Itaewon Class (JTBC/2020) ธุรกิจปิดเกมแค้นสามารถรับชม Itaewon Class (JTBC/2020) และผลงานอื่น ๆ จาก Netflix ได้แล้วทางกล่อง TrueID TVช่วงหลังมานี้ผลงานซีรี่ส์ของเกาหลีต้องบอกว่าพัฒนาไปได้ไกลมาก ด้วยความหลากหลายของเนื้อหาที่เป็นตัวเลือกให้แก่ผู้ชม สร้างสรรค์งานออกมาครบรสทุกแนวไม่ว่าจะดราม่า โนแมนติก สืบสวน การแพทย์ เรียกว่าออกมาเยอะจนผู้ชมอย่างเรา ๆ ตามดูแทบไม่ทัน ร่วมทั้งผลงานรีเมคจากเว็บตูน (webtoon) ที่เริ่มเป็นที่นิยม เช่นเดียวกับ Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น เรื่องนี้ที่ความน่าสนใจไม่เพียงสร้างจากเว็บตูนที่มีชื่อเสียง แต่ยังรวมถึงเนื้อหาที่เข้มข้นชิงไหวชิงพริบทางธุรกิจ ในบางมุมมองยังสร้างแรงผลักดันการดำเนินชีวิตได้ดีอีกด้วยพัคแซรอย (Seo-joon Park) เด็กหนุ่มหัวรั้นลูกชายของ พัคซึงยอล (Son Hyun-Joo) พนักงานของชางกา บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอาหารของเกาหลีใต้ แซรอย เป็นเด็กหนุ่มใช้ชีวิตแบบอุดมคติที่ภาคภูมิใจในตัวเอง เขาใฝ่ฝันจะเป็นตำรวจที่คอยให้ความช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่า แต่การเป็นคนไม่ยอมคนทำให้เพียงแค่วันแรกในโรงเรียนใหม่ เขาก็ทนเห็น อีโฮจิน (Da-wit Lee) เพื่อนร่วมชั้นถูกกลั่นแกล้งจาก ชางกึนวอน (Ahn Bo-Hyun) ไม่ได้ ลงมือตอบโต้ด้วยความรุนแรงกลับไป แล้วใครจะไปคิดเล่าว่า ชางกึนวอน นั้นจะเป็นลูกชายของ ชางแดฮี (Jae-myung Yoo) ประธานบริษัทจอมโหดแห่งชางกาเจ้านายของพ่อตัวเองด้วยความยึดมั่นในอุดมคติของ แซรอย เขาจึงไม่ยอมก้มหัวให้กับใครหน้าไหนหากเห็นว่าไม่ถูกต้อง มันจึงสร้างเรื่องราวมากมายรวมถึงโศกนาฏกรรม ที่กลายเป็นปมความความแค้นระหว่างเขากับชางแดฮี ทำให้ แซรอย ตั้งปณิธานไว้กับตัวเองว่าวันหนึ่งเขาจะกลับมาทำลายชางกาให้ย่อยยับ ให้สมกับสิ่งที่ ชางแดฮี และลูกชายได้สร้างความเจ็บแค้นไว้กับเขาซีรี่ส์จากเว็บตูนที่ผมเห็นในตอนแรกไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่ ด้วยเห็นคอสตูมเสื้อผ้าหน้าผมแปลก ๆ เข้าใจว่าสร้างจากเว็บตูนเลยมีความแฟนตาซีหน่อย ๆ แต่พอดีต่ออายุ Netflix ไว้ดู Kingdom พอดีประกอบกับชอบนางเอก คิมดามี มาจากหนังแอคชั่นเรื่อง The Witch: Part 1. The Subversion ก็เลยลองวางอคติเปิดใจดู เพียงแค่ตอนแรกที่ดูเท่านั้นก็เล่นเอาสนุกจนติดหนึบ ดูแบบยาว ๆ แปดตอนรวดเลย ฮ่าฮ่า ซีรี่ส์เล่นกับความรู้สึกคนดูค่อนข้างเยอะ ด้วยการใช้ความอยุติธรรมมากลั่นแกล้งตัวละครเอก แน่นอนว่าผู้ชมอย่างเราก็เลยต้องเอาใจช่วยลุ้นให้ พัคแซรอย ผ่านเรื่องราวร้าย ๆ ไปให้ได้อันที่จริงแล้วซีรี่ส์ที่ดูฉูดฉาดทั้งเนื้อหาสีสันแล้วก็การแต่งตัวเรื่องนี้ แถมพูดถึงเรื่องราวของเกมธุรกิจในโลกสมัยใหม่ แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้ซีรี่ส์สัมผัสกับความรู้สึกคนดูได้ง่าย