รีเซต

"กวาง" พูดถึง "พิ้งกี้" หลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

"กวาง" พูดถึง "พิ้งกี้" หลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
EntertainmentReport2
7 กุมภาพันธ์ 2566 ( 10:32 )
209

"กวาง ฟ้ารุ่ง" มิสยูนิเวิร์ส 2007 ที่วันนี้จะมาเปิดใจครั้งแรกหลังเพื่อนสนิท "พิ้งกี้ สาวิกา" ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวพร้อมเผยความรู้สึกหลังพิ้งกี้โดนแอบอ้างเป็นผู้จัดการโกงเงิน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี หนิง ปณิตา และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ


พิ้งกี้เขาน่ารัก หรือดียังไง เราถึงมั่นใจที่จะเปิดเผยและอยู่เคียงข้างเขา?

กวาง : พิ้งกี้เป็นเพื่อนกันมา 10 กว่าปีแล้ว เราผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มาด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทุกข์หรือสุข เขาไนน์กับเราตลอดแล้วเขาซัพพอร์ตเรา เวลาเรามีเรื่องทุกข์เขาก็คุยกับเรา เวลามีความสุขเราก็แชร์กัน มันก็เป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนยาวนาน


ตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่ เราซัพพอร์ตเพื่อนเต็มที่เลย?

กวาง : กวางว่าอันนี้มันคือหน้าที่ของเพื่อน เพื่อนที่ดี เราเป็นเพื่อนที่จิตวิญญาณ เหตุการณ์ที่แฮปปี้มีความสุข เราก็อยู่ด้วยกัน แต่คำว่าเพื่อนจริงๆ คือตอนที่อยู่ด้วยกันคือตอนที่ทุกข์ที่สุด แล้วกวางก็เลือกตรงนั้น


ก่อนที่กวางตัดสินใจโพสต์ข้อความ ตอนนั้นกวางได้คิดไหมว่า ถ้าเราคิดไปแล้ว เราจะโดนกระแสแบบไหน และเชื่อว่ากวางรู้ว่าต้องโดนทัวร์ลง แต่กวางก็เลือกทำแบบนั้น เพราะอะไร?

กวาง : ใช่ กวางมองเรื่องความสัมพันธ์เป็นอันดับ1 แล้วยิ่งเรามีครอบครัว เรามีลูก เราตระหนักถึงความรักและความสัมพันธ์มากๆ พอคนที่ใกล้ชิดกับเรา ที่เรามีทุก มีสุขร่วมกัน แล้วคนข้างๆ เขาเป็นทุกข์ทำไมเราต้องมานึกถึงด้านอื่นเหรอ กวางรู้สึกว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือครอบครัวของเราก่อน คนใหล้ชิดของเราก่อน นั่นคือสิ่งที่สำคัญใมากๆ นั่นหมายความว่ากวางเลยไม่ได้นึกถึงตัวเองว่าเราจะต้องกลัวอะไรไหม

 

ขอบคุณรายการ คุยแซ่บShow


ช่วงนั้นก็เครียดมากเหมือนกัน เครียด เพราะโดนทัวร์ลงหรือเพราะสงสารเพื่อน?

กวาง : สงสารเพื่อน มันค่อนข้างจะช็อก ก่อนที่เรื่องอะไรก็ตามกี้ก็มาที่บ้าน 2 วัน เขาก็จะมาเล่นกับน้องอารยา


ก่อนที่จะขึ้นศาลถูกไหม?

กวาง : ใช่ ก็มาเล่นที่บ้าน มีความสุขร่วมกัน พอมีข่าวมาปุ๊บ ตอนแรกกวางคิดว่าข่าวปลอมหรือเปล่า แต่พอมาเจอตอนนั้นมันเป็นความจริง ก็เครียดมากเลย แล้วก็มีไปตามข่าวทุกอย่าง ตามหาความจริงว่ามันเป็นยังไง เราไปที่ศาลด้วย คือรู้ว่ามันอาจจะไม่ได้คำตอบอะไรใดๆ แต่คือแบบจะต้องทำยังไงให้เราแบบรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น


ได้มีโอกาสถามน้องไหม?

กวาง : คือถ้าช่วงนั้นไม่ได้คุยกันแล้ว เพราะว่ามันเกิดเหตุการณ์พร้อมกันหมดที่ทุกคนได้ทราบ

แต่พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นทางศาลก็อนุญาตว่ามีบุคคลแค่ 10 คนเท่านั้นที่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยม แล้วกวางเป็นคนเดียวในวงการบันเทิงที่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมน้อง กวางรู้สึกยังไงบ้าง?

กวาง : ตอนแรกที่เราจะรู้ว่าเข้าเยี่ยมได้หรือไม่ได้มันต้องใช้เวลา ต้องเขียนรายชื่อ ใจเราคิดอยู่แล้วว่า เธอต้องเขียนชื่อเราลงไปนะ

คนที่เขียนคือคนข้างในใช่ไหม?

