทศออกจากเมืองของตัวเอง ไปอยู่เมืองของอะคิลลิส โดยมีเพเลอัสรับเลี้ยง หนุ่มสาวชาววายคงจะรู้แล้ว ใช่ค่ะ พาโทรคลุสคนนี้จะมาเป็นคู่รักของอะคิลลิสนั่นเอง!ตลอดเรื่อง เราจะได้เห็นพัฒนาการลักษณะนิสัย และความสัมพันธ์ของเด็กหนุ่มทั้งสองไปทีละขั้น ตั้งแต่เด็กในฐานะเพื่อน จนโตไปเล่าเรียนวิชา เรียนรู้ความรักและอารมณ์ปรารถนา และจนกระทั่งไปตั้งค่ายรบที่ชายหาดกรุงทรอยหลายปี อ่านแล้วมันแบบ...ทั้งซาบซึ้ง อ่อนหวาน เชื่อใจ ให้อภัย บีบคั้น โศกเศร้า อิ่มเอม คือนั่งร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร กับความรักและชะตากรรมของอะคิลลิสกับพาโทรคลุส เรากล้าพูดเลยนะ "ไม่มีใครรู้จักโรมานซ์ที่แท้จริง จนกว่าจะได้อ่านหนังสือเล่มนี้" ฮ่า ๆ เว่อร์ไหม แต่มันเหนือกว่านิยายรักทั่วไปบนชั้นหนังสือปัจจุบันจริง ๆตัวละครพาโทรคลุสกับอะคิลลิสแตกต่างกันคนละขั้ว คนหนึ่งไม่มียศไม่มีชื่อเสียงอะไร ขาดความรักจากครอบครัว อ่อนแอ ไม่ชอบการฆ่าฟัน ส่วนอีกคนโด่งดังมาตั้งแต่เกิด มีพลังวิเศษในการรบ เป็นเป้าความสนใจของผู้คน และได้ชื่อว่า Aristos Achaeon ประเสริฐสุดในหมู่ชาวกรีก แต่ที่สุดแล้ว ค่าแห่งความประเสริฐนั้นวัดกันอย่างไร คนแบบไหนจะถือว่าเป็นคนน่ายกย่อง อำนาจใดใช้ตัดสินความยุติธรรม หรือความรักแบบไหนที่จริงแท้ นิยายเรื่องนี้จะชวนให้เราขบคิดมาก ๆ ค่ะ ชื่อเสียงนั้นเป็นของแปลก คนบางคนได้รับเกียรติยศเมื่อหลังจากตายไปแล้ว ในขณะที่บางคนเลือนหายไป สิ่งที่ผู้คนชื่นชมในยุคหนึ่ง กลับกลายเป็นเรื่องชิงชังรังเกียจในอีกยุคหนึ่ง พวกเราบอกไม่ได้หรอกว่าใครจะเหลือรอดจากการฆ่าล้างแห่งความทรงจำ - โอดิสเซอุสสิ่งที่เราชอบที่สุดในเรื่อง คือ การยื้อยุดกันระหว่างทางเลือกและชะตาชีวิตของคน อะคิลลิสเป็นวีรบุรุษที่น่าสนใจตรงที่ เขารู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องตายในสงครามกรุงทรอย ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้อีกด้วยว่าจะเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น ลองจินตนาการดูนะคะว่าเรารู้อย่างนี้ เราจะตัดสินใจทำอย่างไรต่อไปกับชีวิตดี หลายสิ่งที่อะคิลลิสเลือก นอกจากเป็นไปตามสภาพการเลี้ยงดูและผู้คนรอบข้างเขาในขณะนั้น ยังตั้งอยู่บนฐานที่ว่า เขาต้องการมีชื่อเสียงเป็นที่จดจำหลังตายไป ซึ่งก็ดูเหมือนจะยั่งยืนดี (ทุกวันนี้คนทั่วโลกก็ยังรู้จักชื่อเขา และใช้สำนวน Achilles' Heel ที่แปลว่า จุดอ่อน กันอยู่)แต่ในคราวเดียวกันการทำอย่างนั้น ก็ทำให้เขาพลาด "ปัจจุบันขณะ" ของชีวิตเขาไป เหมือนทำนั่นทำนี่เพื่ออนาคตหลังตนเองตายแล้ว ซึ่งก็ทำให้เราได้คิดเหมือนกัน ว่าเวลาเราวางแผนชีวิตและความสำเร็จเราให้ความสำคัญกับอะไร นอกจากนี้ เมื่อชะตากรรมเลวร้ายบางอย่างวิ่งเข้ามาหาเรา แม้จะมีวิธีหลีกเลี่ยงได้ แต่การหลีกเลี่ยงนั้นต้องแลกกับอะไรหรือไม่... แค่เพื่อจะรักษาตัวรอดไว้ เราจะยอมเสียคุณสมบัติ เช่น ความกล้าหาญ ความเห็นแก่ชีวิตเพื่อนมนุษย์ ความยึดมั่นในรัก ไปหรือเปล่านอกเหนือจากเรื่องโครงเรื่องและแนวคิด นิยายเรื่องนี้รังสรรค์อย่างละเอียดประณีต ภาษาสละสลวยลึกซึ้ง กินใจ และมีการศึกษาวรรณกรรมโบราณโดยเฉพาะมหากาพย์อีเลียดมาเป็นอย่างดี ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลยค่ะเพราะว่า นักเขียนนิยายเล่มนี้คือคุณ Madeline Miller ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยบราวน์และมหาวิทยาลัยเยล จบด้านวรรณกรรมคลาสสิค เธอยังเป็นอาจารย์สอนภาษากรีก ภาษาละติน และภาษายุคเชคสเปียร์อีกด้วย! เราจึงสัมผัสได้ว่าแต่ละบรรทัดของหนังสือเล่มนี้อัดแน่นด้วยการศึกษาค้นคว้า ผสานกับจินตนาการที่นำมาตีความใหม่ แต่ไม่ได้มั่ว นาน ๆ ทีได้อ่านงานแบบนี้รู้สึกโชคดีจังเลยนะคะโดยสรุปก็ขอแนะนำ The Song of Achilles สำหรับทุก ๆ คนที่ชอบเทพปกรณัมกรีก หรือหลงใหลนิยายอิงประวัติศาสตร์โบราณ นี่เป็นหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่งเลยค่ะ เรากรี๊ดมันทั้งในฐานะวรรณกรรมภาษาอังกฤษสไตล์มหากาพย์ และกรี๊ดมันในฐานะเรื่องวายสุดฟิน อ่านจบแล้วมีเรื่องให้คิดให้เล่ามากมาย และทำให้นึกหาพวกมหากาพย์ของจริงมาลองอ่านเลย นิยายเจ๋ง ๆ แบบนี้เป็นแรงบันดาลใจการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษให้มากขึ้นด้วยค่ะใครสนใจ เชิญซื้อหนังสือเล่มนี้มาลิ้มรสชาติแห่งรักแท้ ได้ที่ร้านหนังสือคิโนะคูนิยะ ร้านเอเชียบุ๊คส์ หรือร้านหนังสือต่างประเทศทั่วไป สั่งออนไลน์ก็ได้ที่ https://thailand.kinokuniya.com/bw/9781408821985 ราคา 338 บาทค่ะเจ้าลองนึกดูสิว่า มีวีรบุรุษคนไหนบ้างที่ชีวิตมีความสุข? นึกไม่ออกใช่ไหมล่ะ เพราะเทพเจ้าไม่เคยยอมให้มนุษย์ทั้งมีชื่อเสียงและมีความสุขในคนเดียวกัน แต่ข้าจะบอกความลับแก่เจ้า ข้านี่แหละจะเป็นคนแรก เจ้าสาบานสิ... สาบานว่าข้าจะเป็นเช่นนั้น เพราะเจ้าคือเหตุผล - อะคิลลิสเครดิตภาพประกอบ ภาพที่ 1 โดยเจ้าของบทความ ภาพที่ 2 Image by Couleur from Pixabay ภาพที่ 3 Image by Devanath from Pixabay ภาพที่ 4 Image by Diane Tolley from Pixabay