ก็เพราะหากแยกเอาความใหม่ออกไปแล้ว เนื้อเรื่องในแบบ “แกฆ่าพ่อฉัน สิบปีล้างแค้นไม่สาย นางเอกผู้เสียสละ” อะไรทำนองนี้มันอยู่คู่กับโลกของละครมาแต่ไหนแต่ไร เพียงแต่สิ่งที่ซีรี่ส์ Itaewon Class เรื่องนี้ทำได้ดีเยี่ยมคือการเติมความใหม่ ของโลกร่วมสมัยเข้าไปเช่น การทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน การเป็นสตาร์ทอัพ (Start Up) ที่ก่อร่างสร้างตัวจากศูนย์ ซึ่งมันเป็นความใฝ่ฝันของเด็กหนุ่มสาวยุคนี้ ที่ใคร ๆ ต่างก็อยากเป็นนักธุรกิจสตาร์ทอัพ มี แฟรนไชส์ หลายสิบสาขา จนไปถึง สตาร์ทอัพ ระดับยูนิคอร์น มูลค่าระดับ 1,000 ล้านดอลลาร์ส่วนที่ผมชอบในซีรี่ส์ Itaewon Class เรื่องนี้ก็คือการเปลี่ยนความแค้นเป็นแรงผลักดันชีวิต แน่ล่ะว่าความแค้นของ พัคแซรอย เป้าหมายของเขาเป็นการทำลายชางกากับชางแดฮี แต่ประเด็นสำคัญที่เปลี่ยนมุมมองผู้ชมไป เขาไม่ได้ใช้วิธีการทำลายด้วยกำลังความรุนแรงหรือทำให้เสียเลือดเนื้อ เขาเปลี่ยนความแค้นเป็นการสร้างเนื้อสร้างตัวสร้างธุรกิจขึ้นมา เพื่อหวังว่าวันหนึ่งเขาจะยิ่งใหญ่กว่า ชางแดฮี สามารถลบชื่อ ชางกา ออกไปได้ และใช้ชีวิตได้อย่างอิสระไม่มีใครมาทำร้ายคนของเขาได้อีก มันเลยเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมเมื่อ Itaewon Class เลือกใช้ความอุดมคติของ พัคแซรอย ที่แม้จะขับเคลื่อนชีวิตด้วยความแค้น แต่เขาก็ใช้แรงขับนั้นพัฒนาตัวเองและคนรอบข้างไปพร้อมกันนอกจากตัวละคร พัคแซรอย ที่ผู้ชมน่าจะชื่นชอบแล้ว ตัวละครหนึ่งที่มีกระแสวิจารณ์ในทีแรกค่อนข้างเยอะอย่าง โชอีซอ ที่รับบทโดย คิมดามี ก็น่าจะเป็นที่รักของแฟนซีรี่ส์เช่นกัน ด้วยความที่เป็นผู้หญิงเก่ง สายลุย ชัดเจนในความรู้สึก แต่ด้านหนึ่งเธอก็น่าสงสารที่ดันไปตกหลุมรักคนที่เขาไม่รักตอบ กลับกันกับอีกหนึ่งตัวละครซึ่งกลายเป็นที่น่าหมันไส้ของผู้ชม โอซูอา ที่รับบทโดย ควอนนารา หญิงสาวที่เป็นรักแรกของ พัคแซรอย ผู้หญิงที่ทำให้คนไม่ชอบหน้ากันทั้งบ้านทั้งเมือง ฮ่าฮ่า แต่ส่วนตัวผมออกจะเห็นต่างจากคนอื่นในบางมุมนะ ผมเห็นว่าตัวละคร ซูอา ก็น่าสงสารไม่น้อยเหมือนกัน เมื่อเธอมีปมในใจตั้งแต่เด็กทำให้มักจะนึกถึงตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก สุดท้ายเธอต้องตกอยู่ระหว่างกลางบุญคุณกับความรัก แม้หลายคนจะบอกว่าเธอไม่เคยทำอะไรให้กับฝ่ายชายเลย แต่จะมีผู้หญิงสักกี่คนกันล่ะที่รอผู้ชายคนหนึ่งมาได้นานขนาดนี้ อันที่จริงแม้จะอยู่ฝ่ายตรงข้ามแต่เธอก็ไม่เคยทำร้ายเขาเลย สิ่งเดียวที่เธอขาดหายไปก็คือ ประสบการณ์ร่วม เมื่อความรักมันสำคัญที่แสดงให้กันและกันเห็นว่ารัก การที่ ซูอา นึกถึงแต่ตัวเองเสมอมันจึงทำให้เธอพลาดโอกาสสร้างประสบการณ์นั้นไป ส่วนผู้หญิงแบบ โชอีซอ หากเอามาตรฐานผู้เขียนเป็นตัววัด คงบอกได้เลยว่าผู้ชายแพ้ผู้หญิงสายนี้ที่ชัดเจนในความรู้สึก เธอแกร่งจนทำให้ผู้ชายรู้สึกมี “สภาวะทิ้งตัว” กับผู้หญิงคนนี้ได้ ไม่ต้องมีความกังวลใจหรือกังขาอะไรในตัวเธอเลย (นอกจากกลัวจะไปตีกับคนอื่น ฮ่าฮ่า)อีกคนหนึ่งที่แม้จะเป็นตัวละครสมทบ แต่เธอก็ได้คะแนนนิยมไปจากซีรี่ส์ Itaewon Class เรื่องนี้ก็คงไม่พ้น มาฮยอนอี ที่รับบทโดย อีจูยอง เธอต้องรับบทเป็น ทรานเจนเดอร์ หรือ ผู้หญิงข้ามเพศ ที่มีอะไรหลายอย่างให้ก้าวข้าม ทั้งในแง่มุมการพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง รวมถึงการพิสูจน์คุณค่าในตัวเองของสิ่งที่เธอเป็นอีกด้วย มีอยู่สองตอนของซีรี่ส์ที่ต้องยกความดีความชอบให้กับเธอเลยว่าเอาอยู่ สามารถดึงความรู้สึกร่วมของผู้ชมได้ แม้เราจะรู้ว่าเธอไม่ใช่ ทรานเจนเดอร์ จริง ๆ แต่ด้วยบทและการแสดงของ อีจูยอง มันดึงผู้ชมเข้าไปสัมผัส ความรู้สึกของการบอกว่า “ฉันที่ยืนอยู่ตรงนี้ นี่แหละคือตัวฉัน ไม่มีใครมากำหนดคุณค่าของสิ่งที่ฉันเป็นได้นอกจากตัวฉันเอง” เป็นซีรี่ส์ที่บอกให้เราเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง สะท้อนผ่านแต่ละตัวละครที่อยู่รายล้อม พัคแซรอย ไม่ว่าจะ มาฮยอนอี อย่างที่ผมกล่าวถึงไป ชเวซึงควอน อดีตนักโทษที่มองคุณค่าชีวิตตัวเองติดลบ แต่ พัคแซรอย ก็ชี้นำทางและพิสูจน์ให้เห็นว่า คุณค่าชีวิตของเราเราเป็นคนกำหนดเอง หรือหนุ่มลูกครึ่งผิวสี โทนี่ แม้ซีรี่ส์จะไม่ได้ขับเน้นเรื่องราวของเขาออกมามากนักนอกจากใช้เชื่อมโยงบางตัวละคร แต่ โทนี่ ก็เป็นหนึ่งในตัวละครที่สื่อถึงความแตกต่างและการยอมรับความต่าง ในเรื่องของเชื้อชาติภาษาได้ชัดอีกเจนอีกตัวละครหนึ่งอีกสิ่งที่ผู้ชมจะได้จากซีรี่ส์เรื่องนี้ก็คือ ความแตกต่างระหว่างพ่อสองคนอย่าง พัคซึงยอลกับชางแดฮี ที่คนหนึ่งสอนให้ลูกชายยืดอกภูมิใจในความดีที่เขาเชื่อมั่น ส่วนอีกคนกลับสอนลูกให้มองคุณค่าในคนไม่เท่ากัน สุดท้ายแล้วลูกชายคนหนึ่งมองชีวิตตัวเองย้อนกลับไป แม้จะผ่านความลำบากแสนสาหัสมากมายแต่เขาไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจ แต่ลูกชายอีกคนเมื่อมองย้อนชีวิตกลับไป กลับเห็นภาพพ่อตัวเองทอดทิ้งและทำให้ชีวิตเขาเลวร้ายอย่างที่เป็นอยู่สรุปแล้ว Itaewon Class (JTBC/2020) ธุรกิจปิดเกมแค้น เป็นซีรี่ส์ที่ใช้วัตถุดิบเดิม ๆ มาปรุงด้วยรูปแบบวิธีการสมัยใหม่ ทำออกมาได้ดีงาม ลงตัว ตอบโจทย์ในทุกแง่มุมที่ซีรี่ส์เรื่องหนึ่งจะสามารถทำได้ ไม่ว่าจะความบันเทิง สาระ แง่คิด ความร่วมสมัย ซีรี่ส์เรื่องนี้มีให้อย่างครบรส เรียกได้ว่าเป็นซีรี่ส์ดี ๆ จาก Netflix อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะDirected by : Kang Min-goo (강민구), Kim Seong-yoon (김성윤)ขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบบทความจากซีรี่ส์ : Itaewon Class (JTBC/2020) Netflixสามารถรับชม Itaewon Class (JTBC/2020) และผลงานอื่น ๆ จาก Netflix ได้แล้วทางกล่อง TrueID TVเขียนโดยแอดมิน เพจ ปีนรั้วดูหนัง