ผู้เขียนรู้จักเพลง El Condor Pasa จากภาพยนตร์เรื่อง Wild ฉายปี 2014 เมื่อบทเพลงประกอบกับชีวิตของตัวละครภายในภาพยนตร์ทำให้ผู้เขียนชอบมากเป็นเพลงที่เรียกร้องหาอิสรภาพ ไว้โอกาสหน้าจะมารีวิวหนังเรื่อง Wild นะครับ วิเคราะห์เพลง I'd rather be a sparrow than a snail.Yes I would.If I could,I surely would.อยากเป็นนกกระจอก ( Sparrow ) มากกว่า หอยทาก ( Snail ) เพราะนกกระจอกมีปีกและบินได้รวดเร็วประสงค์ว่าสถานที่แห่งใดคือเป้าหมายก็โผบินไปได้ตามต้องการต่างจากหอยทากที่เชื่องช้าซึ่งต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะขยับไปได้แต่ละเมตรค่อนข้างไร้อิสระ ฉะนั้นฉันจะเป็นนกกระจอก ฉันต้องมีอิสรภาพ ถ้ามีโอกาสฉันจะเป็นนกกระจอก ( ไขว่คว้าอิสรภาพ ) Away, I'd rather sail awayLike a swan that's here and goneA man gets tied up to the ground.He gives the worldIts saddest sound,Its saddest sound.ที่อันแสนไกลมันมีอะไรนะ ฉันอยากจะแล่นเรือออกไปดั่งหงส์ ( Swan ) ที่อยู่แล้วจากไป ชายคนหนึ่งถูกมัดไว้กับพื้นแล้วเขาเปล่งเสียงแห่งความเศร้าออกมา แสดงถึงความอึดอัดและขาดไร้ซึ่งอิสรภาพอย่างขมขื่นถ้ามีเรือให้สักลำในตอนนี้เขาจะแล่นออกไปให้ไกล เนื่องจากเพลงนี้ได้แต่งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1913 เป็นช่วงเวลาที่มีการต่อสู้ระหว่างแรงงานกับเจ้าของเหมืองชาวต่างชาติ ทำให้เนื้อร้องกลั่นกรองออกมาจากความอดกลั้นภายในจิตใจที่ถูกบังคับใช้แรงงานขาดไร้ซึ่งอิสรภาพ จนกระทั่ง ค.ศ.1970 Simon & Garfunkel ได้นำมาเขียนเป็นเนื้อร้องอีกครั้งI'd rather be a hammer than a nail.Yes I would.If I could,I surely would.มันช่างไม่ยุติธรรมหากเราเป็นผู้ถูกกระทำฝ่ายเดียว ฉันอยากเป็นค้อน ( Hammer ) บ้างสักครั้ง ไม่ใช่ชั่วชีวิตเป็นเพียงแค่ตะปู ( Nail ) เนื้อเพลงทวีความเก็บกดมากขึ้นแสดงถึงการถูกกระทำและข่มเหง พวกเราก็เช่นกันคงไม่มีใครชอบถูกบังคับ หรืออาจเปรียบเทียบได้กับอิสรภาพในชีวิตว่าเรากล้าเลือกที่จะวิ่งตามความฝันไม่ใช่ให้ใครมาสั่งว่าควรเป็นอะไรหรือถูกตอกลงส่วนไหนของเนื้อไม้ ถ้าฉันมีโอกาสเป็นค้อนฉันจะเป็นอย่างแน่นอนI'd rather be a forest than a street.Yes I would.If I could,I surely would.ถ้าให้เลือกระหว่างชีวิตที่มีโอกาสหลงทางและผิดพลาดแต่มีอิสรภาพดังเช่นป่า ( Forest ) กับชีวิตที่อยู่ในกรอบกฎเกณฑ์เหมือนถนน (Street ) อันแฝงไปด้วยเสรีภาพจอมปลอมมีทางให้เราเดินอย่างเป็นขั้นตอนโดยที่ไม่มีโอกาสได้หลงทางไปเจอวิวสวย ๆ อันแปลกใหม่ เราจะเลือกอะไร และถ้าเป็นป่าได้ผู้เขียนก็อยากเป็นป่ามากกว่าถนนI'd rather feel the earth beneath my feet,Yes I would.If I could,I surely would.สรุปเราคือใคร เราคิดอะไรอยู่ เราเคยได้มีโอกาสสัมผัสถึงตัวตนที่แท้จริงของเราสักครั้งหรือไม่ ตอนเป็นเด็กถูกควบคุมโดยพ่อแม่ เรียนถูกควบคุมโดยสังคม ทำงานถูกควบคุมด้วยหน้าที่แสนหนักอึ้ง เรามีโอกาสได้สัมผัสถึงแผ่นดินใต้เท้าเราสักครั้งหรือไม่โดยแผ่นดินเปรียบเสมือนอัตตาของเราเอง ถ้าอยากรู้สึกถึงแผ่นดินใต้เท้าของเรา ( I'd rather feel the earth beneath my feet) จงกล้าถอดร้องเท้าอย่าไปกลัว ถ้าทำได้ก็จงทำความรู้สึกที่มีต่อเพลงการวิเคราะห์ข้างต้นคือความรู้สึกของผู้เขียนล้วน ๆ คุณผู้อาจจะฟังแล้วรู้สึกเป็นอื่นก็ได้และถึงแม้เพลงจะนานกว่า 100 ปี พร้อมกับเนื้อร้องที่กลั่นกรองมาจากความเศร้า ท้อแท้และสิ้นหวังของคนในเหมืองแร่ที่อยากมีอิสระ แต่เพลงนี้ทำให้ผู้เขียนมีกำลังใจขึ้นมาทุกครั้งที่ได้ฟัง เพลงคอยย้ำเตือนให้เราถามตัวเองว่าเราต้องการอะไร เราอยากทำอะไรเพลงมีไว้สำหรับทุกเพศทุกวัย ถึงแม้ตอนนี้ผู้เขียนหรือคุณผู้อ่านอีกหลายคนมีภาระหน้าต้องทำแต่สิ่งที่คุณไม่ควรลืมคือให้อิสรภาพกับตัวเองบ้าง ขอบคุณครับขอบคุณรูปภาพหน้าปกจาก YouTube ช่อง MusicTube67 ขอบคุณรูปภาพประกอบ 1 โดย Photo Collections จาก Pexels / รูปภาพประกอบ 2 โดย veeterzy จาก Pexels และ รูปภาพประกอบ 3 โดย Pixabay จาก Pexels