รีเซต

เปิดใจพ่อ “กระติก” ผมเชื่อลูกไม่โกหก

เปิดใจพ่อ “กระติก” ผมเชื่อลูกไม่โกหก
ดาราเดลี่บันเทิง
5 เมษายน 2565 ( 14:15 )
203

เปิดใจพ่อ “กระติก” ผมเชื่อลูกไม่โกหก
      5 มีนาคม 2565 จากกรณีที่ “กระติก อิจศิรินทร์”  เดินทางมายังศาลอัยการจังหวัดนนทบุรี โดยถูกพนักงานสอบสวนนำสำนวนคดีส่งฟ้องตามข้อกล่าวหาผู้ให้การเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 คดีการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา”  หลังผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และเนื่องจากเป็นคดีย่อย ที่มีอัตราโทษไม่เกิน 3 ปี ตามกฎหมายทั่วไป จำเลยรับสารภาพแล้วพนักงานสอบสวนต้องนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องด้วยวาจาที่ ศาลแขวงนนทบุรีภายใน 48 ชั่วโมง

อ่านต่อ:ออกหมายจับ “แซน วิศาพัช” | daradaily | LINE TODAY

        “วิวัฒน์ สมบัติหลาย” ทนายความ “กระติก อิจศิรินทร์” ให้สัมภาษณ์กรณีคดี “แตงโม นิดา” มายื่นคำร้องแก่ศาลเพื่อให้พิจารณาดคีว่าเราน้อมรับคำวินิจฉัยของอัยการ คือทาง  “กระติก อิจศิรินทร์” ได้ยื่นคำร้องไปให้ศาลวินิจฉัยมาว่าทางผู้ต้องหารับสารภาพให้แล้วเสร็จ เป็นสิทธิแต่ศาลแจ้งจะวินิจฉัยคำร้องให้ ทางกระติก ประสงค์ ให้วินิจฉัย เรื่องให้การเท็จ ให้แยกฟ้องหรือรวมกันไป 
       ถามว่าจำเลย กังวลอะไรไหม เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ยื่นได้ จำเลยไม่เห็นพ้องอัยการที่รอคดีหลัก เขารับสารภาพในชั้นสอบสวนก็อยากให้จบเร็วๆ เราไมได้ตำหนิใคร เป็นประเด็นทางข้อกฎหมาย  ข้อเท็จจริงมีหนึ่งเดียว เป็นประเด็นทางข้อกฎหมาย ทางศาล กรณีอย่างนี้ อัยการมองว่ารอคดีหลักไหม เราแจ้งว่าแยกฟ้องได้เลย ศาลก็บอกให้รอวินิจฉัย 

       ถามคือคำสั่งศาลวันนี้สำคัญไหม หากว่าเราแยกออกจากคดีหลัก เราสารภาพไปแล้ว ผมไม่ซีเรียส คือภายใน 6 วัน อยู่ที่พนักงานสอบสวน ผมยื่นคำร้องไปตามสิทธิ การที่เลื่อนไป ไม่เป็นผลเสียกับกระติก สื่อก็อยากทราบว่าผลการตัดสินผลของกระติกเป็นอย่างไร คาดว่าพนักงานสอบสวนจะกันเป็นพยาน  
      ถามว่าผมต้องการทำให้คดีเสร็จสิ้นรวดเร็วไหม จริงๆ ถ้าเราเป็นผู้ต้องหา อยู่ที่เราจะรับหรือสู้คดี เป็นเรื่องปกติของการดำเนินคดีไม่มีนัยยะอะไร ถ้าพนักงานสอบสวนช้าก็ 157 
ถ้ารวมคดีใหญ่ ผมไม่กังวล ไม่สามารถแปรเป็นอื่นได้ 

        ด้านพ่อของ “กระติก อิจศิรินทร์” ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางมาให้กำลังใจบุตรสาวว่ากรณีดังกล่าวนี้ ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูกก็รอให้ศาลตัดสิน ผิดก็ต้องยอมรับ 
       ที่มาวันนี้คือ ลูกผมโดนแจ้งข้อกล่าวหาผมก็มาหาทนาย ก็มาปรึกษาเขาก็ชวนกระติกมาคุยกับทนาย  ถามว่าผมตำหนิลูกไหม ชีวิตคนเราต้องแกร่ง ถามว่าเขาสวมควรโดนตำหนิไหม สังคมอาจจะตราหน้าว่าบ้านผมไม่ดี  ลูกผมไม่ดี 
      กระแสสังคมพาดพิงต่อว่าครอบครัวผม ถามว่าพ่อเอาเรื่องไหม ถ้าเราเอามาคิดก็เป็นทุกข์ คนด่าเราก็โมโห ถ้าไม่เห็นแต่เอามาทุกข์ อานาคต ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 
      หลังจากเกิดเหตุ “กระติก”  ไปปรึกษาอะไร โทรบอกผม ผมบอกโตแล้วลองคิดเอา ถ้าไม่ไหว ก็จะมาช่วย ลองมาเป็นตัวมันดู เหมือนไปกับเพื่อน อยู่บนรถ ตกตาย เราไม่เห็นจะรู้สึกไง
      ถามว่าผมเชื่อคำพูดของลูกเราไหม ก็ไม่ต่างกัน ถ้าผมบอกถ้าผิด ก็คือผิด ไม่ได้เข้าข้าง อยู่ที่ ที่มันจะเกิดในอนาคต น้อยใจอะไรไหมที่ลูกเป็นแบบนี้ หลายครอบครัว ที่มีปัญหาเราน้อยใจลูกไหม
      พูดไปก็ทะเลาะสังคม เขามีเหตุผล เราเข้าใจ ผมไม่เคยทิ้งเพื่อน กระติกก็ไมเคยทิ้งเพื่อน ทุกคนคิดว่ากระติกโกหก ผมเชือว่ากระติก ไม่ได้โกหก ถ้าเขาผิดผมจะพาเขาส่งไปเรือนจำ
       ถามว่าตอนนี้กระแสโซเชี่ยลด่าว่าเรามากขนาดไหน ผมว่าแล้วแต่จะคิด ถ้าญาติเราโดนแบบนี้ แต่เราพูดความจริง เขาไม่ได้มายืนชี้หน้าด่าผม เหมือนพวกเรา ใครมายืนชี้ด่าหน้าบ้าน คุณโกรธไหม ตอนนี้ก็ให้กฎหมายให้ดำเนินการไป