กวาง : ใช่ค่ะ คนข้างนอกไม่สามารถที่จะแจ้งได้ ต้องเป็นคนข้างในที่เขาจะเลือกให้เข้าพบได้ ไม่ได้โฟกัสเลยว่าเราจะเป็นคนเดียวหรือไม่ เพียงแต่เรารู้สึกว่าเราจะทำยังไงให้เพื่อนเรามีกำลังใจ และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตเขา

ที่เจอเขา เขาบอกอะไร เขาพูดอะไรกับเราบ้าง?

กวาง : ส่วนมากมันเป็นการให้กำลังใจกันมากกว่าว่าเดี๋ยวทุกอย่างจะต้องผ่านพ้นไปด้วยดี แล้วเราเองดูแลหน้าที่ที่รับซัพพอร์ตจากเพื่อนๆ เพราะเพื่อนๆ จะรู้ว่าพอเราได้เจอก็จะมีการฝากข้อความแล้วก็ส่งจดหมาย มีรูปแนบให้เขาเพราะว่าเราสามารถส่งให้เขาได้ แล้วบอกถึงความเป็นไปว่าเป็นยังไง แต่ส่วนมากเราจะรับฟังมากกว่า เพราะว่าคนที่เป็นทุกข์เขาอยากจะพูด อยากจะระบาย เพียงแค่เจอหน้าเราปุ๊บ เขาก็รู้สึกแล้วว่าเขามีกำลังใจ แล้ววันหนึ่งก็ได้แค่ครั้งเดียวที่เจอกัน

เห็นบอกว่าในบทสนทนาน้องจะพูดแต่เรื่องเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าเป็นห่วงตัวเอง แต่ในมุมพวกเราทุกคนเป็นห่วงน้อง?

กวาง : ใช่ ๆ กวางยังพูดกับเขาเลยว่ายูโฟกัสกับตัวยูก่อนนะ แต่พอไปถึงปุ๊บเขาก็จะมีความเป็นห่วงคนอื่น งานเป็นยังไงบ้าง งานที่ค้างคา แล้วเขาก็พูดถึงภาวะที่เกิดขึ้นว่าด้านในมันเป็นแบบนั้น แบบนี้ เป็นปรัชญาออกมาเลย

ในขณะที่ห่วงคนอื่น แต่ตัวเองก็ทุกข์อยู่ แต่สิ่งที่เขาห่วงที่สุดคืออยากให้กวางไปติดต่องานที่เรารับค้างไว้ โดยเฉพาะงานที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ เหมือนเราถ่ายเสร็จก็รับเงินมา แต่เหมือนน้องบอกอยากจะคืนเงินก้อนนั้น เพราะไม่สามารถทำงานให้เขาได้ จริงไหม?

กวาง : เอาเป็นว่ากี้ตั้งแต่ไหน แต่ไรแล้ว เขาเป็นห่วงคนอื่นเสมอ อันนี้เป็นจุดเด่นของเขาเลย เขาไม่เคยคิดถึงตัวเขาเลย เขาเก็บตัวเองตลอด เวลาทำอะไรให้คนอื่นแฮปปี้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเขารู้สึกว่าเขาทำหน้าที่ตรงนี้ไม่ได้เพราะฉะนั้นเขายินดีที่จะคืนเงินให้ เขาเป็นห่วงคนอื่นเสมอ เขาทำอะไรได้ที่ซัพพอร์ตคนอื่นเขาจะทำ แม้ตัวเองอยู่ในนั้น บางทีเราฟังเรารู้สึกว่าโอ๊ย ก็เป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่รู้ว่าแม้กระทั่งที่เขาอยู่ ณ ตรงนั้นแล้ว เขายังเป็นแบบนั้น ซึ่งถ้าเป็นหลาย ๆ คน อาจจะไม่รู้สึกที่จะต้องทำ


อย่างล่าสุดก็มีข่าวว่ามีคนแอบอ้างว่าเป็นผู้จัดการของพิ้งกี้ไปเอาเงินค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ของพิ้งกี้มาแล้วเรียบร้อย อันนี้กวางได้มีโอกาสรับรู้เรื่องนี้บ้างไหม?

กวาง : รับรู้ตามข่าว อย่างที่บอกตั้งแต่สมัยไหนแล้ว พิ้งกี้เป็นคนทำอะไรเอง ดูแลตัวเองมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์การรับงาน อันนี้เขาจะดูแลตัวเอง แต่มีผู้ช่วยของเขา ซึ่งคนนี้เป็นผู้ช่วยเฉยๆ เพราะฉะนั้นเขาดูแลตัวเองมาตลอด


ในความเป็นจริงแล้วพิ้งกี้ไม่ได้มีผู้จัดการส่วนตัว?

กวาง : เท่าที่เห็นเขาดูแลตัวเองมาตลอดเลย

ทางนั้นเขาให้เงินมาแล้ว แต่เงินก็ไม่ถึงน้อง?

กวาง : กวางก็ไม่แน่ใจ เป็นเรื่องของเขาที่เกิดขึ้น แต่ก็คิดว่าเป็นไปตามที่เราทราบกัน

กวางได้คุยกับพิ้งกี้ส่วนตัวไหม?

กวาง : มีเรื่องข่าวที่เกิดขึ้น แต่เราก็ไม่ได้ไม่แตะมาก เพราะเป็นเรื่องของเขา ที่เขาต้องมาจัดการตรงนี้ แต่อย่างที่บอกกวางเห็นเลยว่าทุกอย่างเขาทำด้วยตัวเอง รับงาน พิจารณางานด้วยตัวเอง

ครั้งแรกเลยที่เราได้ยินว่าเขาจะได้ออกมา เรารู้สึกยังไงบ้าง?

กวาง : ร้องไห้เลย เพราะว่าทุกๆ ครั้งที่ไปเราใช้พลัง มันเหมือนคนที่อยู่เคียงข้างเราแล้วเป็นทุกข์ ต่อให้เรามีความสุขยังไง ตอนนั้นกวางไปต่างประเทศหนึ่งเดือนก็ยังคิดถึงตลอด แล้วพอวันที่เขาจะได้ออกมาก็รู้สึกว่าดีแล้วก็แฮปปี้

เจอกันได้พูดคุนอะไรกันบ้าง หลังจากที่น้องได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว?

กวาง : พิ้งกี้นี่คือ ถ้าเขามาแล้วเขาจะทำเลยคือเล่นกับลูกสาว แทบไม่ได้คุยเลย คือเขาคิดถึงหลาน เขาอยากเห็นหน้าอารยา เขาชอบความสดใส พอมาถึงเรารู้แล้ว บางทีเราไม่ต้องคุยกันเลย เขามาแล้วเขามาเล่นกับหลาน ส่วนมากจะเป็นแบบนั้นมากกว่า

เห็นว่าพิ้งกี้เองตอนที่ออกมามีความเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างที่เห็นได้ชัดด้วย?

กวาง : เติบโตขึ้น เติบโตทั้งภายใน คิดว่าสิ่งที่เขาเจอ แล้วเป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่น เรียกว่าอัพเกรดเวอร์ชั่นเลย สมัยก่อนเราคิดว่าพิ้งกี้เป็นแบบนี้ พอมันผ่านจุดตรงนั้นมันเปลี่ยนแปลงไปเลย วิธีคิดที่ดีขึ้น เราเห็นการเปลี่ยนแปลงตรงนี้เรารู้สึกว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี

น้องร้องไห้บ้างไหม?

กวาง : ร้องอยู่แล้วค่ะ กวางอยู่ข้างนอกขับรถบางทีคิดถึงเขาปุ๊บก็ร้อง ร้องเพราะอัดอั้น เพราะมันมีหลายสิ่งหลายอย่างการเป็นเพื่อนเราก็มองตัวเองเหมือนกันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราทำหน้าที่เพื่อนได้ดีหรือยัง เราดูแลคนรอบข้างได้ดีหรือยัง เราก็ย้อนกลับมาเหมือนกัน

อีกจุดหนึ่งที่น้องเขาแคร์มาก ๆ คือคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขาจะคิดยังไงกับเขา?

กวาง : กี้เป็นคนห่วงอยู่แล้วว่าทุกคนจะคิดยังไงในสิ่งที่มันเกิดขึ้น แต่เวอร์ชั่นใหม่ของเขา เขาคงเริ่มเข้าใจแล้วว่ามันก็ต้องเดินทางต่อ

อีกหนึ่งกำลังใจสำคัญเลยคือลูกเรา น้องอารยา ทำไมถึงรักกันขนาดนั้น?

กวาง : พิ้งกี้อยู่กันมาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว เราผ่านขั้นตอนชีวิตมา เขาก็จะเห็นเราตั้งแต่ท้องมา แล้วพิ้งกี้เขาชอบเด็กๆอยู่แล้ว เขาเห็นคนนี้มา มาแล้วสบายใจ

น้องอารยาไปแข่งระดับประเทศ ได้รางวัลมาด้วย?

กวาง : บาลานซ์ไบค์ หรือจักรยานขาไถ เป็นการชิงถ้วยสมเด็จพระเทพฯ มีการเก็บคะแนนเรื่อยๆ ทุกอาทิตย์ต้องพาเขาไปแข่งเพื่อเก็บคะแนน แต่ละสนามก็ลองไปทำเลย 4 สนามแล้วก็ได้รางวัลมาที่9 ของประเทศ

มีวี่แววจะผลักดันเข้าวงการไหม?

กวาง : กวาง : จริงๆ เขาก็ชอบ ถ่ายรูปก็เข้ามาอยู่ด้วยตลอด เขาก็มาโพส คุณพ่อเขาโอเค ไม่ค่อยหวง เขาเข้าใจ เขาเป็นเอเจนซี่ เจอนางแบบบ่อยอยู่แล้ว


ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama