รีเซต

"เบลล์ นันทิตา" เปิดใจคืนดี “สตีฟ” แต่ให้เวลาพิสูจน์ตัวเอง 1 เดือน ฝ่ายชายสัญญาจะไม่ทำพลาดอีก

"เบลล์ นันทิตา" เปิดใจคืนดี “สตีฟ” แต่ให้เวลาพิสูจน์ตัวเอง 1 เดือน ฝ่ายชายสัญญาจะไม่ทำพลาดอีก
EntertainmentReport2
9 พฤศจิกายน 2566 ( 17:10 )
119

เริ่มต้นใหม่กับคนเดิม “เบลล์ นันทิตา” วันนี้ควงสามีหนุ่มชาวญี่ปุ่น “สตีฟ สตีเว่น ฮิโรชิ อิมามูระ” มาเปิดใจ หลังรีเทิร์นความรักอีกครั้ง พร้อมเดิมพันสัญญา พาคุณสามีเข้าพิธีบายศรีสู่ขวัญที่บ้านเกิด อนาคตมีแพลนย้ายครอบครัวกลับมาเมืองไทย ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

"เบลล์ นันทิตา" เปิดใจคืนดี “สตีฟ” แต่ให้เวลาพิสูจน์ตัวเอง 1 เดือน

 ล่าสุดเบลล์พาสตีฟเข้าพิธีบายศรีสู่ขวัญที่โคราช?
เบลล์ : ใช่ค่ะ เราสองคนคุยกันเกี่ยวกับคำสาบานอีกครั้งนึง เวลาแต่งงานของอเมริกัน จะมีการพูดคำสาบาน ดูแลกันไปตลอด เขาก็ถามเบลล์ว่าถ้าอยากทำในไทยเวอร์ชั่นต้องทำยังไง ก็มานั่งนึกอยู่เหมือนกัน ของเราไม่มีพิธีแบบนี้ ถ้าแต่งงานก็แต่งงานเลย ก็เลยคิดว่างั้นเราควรทำบายศรีสู่ขวัญ เพราะเราเป็นคนอีสาน ให้ผู้ใหญ่มาอวยพรให้อีกครั้งนึง

 สตีฟ : ไม่เข้าใจคำว่าบายศรีสู่ขวัญ แต่ชอบมาก ไม่ว่างานที่เกิดขึ้นและคนที่มาร่วม พราหมณ์ที่มา ทำให้รู้สึกถึงอะไรแปลก ๆ ได้

 เบลล์ : ก็เรียกว่าเป็นการเริ่มต้นครั้งใหม่ได้ ตอนนั้นเราจะจบกันจริง ๆ แล้ว ครั้งนี้ก็เป็นการให้โอกาสและเริ่มต้นชีวิตใหม่ของทั้งคู่

 สตีฟ : ถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่สดใสมาก ๆ

 คนอีสานจะรู้สึกว่าพิธีนี้พูดแล้วต้องทำตามนั้นจริง ๆ สตีฟเพิ่งเข้าพิธีครั้งแรก รู้สึกเหมือนมีอะไรมองเขา?

สตีฟ : ไม่ได้เห็น แต่สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจของพราหมณ์ มันเป็นความขลังที่อธิบายไม่ได้

 อยากให้สัญญาและประกาศต่อหน้าคนทั้งประเทศ ว่าจะรักผู้หญิงคนนี้ตลอดไป?

สตีฟ : สัญญาว่าจะรักตลอดไป จะดูแลผู้หญิงคนนี้ให้ดีที่สุด และจะไม่ทำพลาดเหมือนในอดีตอีก

 เบลล์ : ขอบคุณค่ะ เบลล์ด้วย จะเป็นภรรยาเวอร์ชั่นใหม่ ที่ดีที่สุด จะจับมือและสู้ชีวิตด้วยกันตลอดไป

 

 แต่งงานใหม่ นับหนึ่งกันใหม่ ให้ย้อนวันที่เกือบยุติความสัมพันธ์?

สตีฟ : จริง ๆ เบลล์อยู่อันดับท็อปของผม เป็นนักร้องระดับประเทศของเมืองไทย พอได้มาคบ มาแต่งงาน ทุกอย่างเหมือนขึ้นสวรรค์ แต่ตอนโควิด บริษัทผมและหลายๆ บริษัทปิดขึ้นมา ช่วงคับขันตอนนั้นมีค่าเช่าบ้านต้องจ่าย มีบิลต้องจ่าย แต่ไม่มีเงินเข้ามาเลย เครียดทั้งคู่ เลยบอกเบลล์ว่าเบลล์อาจต้องกลับเมืองไทย และเราจะอยู่ที่อเมริกา

 เบลล์ : เขาโฟกัสธุรกิจมากจนเกินไป จนลืมไปว่าภรรยาอยู่ตรงนี้ เบลล์ก็คุยกันว่าขอแยกทาง แต่ตอนพูดคำว่าแยกทาง เบลล์ก็ขาดการติดต่อเขาเลย บล็อกทุกอย่างเลย ลากกระเป๋าออกจากบ้าน

 สตีฟ : ผมเพิ่งรู้ว่าโดนบล็อก (หัวเราะ) แต่เห็นโพสต์อินสตาแกรม บอกว่าอยู่สนามบินแล้วจะกลับเมืองไทย ถ้าเท้าของเบลล์เหยียบเครื่องบินเมื่อไหร่ ชีวิตรักมีปัญหาแน่ ก็เลยตัดสินใจทิ้งทุกอย่าง ตามไปหาเบลล์ที่เมืองไทย จองตั๋วคืนนั้นเลย

 

ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บ Show

 จุดที่ทนไม่ไหว ทำให้ตัดสินใจกลับบ้าน?

เบลล์ : การที่เขาไม่ฟังเบลล์ เบลล์พูดอะไรไป ไม่สนใจอีกแล้ว เราก็คิดว่าเฮ้ย แล้วเราจะอยู่ตรงนี้ทำไม ถ้าอยู่แล้วไม่มีการให้ความเคารพ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน มันเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ก็เลยคิดว่าเราควรลดสถานะความสัมพันธ์จากการเป็นสามีภรรยา มาลองเป็นเพื่อนกันดู เหมือนถอยกันคนละก้าวเพื่อออกมาให้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น

 เบลล์เป็นสาวใจเด็ดเหมือนกัน?

เบลล์ : ค่ะ

 สตีฟ :   พอผ่านเรื่องแย่ ๆ ช่วงโควิดแล้ว มานั่งทบทวนตัวเองจริง ๆ แล้วนิสัยเราอยากเอาชนะ อยากถูกในทุกๆ เรื่อง ทำให้ลืมเบลล์ไป แต่พอเบลล์ไปปั๊บก็ซื้อตั๋วตามไปโคราช ขึ้นแท็กซี่ไป เจอโมเมนต์แรกก็กลัว แต่วิธีขอโทษที่ดีที่สุดที่คิดได้คือคุกเข่าและโค้งลงมาให้ถึงที่สุดเพื่อให้รู้ว่าผมเสียใจ

 เบลล์ : เบลล์ประคองเขาขึ้นมา บอกว่าอย่า เพราะไทยเราไม่ได้ทำกันแบบนี้

 สตีฟ : พอโค้งแล้วเบลล์ยังไม่ได้ให้อภัยเลยทันที เบลล์บอกไม่ เข้าไปนั่งในบ้านแล้วพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน

 เบลล์ : แล้วก็คุยกันอีกวันจริงค่ะ ตอนนั้นเขาอยากให้เบลล์ช่วยเขาในทุกๆ เรื่อง แต่เบลล์ไม่ได้มีความรู้ ก็ช่วยได้เท่าที่ช่วยได้ ไม่ใช่ไม่ช่วยนะคะ เราก็ช่วยเรื่องเกมเพราะเขาเปิดธุรกิจเกม เราช่วยได้ แต่ถ้าให้เราไปทำบัญชี เราทำไม่ได้ เขาก็คาดหวังให้เบลล์ทำให้เขาหมดเลยทุกอย่าง

 เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ทะเลาะกัน?

เบลล์ : ส่วนหนึ่งค่ะ

 สตีฟ : ด้วยความที่ไม่ได้อย่างที่ใจอยากได้ ก็เลยลามไปถึงพ่อแม่ เช้านั้นสิ่งแรกที่ทำคือขอโทษพ่อแม่ก่อน

 เบลล์ : เขาก็คุยกับน้องสาว เพราะเขารู้ว่าประเพณีไทยคือพวงมาลัยเป็นสิ่งสำคัญมากในการให้ความเคารพผู้ใหญ่ เขาเลยให้น้องสาวพาไปซื้อพวงมาลัย และดอกไม้มาขอโทษเบลล์

 กระแสมีสองแบบ ดีใจด้วยที่กลับมาแล้ว กับอีกกระแสที่ไม่เห็นด้วย?

เบลล์ : เบลล์พยายามเป็นทุกอย่างให้กับ LGBTQ เรื่องความรักว่าไม่ว่ารักเพศไหนเรามีปัญหาได้ทั้งนั้น แต่สิ่งสำคัญคือการให้อภัยแต่กรณีของเบลล์เกิดขึ้นเร็ว เพราะเขากลับมาเร็วมาก ทำให้รู้สึกเหมือนกันว่า อ้าว เมื่อกี้เพิ่งประกาศไป ซึ่งเบลล์ไม่ได้คาดหวังให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ เขากลับมาเร็วเลยกลายเป็นว่าเราได้กลับมาคุยกันเร็ว สุดท้ายก็เลยเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เบลล์ก็เลยคิดว่างั้นไม่เป็นไร ถ้าใครจะไม่เห็นด้วย แต่สิ่งสำคัญคือความจริง เบลล์อยากให้ทุกคนได้เห็นว่าเราสองคนได้ให้อภัยซึ่งกันจริงๆ ค่ะ

 กลับมาเวอร์ชั่นนี้น่ารักขึ้นมั้ย?

