Top of Best Movies บทสรุป 6 หนังดีไตรมาสแรกปี 2020 by Movie.TrueID
ข่าวสารวงการหนัง หนังดีปี 2020
ปิดไตรมาสแรกของปี 2020 ไปด้วยบรรยากาศแห่งความอึมครึมกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) หลายคนบอกว่า เหตุการณ์ต่างๆ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ค่อนข้างหนักหน่วงแบบไต่ระดับขึ้นไปเลยทีเดียว แต่เชื่อว่าในวันนี้หลายๆ คนน่าจะกักเก็บตัวอยู่แต่ภายในบ้าน เพราะห้างร้านหยุด สำนักงานก็ปิด เปลี่ยนมาทำงานที่บ้านกันแทน และแน่นอนว่า...โรงหนังก็ปิดให้บริการยาวๆ เช่นกัน
แต่ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ นับว่าได้มีโอกาสได้เห็นหนังหลายเรื่องที่สนุกแบบเหนือความคาดหมาย มีหนังดีๆ ที่เราคาดไม่ถึงว่าจะสนุกเพียงนี้ Movie.TrueID จึงได้ถือโอกาสช่วงรอยต่อระหว่างไตรมาส คัดเลือกบรรดาหนังที่ดีที่สุดในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา กระทั่งออกมาได้ทั้งหมด 6 เรื่อง ที่มีความโดดเด่นและสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป จึงทำให้หนังในลิสต์นี้ถูกจัดว่าเป็นหนังคุณภาพประจำไตรมาสแรกของปี 2020
1917
กำกับโดย: แซม เมนเดส
นำแสดงโดย: จอร์จ แมคไค, ดีน-ชาร์ลส แชปแมน, มาร์ค สตรอง และ แอนดรูว์ สก็อตต์
ความยาว: 119 นาที
เข้าฉาย: 30 มกราคม 2020
ได้เข้าชิงออสการ์ปีล่าสุดถึง 10 สาขา และคว้ากลับบ้านไปได้ 3 รางวัล คงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่หนังสงครามโลกครั้งที่ 1 เรื่องนี้ต้องติดอยู่ในลิสต์ทำเนียบหนังดีไปโดยปริยาย ผลงานการสร้างสรรค์สุดมหัศจรรย์ของผู้กำกับ "แซม เมนเดส" ที่เนรมิตเรื่องเล่าของคุณปู่ให้โลดแล่นบนจอใหญ่ ด้วยการใช้เทคนิคเดินกล้องถ่ายทำยาวๆ แบบลองเทค กลายเป็นอีกหนึ่งในเสน่ห์อันแพรวพราวของหนังเรื่องนี้
ต้องยอมรับว่าเทคนิคของหนังเรื่องนี้...ใส่มาแบบกินขาดเรื่องอื่นๆ เห็นได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดของงานสร้าง แม้ว่าจะยังด้อยในเรื่องของบท เพราะเทคนิคของหนังทำให้ทิศทางของเรื่องเบนไปทางอื่นๆ ไม่ค่อยได้ แต่ก็สามารถทำให้ "จอร์จ แมคไค" นักแสดงนำของเรื่องโดดเด่นและขึ้นมาเป็นดาวดวงใหม่ประดับวงการ ไม่เท่านั้นหากได้มีโอกาสชมบนจอใหญ่ๆ ในโรงหนังไอแม็กซ์ก็เพิ่มความดื่มดำของความอลังการของงานภาพได้ไม่น้อย
Better Days
กำกับโดย: ดีเร็กซ์ ทีแซง
นำแสดงโดย: โจวตงหยู, อี้หยางเชียนสี
ความยาว: 135 นาที
เข้าฉาย: 30 มกราคม 2020
นี่คือหนังจีน-ฮ่องกงที่ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ ได้เข้าชิงรางวัลฮ่องกงฟิล์มประจำปีได้ถึง 12 สาขา พร้อมกับยังคว้าคะแนนเต็ม 100 บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes และแน่นอนว่า...เราก็เทใจเต็มร้อยให้กับหนังเรื่องนี้เช่นเดียวกัน หนังที่มาพร้อมกับประเด็นสะท้อนสังคมปัจจุบันได้อย่างลึกซึ้ง ผ่านมุมมองของเด็กวัยรุ่นที่กำลังจะเติบโตไปเผชิญหน้ากับสังคมกว้าง ระหว่างของพวกเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวมากมาย
ไม่น่าแปลกใจเลยที่หนังทำเงินเปิดตัวได้ทะลุ 100 ล้านหยวนในวันแรกที่เข้าฉาย ก่อนจะฟันรายได้ทั่วแผ่นดินใหญ่ไปมากถึง 1.3 พันล้านหยวน และกลายเป็นหนึ่งในหนังจีนยุคใหม่ที่เข้าไปอยู่ในใจของนักดูหนังชาวไทยหลายๆ คนด้วย กับเรื่องราวที่เข้มข้นและกดดันที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างงดงาม และยังให้กลิ่นอายสไตล์หนังฮิตอมตะอย่าง "ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ" เข้ามาด้วย เติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับหนังเรื่องนี้เข้าไปอีก
Portrait of a Lady on Fire
กำกับโดย: เซลีน เซียมมา
นำแสดงโดย: โนลมิ มอร์เลนท์, อเดลล์ แฮนเนล
ความยาว: 120 นาที
เข้าฉาย: 20 กุมภาพันธ์ 2020
หนังฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าของ 2 รางวัลจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ กลายเป็นหนังรัก...ไม่อาจห้ามรักที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และการถ่ายทอดอารมณ์ผ่านภาษากายได้อย่างลงตัว พร้อมกับขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในหนังรักที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่ม LGBTQ ที่ยอดเยี่ยมอีกเรื่องไปโดยปริยาย ความรักที่ก่อตัวขึ้นแบบไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ ของผู้หญิง 2 คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูกเมื่อทั้งคู่ได้พบเจอกัน
ผลงานของผู้กำกับหญิง "เซลีน เซียมมา" ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างละเมียดละไมอีกครั้ง และมอบความรัก-ความปรารถนาแสนลึกซึ่งให้เกิดขึ้นตามระดับพัฒนาการความสัมพันธ์ของตัวละครหญิงทั้งคู่ ขณะที่นักแสดงนำหญิงทั้ง 2 ก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี โดยการสื่อสารผ่านภาษากายและการมองได้อย่างดี ปล่อยให้คนดูได้คิดวิเคราะห์ตามว่าตัวละครกำลังคิดอะไรอยู่ เป็นความน่าพิศวงที่ต้องตีความ และก็ประทับใจทุกฉากความรักของคนทั้งคู่
Ask Dr. Ruth
กำกับโดย: ไรอัน ไวท์
นำแสดงโดย: ดร.รูธ เวสต์ไฮเมอร์
ความยาว: 100 นาที
เข้าฉาย: 13 กุมภาพันธ์ 2020
เป็นหนึ่งในหนังที่ให้ผลลัพธ์ออกมาเกินความคาดหมายจริงๆ หนังสารคดีที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงชาวอพยพตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่กลายมาเป็นหนึ่งในกูรูและที่ปรึกษาปัญหาทางเพศให้กับชาวอเมริกานับล้านคนตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา และหญิงผู้นั้นก็คือ ดร.รูธ เวสต์ไฮเมอร์ จากเด็กเยอรมันที่เกิดขึ้นช่วงยุคสงคราม กลายเป็นมาเป็นที่รักของคนอเมริกาในช่วงยุค 80-90s ได้อย่างหมดใจ
ดร.รูธ เวสต์ไฮเมอร์ กลายเป็นที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญในด้านความสัมพันธ์ทางเพศ หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวของเธอออกมาได้หลากหลายทิศทางและครบทุกองค์ประกอบ เปิดเผยชีวิตของเธอออกมาได้ทุกแง่มุม แม้ว่าหนังจะไม่ได้มีมิติอะไรมากมาย แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนที่มีประสบการณ์ชีวิตที่น่าสนใจ หนังเรื่องนี้จึงได้ตีแผ่ความเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ทำให้คนได้หลงรักเธอมากยิ่งขึ้นอีก เป็นหนึ่งในหนังสารคดีที่ดูง่ายและย่อยง่ายเช่นกัน
Last Letter
กำกับโดย: ชุนจิ อิวาอิ
นำแสดงโดย: เรียวโนสุเกะ คามิกิ, ซึสุ ฮิโรเสะ, ทากาโกะ มัตสึ, มาซาฮารุ ฟุคุยามะ
ความยาว: 120 นาที
เข้าฉาย: 12 มีนาคม 2020
ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับคนดังชาวญี่ปุ่น "ชุนจิ อิวาอิ" ที่ดูเหมือนว่าจะกลับไปเล่าเรื่องที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เขาประสบความสำเร็จมาได้จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าโจทย์ของหนังจะดูเรียกน้ำตาและเล่าไม่ได้ยากเย็น แต่เมื่อต้องมาสร้างขึ้นในยุคที่ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือกันหมดแล้ว การสื่อสารด้วยจดหมายสักฉบับก็ดูจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลไปเสียแล้ว จดหมายฉบับสุดท้ายของคนๆ หนึ่งได้เปิดและเยียวแผลใจให้กับหลายๆ คนอย่างไม่คาดคิด
ก่อนหน้านี้เคยทำให้หนัง Love Letter ของเขา กลายเป็นหนังฮิตอมตะ กับฉากกู่ตะโกนลั่นหุบเขาที่ยังคลาสสิกมาถึงทุกวันนี้ เมื่อเวลาผ่านไปมาจนถึงจดหมายฉบับสุดท้าย เขาก็ยังคงเล่าเรื่องได้อย่างมีเสน่ห์และกินใจได้เช่นเคย ผ่านตัวละครที่เป็นผู้ใหญ่ ผ่านร้อนผ่านหนาวกับชีวิตมาหลายปี ก็เหมือนการถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของคนในวัยกลางคน ที่ได้มีโอกาสกลับมาทบทวนความทรงจำ ทั้งสุขและทุกข์ในชีวิตที่ผ่านมา
Jojo Rabbit
กำกับโดย: ไทกา ไวทีที
นำแสดงโดย: โรแมน กริฟฟิน เดวิส, สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน, ไทกา ไวทีที
ความยาว: 108 นาที
เข้าฉาย: 12 มีนาคม 2020
กลายเป็นหนังรางวัลออสการ์เรื่องสุดท้ายที่ได้มีโอกาสได้เข้าฉายในบ้านเรา และก็ถือว่าเป็นการปิดโปรแกรมออสการ์ได้อย่างประทับใจจริงๆ เจ้าของรางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม จากนิยายของนักเขียนหญิง คริสทีน ลูวเนนส์ ถ่ายทอดเรื่องราวความโหดร้ายในช่วงยุคนาซีผ่านสายตาเด็กไร้เดียงสา ที่ทำให้บรรยากาศตึงเครียดของประวัติศาสตร์...ผ่อนคลายลงได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ต้องขอบคุณวิสัยทัศน์และมุมมองของผู้กำกับ "ไทกา ไวทีที" ที่ดัดแปลงความเลวร้ายเป็นความบันเทิงที่แตะต้องได้อย่างสมบูรณ์แบบ
การแสดงเรื่องแรกของนักแสดงเด็ก "โรแมน กริฟฟิน เดวิส" ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องชื่นชม และยังได้แรงส่งเสริมดีๆ จากการแสดงของ "สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน" ยิ่งทำให้หนังเรื่องนี้ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกระดับ หนังสามารถสร้างเสียงหัวเราะ มองดูอย่างเอ็นดู และน้ำตาไหลออกมา ได้ภายในเวลาชั่วโมงเศษๆ พร้อมทั้งยังสะท้อนประเด็นความเหลื่อมล้ำทางสังคมและความโหดร้ายจากภัยสงครามที่ไม่เคยได้มาซึ่งสันติภาพ...
----------------------------------------------------