Short CommemtDecibel ลั่นระเบิดเมือง (2022)ตามสูตรไม่มีบิดเบี้ยวแต่ยังเร้าใจได้อารมณ์ลุ้นระทึกแค่ความรู้สึกยังลงลึกไม่ได้เท่านั้นเมื่อบทความที่แล้วดูไปบ่นไปเพิ่งเขียนถึงพล็อตคลาสสิคของวงการภาพเคลื่อนไหวบนจอในเรื่องของหนังแนวนักฆ่าผู้มากับคุณธรรม วันนี้ได้เจอกับพล็อตคลาสสิคอีกหนึ่งเรื่องที่จะว่าไปก็เป็นหนังฟอร์มยักษ์จากเกาหลีเมื่อปีที่แล้วและได้มีโอกาสมาเข้าฉายในบ้านเรา กับหนังแนววางระเบิดกู้ระเบิดที่จะมีความระทึกอยู่ในตัวจะมากจะน้อยก็ต้องมีและแน่นอนว่าเป็นพล็อตที่เห็นมาตั้งแต่สมัยไหนก็ขี้เกียจรำลึก แล้วเมื่อมาอยู่ในมือของทีมสร้างภาพยนตร์จากเกาหลีที่มีดีที่การเขียนบทให้เรื่องเก่าที่เอามาเล่าใหม่ดูมีความแหวกแปลกไปจนเห็นความใหม่ในความเก่า แต่นั่นก็ใช่ว่าจะเป็นเช่นนั้นได้ทั้งหมดเพราะบางครั้งอะไรก็ตามที่เล่นมานานเล่ามาเยอะก็จะมีเส้นทางที่ตายตัวที่วัยรุ่นข้างบ้านเรียกว่าของมันต้องมี ดังนั้นการที่จะทำให้ความเร้าใจที่พึงมีไปให้สุดทางอาจต้องใช้เรื่องของความรู้สึกเข้ามามีส่วนเพราะความรู้สึกคนดูจะเป็นตัวกำหนดความระทึกได้เช่นกัน สิ่งนั้นคือความรู้สึกร่วมที่คนดูจะมีไปกับเหตุการณ์และตัวละครแล้วสิ่งที่จะมากำหนดความรู้สึกก็คือมิติตัวละครและแรงจูงใจที่จะเล่า ซึ่งเรื่องนี้ที่ผู้เขียนเพิ่งดูจบไปก็ทำได้ในระดับที่น่าพอใจแต่ยังไม่เพียงพอในปฏิบัติการซ้อมรบทวิภาคีเรือดำน้ำฮัลลาของเกาหลีกำลังจะเดินทางกลับมาตุภูมิโดยการนำของผู้การคังโดยอง (คิมแรวอน) แต่ในขณะที่การเดินทางราบรื่นไม่น่าจะมีอะไรตอร์ปิโดลึกลับก็พุ่งเข้าหาเรือดำน้ำทำให้เรือดำน้ำฮัลลาต้องหลบหลีกจนไปชนกับซากเรือ ถัดมาอีกหนึ่งปีผู้การคังโดยองได้รับโทรศัพท์ปริศนาว่ามีการวางระเบิดที่สนามเด็กเล่นและบ้านอดีตลูกเรือคนหนึ่ง แล้วการวางระเบิดนั้นก็เกี่ยวกับเขาเข้าอย่างจังเมื่อมือระเบิดลากเอาครอบครัวของเขาเข้ามาเกี่ยวและมีการวางระเบิดไปทั่วเริ่มที่สนามฟุตบอลที่ตัวจุดระเบิดคือความดังของเสียงที่เกินกว่าหนึ่งร้อยเดซิเบล จนเมื่อผู้การคังโดยองที่ต้องตามหาระเบิดไปทั่วเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ก็พบว่ามือระเบิดคือจอนแทซอง (อีจงซอก) ที่เป็นหนึ่งในอดีตลูกเรือที่รอดชีวิตกลับมาจากสถานการณ์เรือดำน้ำเมื่อตอนนั้นทว่าหนึ่งในผู้เสียสละคือน้องชายของเขา แต่ทำไมต้องเป็นคังโดยองแล้วอะไรที่เชื่อมสองเหตุการณ์เข้าด้วยกันมีอะไรที่เป็นความลับที่เปิดเผยไม่ได้ คังโดยยองจึงต้องวิ่งแข่งกับเวลาและสรรพเสียงที่จะเป็นตัวจุดระเบิดเพื่อช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์และครอบครัวของเขาตามสูตรไม่มีบิดเบี้ยวทั้งการเดินเรื่องชั้นเชิงและแรงจูงใจ ตั้งแต่ต้นจนจบนี่คือหนังตามสูตรเต็มประดาที่เหมือนเอาหนังทริลเลอร์กู้ระเบิดมาวางเป็นพื้นฐานแล้วเอาหนังเรือดำน้ำมาเป็นเครื่องตกแต่ง นั่นคือหนังจะมีการเดินเรื่องที่ไปในทิศทางที่สูตรสำเร็จกำหนดนั่นคือพระเอกต้องกู้ระเบิดไปพร้อมกับต้องสานความสัมพันธ์กับครอบครัวรวมถึงแก้ไขหรือไถ่บาปในใจ ส่วนชั้นเชิงก็แน่นอนการเล่นกับเวลาหรือเงื่อนไขของการจุดระเบิดที่คราวนี้ว่ากันที่ระดับเสียงทำให้อดคิดไม่ได้ถึงหนังอย่าง Speed (1994) ที่ว่าด้วยความเร็วหรือ Sudden Death (1995) ที่ว่าด้วยเรื่องของเวลาการแข่งขันในสนามฮอกกี้น้ำแข็ง หรือถ้าว่ากันที่ตัวเอกของเรื่องก็อดไม่ได้ที่จะมีภาพของ Blow Away (1994) ผุดขึ้นมาในหัว ที่น่าสนใจคือทั้งสามเรื่องคือหนังยุค 90 ที่หนังแนวนี้ถูกสร้างมาได้อย่างน่าดูชมแต่เมื่อเวลาผ่านไปอะไรๆก็ผ่านตามามากแรงจูงใจจึงต้องเข้มบทหนังจึงวางเรื่องของสมาชิกในเรือดำน้ำที่อับปางอันเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดและแน่นอนหนังเรือดำน้ำที่ผ่านๆมาก็ผุดขึ้นมาในหัวมากมายจนกลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้มีความตั้งใจดีแต่ยังหนีไม่พ้นสูตรเดิมๆยังคงเร้าใจได้เพราะแนวนี้จะมีความระทึกอยู่ในตัว กระนั้นหนังแนวนี้หรือจะมีความเร้าใจอยู่ในตัวที่แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าสถานการณ์จะลงเอยอย่างไรถ้าเล่าให้ได้ประกอบชิ้นส่วนเชื่อมโยงแรงจูงใจกับสถานการณ์ให้สอดประสานกันได้ความระทึกก็จะจุดติด ซึ่งในส่วนนี้บทหนังถือว่าทำได้ดีเมื่อแรงจูงใจในการก่อเหตุชัดสถานการณ์ก็พัฒนาไปได้ถึงครึ่งค่อนเรื่องก่อนที่จะมาแผ่วปลายให้รู้สึกว่าทางลงที่มีให้ดูอ่อนไปสักนิด แต่เท่าที่เป็นหนังยังมอบความลุ้นระทึกตั้งแต่ต้นจนจบตั้งแต่เปิดเรื่องมาด้วยสถานการณ์ในเรือดำน้ำที่ได้ลุ้นแน่นอนเพราะมันต้องเป็นอย่างนั้น จากนั้นก็วางปริศนาให้คนดูต้องติดตามว่าเพราะอะไรมือระเบิดถึงจงใจเล่นงานพระเอกแล้วการเล่าในส่วนนี้ก็ทำได้ดีเห็นภาพและเห็นใจเข้าใจแต่ไม่เห็นด้วย แล้วเมื่อแรงจูงใจแรงพอคนดูก็จะเร้าใจไปจนระทึกใจกับสถานการณ์ที่พระเอกต้องแก้ไขพร้อมกับค่อยๆเปิดเผยเนื้อความสำคัญที่จงใจซ่อนไว้ให้สงสัย นั่นหมายความวาความเร้าใจตลอดทางเกิดจากลูกเล่นที่เป็นของมันต้องมีคือเรื่องของเงื่อนเวลาและปัจจัยจุดระเบิดซึ่งก็คือความระทึกที่พึงมีตามแนวเพียงแต่ยังทำงานได้ผลน่าเสียดายที่ดูล้นไปในเรื่องแรงจูงใจและยังเข้าไม่ถึงเรื่องมิติความสัมพันธ์ทำให้ด้านความรู้สึกมีพลังแต่ก็ยังไม่พอ แต่ถ้าว่ากันที่แรงจูงใจในการก่อเหตุที่เข้มจนสร้างความชอบธรรมโดยที่ไม่ต้องไปคิดเข้าข้าง ทว่าเมื่อถึงเวลาที่ทุกอย่างถูกเปิดออกมาในช่วงท้ายกลายเป็นล้นไปเมื่อรายละเอียดที่เอามาประกอบเป็นรูปเป็นร่างดูเหมือนว่ามือระเบิดไม่เข้าใจโลกไม่เข้าใจชีวิตและไม่เข้าใจน้องชายจนกลายเป็นล้น ซึ่งก็คือในความเป็นจริงโกรธได้แต่ก็ควรเข้าใจได้ไม่ใช่ไร้เหตุผลในการตั้งคำถามจนลุกลามไปสู่ผู้บริสุทธิ์ซึ่งถ้าจะให้ดีควรตั้งคำถามถึงระดับบริหารที่ปกปิดเรื่องราวที่เป็นต้นเหตุไว้มากกว่าจะเป็นเรื่องส่วนบุคคลจนมองเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่เห็นแก่ตัวเกินไปกลายเป็นความล้น ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครที่จะทำให้คนดูรู้สึกผูกพันไปด้วยทั้งเรื่องของครอบครัวก็จับสัมผัสไม่ได้หรือกระทั่งการพยายามซ่อนตัวร้ายไว้จนกลางเรื่องก็ทำให้มิติเชิงความสัมพันธ์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจก่อเหตุยังจับต้องไม่ได้ ทำให้คนดูกลายเป็นผู้สังเกตการณ์หรือเห็นเหตุการณ์จากข่าวมากกว่าจะรู้สึกว่าอยู่ในเหตุการณ์เพราะอารมณ์ร่วมยังไม่ถึงจุดนั้นบทที่ทั้งล้นทั้งพร่องในมิติตัวละครจนยังดูทั้งขาดทั้งเกิน เพราะบทยังเข้าไม่ถึงหัวใจในความสัมพันธ์นั่นคือยังไม่รู้สึกผูกพันฉันท์ครอบครัวในมุมของพระเอก และไม่รู้สึกว่าพี่รักน้องขนาดไหนซึ่งจะว่าไปก็มีจุดให้ย้อนแย้งคือถ้ารักน้องขนาดนั้นก็น่าจะเข้าใจในการตัดสินใจ ทำให้เมื่อถึงจุดที่พยายามใส่ความผิดปกติทางจิตให้ตัวคนร้ายคืออีจงซอกในตอนที่ปรึกษาจิตแพทย์ที่เอาจริงคืออีจงซอกเล่นดีในฉากที่ว่าแต่เมื่อเอามิติตัวละครทั้งหมดมาประกอบกันความน่าเชื่อถือในความผิดปกติทางจิตก็หายไปด้วยความที่ต้องการให้เป็นตัวร้ายที่น่าเห็นใจ แล้วมันก็ไปทำลายความน่าเชื่อถือในตัวละครที่สามารถวางระเบิดที่พยายามละเว้นผู้บริสุทธิ์ได้จนกลายเป็นว่าอีจงซอกเล่นดีแต่มีล้น ส่วนทางด้านคิมแรวอนก็มาตามทำนองของพระเอกหนังแนวนี้ที่ต้องดูฉลาดทันเกมแก้ไขสถานการณ์เก่งแต่บทไม่ได้ตึงมากนักด้านสถานการณ์มิติส่วนนั้นเลยไม่ออกมา หรืออาจรวมถึงเรื่องครอบครัวและความรู้สึกผิดที่เหมือนบทจะลืมจนคนดูไม่รู้สึกถึงทำให้เมื่อถึงเวลาความรู้สึกไม่ได้อารมณ์ที่ควรต้องมาก็ไม่มา จนกลายเป็นว่าเป็นอีมินกิที่ออกจอไม่กี่นาทีกลายเป็นแสดงได้พอดีจนน่าจดจำซะงั้นนี่คือหนังที่ดูสนุกได้ลุ้นระทึกตลอดเวลาและต้องขอบคุณที่ไม่ใช้เวลามากกว่านี้ บ่อยครั้งที่หนังสูตรไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างความเร้าใจตามสูตรเพราะบางอย่างที่ควรมาไม่มาตามต้องการ ทำให้หนังบางเรื่องแม้จะเดินตามสูตรถูกต้องและเป็นแนวที่มีสารตั้งต้นเป็นความเร้าใจระทึกใจหรือเป็นแนวหนังที่ตองมีความสนุกแต่ปัจจัยบางอย่างก็พาให้ไปไม่ถึงความสนุก แต่ไม่ใช่กับหนังเรื่องนี้เพราะถ้าว่ากันที่ความสนุกหนังยังคงมีให้เต็มที่แม้จะเป็นวามสนุกลุกนั่งสบายเป็นของที่ต้องได้รับจากการดูหนังตามแนวก็ตาม เพราะแม้บทจะมีบ้างที่น้อยไปมีบ้างที่มากไปแต่อะไรที่มีก็มีอะไรที่ไม่ควรมีก็ไม่ต้องเอามาทำให้หนังมีเวลาฉายที่พอดีไม่ยาวเกินไป นั่นหมายความว่าหนังจะเดินไปข้างหน้าอย่างเมามันเอาข้างหน้าเป็นไปแต่ไม่ลืมหลังทำให้ในความระทึกเร้าใจยังมีอะไรที่มีเหตุผลในตัวแม้จะยังน่ากังขาบ้างก็ช่างมัน เหนือสิ่งอื่นใดหนังตั้งใจมาเป็นแบบนี้เต็มที่คือเดินหน้าไปด้วยความเร็วไม่มัวมาพิรี้พิไรอะไรที่ควรเล่าก็เล่าได้แม้อาจจะไม่ปักเข้ากลางใจขนาดที่เมื่อถึงเวลามีซาบซึ้งน้ำตาไหลขนลุกเกรียว รวมๆแล้วนี่คือหนังที่ดูสนุกได้ไม่เสียดายเวลาดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1,2,3,4,5,6,7,8 จาก cgv.co.kr ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/PrBMPgxvB6M4https://entertainment.trueid.net/detail/369PAoa5gzA4https://entertainment.trueid.net/detail/Or4eGnxxlMJZhttps://entertainment.trueid.net/detail/2m66YNXL4Rqmเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!