เบลล์ : ดีขึ้น เขาก็หันมาโฟกัสที่เรามากขึ้น เช่นเดินไปหยิบน้ำให้ เราสองคนคบกันมาไม่เคยเรียกกันว่าดาร์ลิ่งหรือฮันนี่เลย จะเรียกแค่ชื่ออย่างเดียว แต่รอบนี้เขาบอกว่าเธอ เรามาหาอะไรเรียกกันที่มันน่ารักๆ ดีกว่า

 สตีฟ : ผมเรียกเบลล์ฮันนี่ ส่วนเบลล์เรียกผมว่าดาร์ลิ่ง (หัวเราะ) กลับมาคบกันแล้ว อนาคตจะพาเบลล์ไปเที่ยว

 
เบลล์อยากไปเที่ยวไหน?

เบลล์ : ที่แรกที่อยากไปคือที่สเฟียร์ ลาสเวกัส อยากไปตรงนั้นมาก (หัวเราะ)

 สตีฟ : เป็นที่แรกที่จะพาไป

 พอจะกลับไปใช้ชีวิตกันจริง ๆ เรายังกลัวเหตุการณ์เดิมจะเกิดอีกมั้ย?

เบลล์ : เบลล์จะไม่โกหก เบลล์ยังมีความรู้สึก เป็นธรรมดา เพราะยังใหม่ แต่ถามว่ายังกลัวมั้ยก็กลัว แต่เบลล์ก็อยากให้เวลาเขา และให้โอกาสเขา ลองดูกันสักตั้งว่าเขาจะทำได้อย่างที่พูดมั้ย

 สตีฟ :   สัญญาว่าจะไม่เกิดขึ้น

 เบลล์ : ถ้าอึดอัดก็คงต้องคุยกัน

 ให้เวลาเขาพิสูจน์ตัวเอง แต่ถ้าไม่ดีขึ้น ได้บอกเขามั้ยว่าเราจะกลับเมืองไทยอีก?

เบลล์ : ค่ะ เบลล์จะขอดูเขาใน 1 เดือน (หัวเราะ) เพราะเป็นการเริ่มต้นใหม่หมดเลย ก็จะลองดูว่าเรามีความคิดเห็นไปในทิศทางไหนกัน

 สตีฟ : เดือนนึงสบายอยู่แล้ว (หัวเราะ)

 ความรักดีขึ้น ยังร้องเพลงให้สามีฟังอยู่มั้ย?

เบลล์ : มีบ้างค่ะ เพราะเบลล์ทำเฟซบุ๊กของตัวเองอยู่ จะทำเกี่ยวกับร้องเพลงยุค 90 ต้องสองเสียงบ้าง ร้องคัฟเวอร์บ้าง  

 สตีฟ : จริง ๆ ผมบอกรักเขาตลอด บอกรักเบลล์เป็นสิบๆ ครั้ง มากกว่าที่เบลล์พูด

 เบลล์ : เบลล์ไม่ได้เขิน แต่คิดว่ามันจริงมั้ย (หัวเราะ)

 ต้องรักเขามากแหละถึงให้อภัยเขาได้ รักเขามากขนาดไหน?

เบลล์ : เบลล์คิดว่าเบลล์พยายามจำเรื่องที่ดีของเราให้มากที่สุด เบลล์คิดว่าสิ่งดีๆ เขาก็ยังมี เขายังเทคแคร์เรา ก็คิดว่านี่แหละ ทำให้เบลล์รักเขาพอสมควรค่ะ

 สตีฟ : นอกจากรักในความสามารถ รักในการร้องเพลง รักในความสวยของเบลล์แล้ว ยังรักที่เบลล์เป็นชาวพุทธด้วย เบลล์ชอบทำบุญ สวดมนต์

 เบลล์ : เบลล์ชอบพาเขาทำบุญ สวดมนต์ก่อนนอน ถือศีลกินเจ (หัวเราะ) มีมุมนี้

 จะย้ายกลับมาเมืองไทยจริงมั้ย?

เบลล์ : จริงค่ะ ด้วยความที่อายุเขาก็มากขึ้นเรื่อยๆ เขามีแพลนว่าอาจต้องขายธุรกิจ และกลับมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทย ก็น่าจะอีกสัก 2-3 ปี

สตีฟ : อยากมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยตอนนี้เลยก็ยังทำไม่ได้ เพราะยังเป็นนักท่องเที่ยวเฉยๆ แต่อนาคตอาจปลดเกษียณมาอยู่ที่นี่ และขายธุรกิจที่โน่น ที่อเมริกาเป็นประเทศที่แบ่งแยก ด้วยความเชื่อของคน แต่ 92 เปอร์เซ็นต์ของคนไทย เป็นชาวพุทธ คนไทยรักกัน และอยู่ด้วยกันอย่างสันติภาพ อยู่กันอย่างมีความสุข ถ้าอนาคตเบลล์จะเป็นนักร้องหรือเล่นละคร ก็กลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ (หอมแก้มและมอบดอกไม้ให้ภรรยา)

 ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama