วุ้นเส้น มูแล้วปัง อยากรวย ไม่เน้นเรื่องรัก คบนักธุรกิจ นิกม์ ลงตัวไม่กดดันเพื่อนมีลูก

มูแล้วปัง วุ้นเส้น วิริฒิพา เน้นขอเรื่องธุรกิจเพราะอยากรวย ไม่เน้นเรื่องรัก คบนักธุรกิจหนุ่ม นิกม์ ธนะภูมิกุล แฮปปี้ ไม่กดดันเพื่อนๆ มีลูกแล้ว

เพิ่งกลับมาจากเดินสายมูเตลูก ที่ถ้ำนาคา กับมดดำ คชาภา สำหรับวีเจสาวสวย วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ที่เจ้าตัวบอกเลยว่าเน้นขอเรื่องธุรกิจให้ก้าวหน้าอย่างเดียว เพราะอยากรวยให้เงินไหลมาเทมา ไม่เน้นเรื่องความรัก ส่วนความสัมพันธ์กับหวานใจนักธุรกิจหนุ่ม นิกม์ ธนะภูมิกุล แฮปปี้ไม่เปิดตัวและไม่ได้ปิด

ช่วงนี้ดูเหมือนเที่ยวเยอะมาก? “ไม่ๆ คือก่อนหน้านี้ไปต่างประเทศแล้วไปนานมาก พอกลับมาก็ต้องอยู่ภูเก็ตอีก 2 อาทิตย์กักตัว หลังจากนั้นก็มีทริปไปทำบุญไหว้พระขึ้นถ้ำอะไรต่างๆ”

ไปขอเรื่องความรักเป็นพิเศษเลยไหม? “ไม่ได้ขอเรื่องความรักเลย ไม่เคยขอ ขอเงิน(หัวเราะ) ขอธุรกิจค่ะ ขอเซวาให้เจริญรุ่งเรือง ตอนนี้มันต้องอย่างนี้แล้ว (หัวเราะ)”

ปีนี้ทะลุเป้าไหม เซวา ของเรา? “โควิด 2 ปีก็เหนื่อยนิดนึงแต่ก็ยังดีที่มันไปได้ค่ะ ลูกค้ายังไว้ใจและใช้ของเราอยู่ แต่ปีหน้าก็หวังเยอะเหมือนกัน”

เราก็ยังดูแลน้องๆ ในทีมเหมือนเดิมใช่ไหม? “เหมือนเดิม จะบอกว่าบริษัทวุ้นพนักงานไม่ได้เยอะมาก เลยไม่มีใครออกไปไหน ทุกคนก็ยังอยู่และเรายังไหวอยู่”

ผลกระทบมีเยอะไหม? “มีค่ะ เพราะว่าโควิดทุกคนก็ใช้เงินน้อยลง แต่โชคดีที่เราทำมาก่อนหลายปี เรามีลูกค้าประจำที่เขากลับมาซื้อซ้ำหลายรอบเลยยังอยู่ได้ แต่โควิดก็มีตกไปเยอะ”

เจ็บเยอะไหม? “ไม่ถึงขั้นนั้น แต่มันก็มี มันเสียดาย 2 ปีที่เราน่าจะโกยได้เยอะกว่านี้ แต่ยังดีที่เรายังทำให้แบรนด์เรายังอยู่ในใจของประชาชนอยู่ได้ เพราะเราก็เสียดายบางคนทำมาแล้วท้อก่อน แต่เราก็สู้ ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรเราก็ไปต่อได้ แต่ปีหน้าน่ากลัวมาก โปรเจ็กต์เยอะมาก ก็เตรียมเหนื่อยค่ะ ก็หวังว่าเศรษฐกิจจะดีค่ะ”

ของเราดีด้วย มูเก่งด้วย? “มูเก่งด้วยค่ะ ก็พยายามค่ะตามพี่มดดำบอก พี่มดดำเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเซวาไง เขาบอกว่าไปไหว้ที่นี่แล้วจะดี เพราะชีวิตเขาก็เงินทองไหลมาเทมา เราก็บอกให้พาไปบ้าง เขาก็เลยพาไปไหว้”

เห็นว่าขึ้นถ้ำเหนื่อยมาก? “ขึ้น 5 ชม. ลง 5 ชม. เหนื่อย รู้สึกว่าถ้าแก่กว่านี้อาจจะไม่ไหว (หัวเราะ) แต่พอขึ้นไปทั้งเด็กและคนที่อายุมาก 70-80 ปี เขาก็ยังขึ้นได้อยู่เลย เลยคิดว่าทุกคนน่าจะไหวอยู่ค่ะ ทางเดินมันก็ยากแหละ แต่อากาศมันก็ไม่ได้ร้อนมากขนาดนั้น มันก็ยังมีต้นไม้เหมือนเดินป่า ก็สบายๆ”

กลับมาแล้วโอเคไหม? “เพิ่งกลับมาเอง รอแป๊บนึงสิ(หัวเราะ) แต่จริงๆ เราขอเผื่อปีหน้า ไม่ได้ขออะไรเกี่ยวกับวงการเลย แต่กลับมาก็มีงานติดต่อเข้ามาเยอะขึ้น ส่วนใหญ่ 100% ขอเรื่องธุรกิจอย่างเดียว แต่คงเป็นผลพลอยได้มากกว่า”

ไม่ได้ขอเรื่องอื่นเลยเหรอ? “เหมือนเขาขอไม่ได้ (หัวเราะ)”

เพราะความรักกับ นักธุรกิจหนุ่ม นิกม์ ธนะภูมิกุล ดีอยู่แล้วใช่ไหม? “ก็โอเค ความรักก็ไม่ได้ปกปิดและไม่ได้เปิด เป็นแบบนี้แหละเหมือนเดิม คือเราอยู่ในวงการมานานแล้ว เรารู้สึกว่าพอทำธุรกิจมันก็ต่อยอดในอนาคตได้ เพราะตอนนี้ถ้าทำงานในวงการ เราก็อายุมากแล้ว คือเราทำมานานแล้วจริงๆ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมีธุรกิจที่มันมั่นคงและไปต่อในอนาคตได้ และเราก็ทุ่มเทกับมันมาก”

ความรักไม่ได้มุ่ง? “ก็ไม่ได้เน้นเรื่องนั้นมาก เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องสู้(หัวเราะ) ความรักมันต้องปล่อยไปตามความรู้สึกและธรรมชาติที่มันรู้สึก อย่างอื่นมันเหนื่อยกว่า เพราะฉะนั้นเราไปทำอะไรที่มันต้องใช้พลังแรงกายแรงใจมากกว่าดีกว่า ส่วนตรงนั้นก็ให้เป็นกำลังใจไป”

แต่เขาก็ซัพพอร์ตเราดีใช่ไหม? “ค่ะ โอเคเลยค่ะ ก็ไม่อยากพูดเยอะ (หัวเราะ)”

แก๊งเพื่อนๆ ก็มีลูกกันแล้ว? “ไม่อยากเหมือนเพื่อนคนอื่น คือทุกคนโอเคอยู่แล้วแฮปปี้ก็ดีใจด้วย แต่ไม่ใช่ว่าวันหนึ่งฉันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ คือเราแฮปปี้ดีแล้ว เราไม่ได้มีภาพว่านี่คือความฝันของเราต้องมีอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะเราก็มีประสบการณ์เยอะ และเราก็แฮปปี้กับปัจจุบันแล้ว เพราะฉะนั้นอนาคตถ้าดีก็จะได้เห็นกันเอง”

เพื่อนๆ ไม่ได้กดดันไหม? “มีลูกกันไปหมดแล้ว เราก็แฮปปี้ในแบบของเรา”

เห็นมีไปชนท้องกับพิตต้า? “ไม่โดน ใจเย็นค่ะ”

เป็นความตั้งใจให้ไม่โดนหรือไง? “ไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย คนก็แซวเหมือนกัน เราก็เห็นแหละ”

เรื่องลูกมันห่างไกลเราเลยใช่ไหม? “ไม่อยากจะพูดไป เพราะพูดไปมันก็มีหลายความคิดเห็น เรารู้สึกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตเราเดี๋ยวก็คงเห็นกันเอง เราไม่ได้แพลนอะไรขนาดนั้น มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ไม่ได้ซีเรียส”

เพราะแป้ง(อรจิรา)เองก็เพิ่งคลอด? “ใช่ค่ะ น่ารักเนอะ เป็นป้าอีกแล้ว (หัวเราะ) แต่เขาไม่ได้อยู่เมืองไทย ก็รอไปเยี่ยมอยู่”

อย่างแป้งเขาก็เซอร์ไพรส์ เราจะมีไหม? “ไม่มีค่ะ (หัวเราะ) คือเราคุยกันก่อนว่าถ้ามีอะไรเราคุยกันก่อน แต่ไม่มีแน่นอน เพราะวุ้นว่าตอนนี้ก็ยังโอเค ค่อยๆ ใจเย็นนะจ๊ะ (ยิ้ม)”

เขาเป็นห่วงเราเรื่องการทำงานไหม? “ก็มีนะคะ แต่ไม่ได้หนักหนาอะไรมาก เพราะเราก็สามารถรับมือได้กับทุกอย่าง”

รุ่นๆ เดียวกับเราเขามีลูกกันหมดแล้ว เรามีเปลี่ยนความคิดไหม? “จะบอกว่าวุ้นก็มีเพื่อนอีกเยอะแยะมากมายที่ไม่มีลูกเหมือนกัน (หัวเราะ) มันครึ่งต่อครึ่งเลย คนที่มีลูกก็จะมีความสุข ก็มีอะไรมาเล่าในแบบของตัวเอง แต่ส่วนคนที่ไม่มีก็จะมีความสุขอีกแบบนึง ไม่เหนื่อยมาก คือเราไม่ได้อยากเป็นแบบไหน เราแค่รู้สึกว่าถ้าเราพร้อมทุกอย่างก็คงมีอะไรเกิดขึ้น แต่ว่าตอนนี้เรายังไม่ได้คิดอะไร”

ตอนนี้ความสุขของเราคืออะไร? “ทำงาน สร้างแบรนด์ให้ดังๆ (หัวเราะ) อยากรวย”

แต่เราก็รวยแล้วนะ เพราะปีหน้าแบรนด์ก็จะไปเมืองนอกแล้ว? “จริงๆ พอมันเริ่มแล้วตั้งแต่ปีแรกจนถึงปีนี้ปีที่5 วุ้นอยากให้มันโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นปีนี้ปีที่5 แล้ว หลังจากนี้อีกหลายๆ ปีมันก็ควรโตขึ้นตามที่เราหวังไว้ แต่ก็มีเป้า ถ้ายังไม่ถึงเป้าก็แสดงว่ายังไม่สำเร็จตามนั้น”

แสดงว่าทุกวันนี้งานก็ดี รักก็ดี? “โอเค (หัวเราะ)”

ความสำเร็จของเราคืออะไร? “ตอนนี้ชีวิตส่วนตัววุ้นดีอยู่แล้ว ไม่ได้ประสบความสำเร็จว่าต้องจัดงานแต่งงาน ต้องมีลูกกี่คน อันนี้มันเป็นมาตรฐานของแต่ละคน ทุกวันนี้วุ้นแฮปปี้กับชีวิตที่มันเป็น แล้วก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน และเราตั้งใจทำงานของเราให้ดีที่สุด ถ้าเกิดงานที่เราตั้งใจมันมีฟีดแบ็กกลับมาดีมาก และทำให้เราหายเหนื่อย อันนี้คือเรารู้สึกว่าประสบความสำเร็จแล้วล่ะ แต่ว่าจุดสูงสุดวุ้นยังพูดไม่ได้ว่าประสบความสำเร็จถึงขั้นไหน วุ้นยังปั้นอยู่ให้มันโตขึ้นไปอีก”