รีเซต

หญิง กัญญา เปิดใจ ผ่าตัดเนื้องอกต่อมน้ำลาย ใกล้จุดเสี่ยง วิตก! กลัวหน้าเบี้ยว

หญิง กัญญา เปิดใจ ผ่าตัดเนื้องอกต่อมน้ำลาย ใกล้จุดเสี่ยง วิตก! กลัวหน้าเบี้ยว
ข่าวสด
11 สิงหาคม 2564 ( 12:19 )
640

หญิง กัญญา เปิดใจ ผ่าตัดเนื้องอกต่อมน้ำลาย ใกล้จุดเสี่ยง วิตก! กลัวหน้าเบี้ยว อัพเดตล่าสุด ปลอดภัยแล้ว

หญิง กัญญา เปิดใจ - เริ่มแอดมิตผ่าตัดเนื้องอกต่อมน้ำลายช่วงเย็นวันที่(10ส.ค.64) ดาราสาว หญิง กัญญา ไรวินท์ ได้โพสต์ข้อความ และรูปภาพก่อนที่จะเข้าผ่าตัด เผยถึงอาการปวดของโรคเนื้องอกต่อมน้ำลาย ที่เป็นมานานราว 10 ปี

โดย หญิง กัญญา ได้ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดออนไลน์ เผยถึงอาการเป็นเนื้องอกต่อมน้ำลาย ที่คลำเจอเนื้องอกที่โตขึ้นหนึ่งเซน จนมีอาการปวดถี่ขึ้น จนกระทั่งตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดออก

รู้ตัวว่าเป็นเนื้องอกต่อมน้ำลายตั้งแต่เมื่อไหร่? "จริงๆเราจับเจอมานานแล้ว ประมาณ 10 ปี แต่ว่ามันไม่มีพิษสงอะไร พอปีที่แล้ว ต้นปีก็รู้สึกว่าเวลากินข้าวคำแรก หรือ อมลูกอมคำแรก มันรู้สึกจี๊ดขึ้นมาแบบโอ้ย! สักพักพอเคี้ยวไปหาย ดังนั้นมันจะเป็นเกือบทุกครั้งที่กินข้าว แล้วพอมาหาหมอก็ทำซีทีสแกน ก็เจอว่ามันใหญ่ประมาณเซนกว่า

ซึ่งตอนนั้นคุณหมอบอกว่ามันมีความเสี่ยงในการผ่าตัด เพราะว่าจุดนี้มันเป็นจุดที่เส้นประสาทหนึ่งเส้น แยกออกมาเป็น 4-5 เส้น ซึ่งถ้าเส้นประสาทช้ำ เส้นประสาทขาด หรือว่าเส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือนก็อาจจะมีปัญหาว่าน่าจะเบี้ยวหรือเปล่า หน้าจะปิดสนิทไหม น้ำลายจะไหลหรือเปล่า ตอนนั้นเราฟังเราก็กลัว

เมื่อก่อนเรารู้สึกว่าไม่เป็นไรหรอกเราทนได้ แค่กินข้าวคำแรกเองก็เลยปล่อยเอาไว้ แต่พอมาปีนี้อยู่เฉยๆก็รู้สึกว่าเจ็บจี๊ดขึ้นมา มันจี๊ดจนเรารู้สึกว่ามันไม่ได้แล้ว มันผิดปกติมากขึ้นกว่าเดิม เราก็เลยมาหาคุณหมออีกทีนึง คุณหมอก็เลยบอกว่ามันโตขึ้นไปติดกับต่อมน้ำลาย เวลาน้ำลายออกมา มันก็เลยจะเจ็บ เลยตัดสินใจผ่าเลยค่ะ"

ช่วงก่อนหน้านี้ทำไมถึงไม่เลือกที่จะผ่าตัด? "คือเราจับดูแล้ว มันก็ไม่โต ก่อนหน้านี้เคยให้คุณหมอดูคุณหมอก็จับๆ แต่ไม่ถึงกับเอ็กซเรย์เขาบอกว่าให้คอยดูก่อน ถ้ามันยังไม่โตก็ไม่เป็นไร เพราะมันอยู่กับเรามานานแล้ว ถ้ามันไม่ผิดปกติก็โอเค"

เนื้องอกต่อมน้ำลายเกิดขึ้นจากปัจจัยอะไร? "อย่างพี่ผ่ามาแล้วหลายครั้ง ครั้งแรกที่หน้าอก ครั้งที่สองที่มดลูก ครั้งที่สามต่อมน้ำลาย ซึ่งคุณหมอบอกว่าคนเรามันจะมีเชื้ออยู่แล้ว บางคนก็จะขึ้นจุดเดิม บางคนก็จะขึ้นจุดใหม่ แต่ของพี่คงอยู่ในเคสที่ขึ้นหลายๆที่ เราก็เคยถามหมอนะว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร หมอก็บอกว่ามันเกิดขึ้นจากหลายอย่างเหมือนกัน มันไม่ได้มีอะไรที่บ่งชี้ได้ว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร"

ได้ยินว่าจุดที่จะผ่าใกล้กับเส้นประสาทหลายเส้น เราได้ไปปรึกษาผู้ที่เคยมีประสบการณ์ เขาว่าอย่างไรบ้าง? "คือพี่เห็นในข่าวว่าเขาเคยผ่าแล้ว เราก็เลยเอาคนที่ไว้ใจได้ว่าคุณหมอเคยทำให้ใครแล้วรู้สึกว่าโอเค เขาก็บอกว่าเคสของเขาก้อนใหญ่มาก ซึ่งก้อนใหญ่มันก็ดีตรงที่ว่ามันเฉือนออกง่าย แต่อย่างก้อนของพี่หญิงมันเป็นก้อนเล็ก แล้วหน้าพี่คือไม่ได้มีไขมัน มันก็อาจจะยากหน่อย เพราะไม่งั้นมันก็อาจจะเฉือนออกได้เลย พี่ต้นก็ให้กำลังใจว่าเดี๋ยวพักรักษาตัวก็ไม่นานเท่าไหร่ ซึ่งของหญิงคุณหมอบอกว่าอาจจะ 4-5 วัน ที่นานเป็นเพราะว่าต้องรอเบนน้ำลายที่ค้างจากส่วนตรงนี้ออกให้หมด"

 

ตอนนี้กังวลใจไหม เป็นจุดที่ใกล้เส้นประสาท ซึ่งจะถึงเวลาผ่าตัดแล้ว? "(ยิ้ม) กลัวอยู่เหมือนกัน คุณหมอบอกว่าจะใช้วิธีผ่าจากหลังหูกรีดออกมาแล้วก็เปิด และค่อยๆผ่าซึ่งเรากลัวผลข้างเคียงมากกว่า กลัวว่ากลับมาหน้าจะเบี้ยวหรือเปล่า จะเป็นอะไรมั้ย ก็ได้แต่ ภาวนาแล้วก็เชื่อใจคุณหมอ เชื่อใจเครื่องมือแพทย์ เพราะถ้าไม่ทำวันนี้ก็ต้องทำในอนาคตอยู่ดี เราก็ไม่รู้ว่าในอนาคตมันจะหนักกว่านี้ จะยากกว่านี้หรือเปล่าค่ะ"

หาข้อมูลการผ่าตัดมากน้อยแค่ไหน? "ก็ถามพี่ต้นนี่แหละ ด้วยความที่พี่ต้นเคยผ่านมาแล้ว ก็ไม่ได้มีเอฟเฟ็กต์อะไร เราก็เชื่อพี่ต้นนั่นแหละค่ะ เพราะว่าเราก็ไม่ได้มีความรู้มากมายกว่าคุณหมอ ซึ่งพี่ต้นก็บอกว่าเดี๋ยวนี้เครื่องมือมันทันสมัย มันจะมีตัวที่คอยมอนิเตอร์คอยเช็ก คอยควบคุมเส้นประสาทอยู่ ดังนั้นหญิงก็เลยถามคุณหมอว่ามันเป็นการผ่าตัดใหญ่มั้ย คุณหมอบอกว่าไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่ แต่เป็นการผ่าตัดละเอียดก็ค่อนข้างที่จะใช้เวลานาน เพราะมันต้องค่อยๆทำเกี่ยวกับเส้นประสาทค่ะ"

ตอนนี้มันมีผลต่อการพูด ต่อการกิน การใช้ชีวิตประจำวันมากน้อยแค่ไหน? "การกิน การพูด อย่างที่บอกกินข้าวคำแรกจะปวดอยู่ เฉยๆก็ปวดค่ะ วันนี้ยังแซวตัวเองอยู่เลยว่าเหมือนน้องเขาจะรู้ตัวนะ เพราะเริ่มปวดขึ้นมาแต่บางวันก็ไม่ปวดนะ ซึ่งวันไหนปวดก็จะปวดแบบจี๊ดขึ้นมาเลยค่ะ ทรมาน"

วันนี้มีใครมาส่งผ่าตัด? "ด้วยมาตรการโควิด19 คนที่มาเฝ้าเราก็ต้องเป็นคนเดียวกัน และห้ามออกไปไหนเลย ดังนั้นก็จะต้องเป็นพี่คนที่เขาว่างหน่อย ก็เลยให้พี่ช่างแต่งหน้าประจำค่ะ สนิทกัน แล้วเราสองคนก็ต้องมา Swab ก่อน พอผ่านถึงผ่าได้ แล้วพอมาถึงปุ๊บก็จะต้องอยู่แต่ในโรงพยาบาล ติดบัตร ห้ามออกไปไหน จริงๆคนในครอบครัวพี่น้องทุกคนก็ไม่ได้ว่างก็เลยเอาพี่ที่สนิทกันดีกว่า จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนคุณพ่อคุณแม่ด้วยค่ะ"

ตอนนี้กังวลใจยังไงบ้างจะเข้าห้องผ่าตัดแล้ว? "ถามว่ากลัวไหมแอบกลัวเล็กๆค่ะ อยากให้ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปด้วยดี อยากให้ฟื้นตัวเร็วเพราะว่ามันเป็นจุดที่อยู่บนใบหน้าค่ะ ถ้าเป็นจุดอื่นก็จะไม่ค่อยน่ากลัว แล้วอีกอย่างหนึ่งคือแอบกลัวโรงพยาบาล เพราะว่าเป็นคนไฮเปอร์ สองครั้งที่เคยผ่าตัดมารู้สึกว่านอนบนเตียงเฉยๆมันทรมานมากๆ

ขอให้ครั้งนี้มันลุกเดินไปไหนมาไหนได้ เดินในห้องก็ยังดี ตอนนี้โหลดหนังมาเต็มเลยค่ะ เตรียมหนังสือเตรียมไอแพด สิ่งบันเทิงต่างๆ เพื่อที่จะอยู่โรงพยาบาลไม่เบื่อก็มองข้ามเรื่องผ่าตัดไปเลย เพราะว่าเชื่อหมอจะต้องเก่งและทำให้เราปลอดภัยได้ค่ะ"

เตรียมตัวการผ่าตัดยังไงบ้าง? "งดน้ำ งดอาหารตามปกติค่ะ เมื่อวานนี้ก็ยังออกกำลังกายอยู่ สัปดาห์ที่ผ่านมาก็พยามออกกำลังกาย จริงๆออกทุกวันค่ะ แต่บางคนอาจจะคิดว่าผ่าตัดต้องพักผ่อน ไม่เลย เรารู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงก็ยิ่งน่าจะฟื้นตัวได้เร็ว"

สำหรับคนที่ไม่รู้ตัวว่ามีความผิดปกติกับใบหน้า เขาควรจะสังเกตตัวเองยังไง? "ผู้หญิงทุกอย่างต้องคลำด้วยตัวเอง เพราะว่าครั้งแรกที่หญิงผ่าเนื้องอกที่หน้าอก ตอนอายุ 27 ไม่ใช่ว่าจะเกิดกับคนแก่เท่านั้นนะ สมัยสาวๆก็เจอได้แล้ว ถ้าตรวจเช็กแล้วรู้สึกว่าเจออะไรผิดแปลกให้พบคุณหมอดีกว่า เพราะถ้าผ่าเร็ว เจอคุณหมอเร็ว โอกาสที่มันจะหายก็มากกว่า

จากเล็กๆมันอาจจะกลายเป็นใหญ่ก็ได้ ถ้าเรามองข้ามหรือว่าละเลย ที่สำคัญต้องคอยมอนิเตอร์ด้วยตัวเราเอง อย่างหญิงเป็นคนใส่ใจจะรู้เลยว่าครั้งนี้เจ็บมากขึ้นนะ ครั้งนี้เจ็บถี่ขึ้น ถ้าเป็นไปได้คือจดเลยว่าเจ็บกี่ครั้ง เราจะได้มีข้อมูลเล่าให้คุณหมอฟังว่าอาการมันเป็นยังไง สังเกตดีที่สุดค่ะ"

สำหรับคนที่ไม่มีเงิน มันจะรุนแรงไหม เราสามารถรักษาเองแบบไม่ผ่าได้ไหม? "ไม่แน่ใจเลย เพราะว่าความรุนแรงของแต่ละคนไม่เท่ากัน เพราะอย่างของพี่ต้นรู้สึกว่าเขาจะบวมออกมาเลย ถ่ายรูปมาจะเห็นว่าคางสองข้างไม่เท่ากัน หญิงว่าในเรื่องของการรักษาคงต้องปรึกษาคุณหมอมากกว่าค่ะ ไม่แน่ใจ"

หลังจากการผ่าตัดในครั้งนี้ กลัวไหมว่าเนื้องอกจะลามไปจุดอื่นๆอีก? "ต้องคอยตรวจเช็กตัวเองไปเรื่อยๆจริงๆค่ะ ยิ่งคนที่เคยเจออะไรแบบนี้ ยิ่งต้องคอยมอนิเตอร์อย่างที่บอกไปถ้าไม่ขึ้นตรงนี้ก็อาจจะขึ้นตรงอื่น ก็ต้องคอยอัพเดตตลอด เพราะว่าร่างกายเราใช้งานมาเยอะ บางทีทำงานหนัก พักผ่อนน้อย

ทุกอย่างมันสามารถเกิดได้หมด ไม่ว่าจะเด็ก ไม่ว่าจะแก่ ที่ต้องใช้ร่างกายก็ต้องใส่ใจดูแล เพราะว่าโลกสมัยนี้ ยิ่งช่วงนี้โควิดเวลามาโรงพยาบาลจะต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น กว่าจะเดินขึ้นมาถึงได้มาตรการเขาก็ค่อนข้างที่จะดี เข้มงวด ญาติก็ไม่สามารถเดินเข้ามาได้ง่ายๆ ต้องมีบัตรประจำตัวติดไปมา ตอนนี้หญิงว่าอันตรายทุกอย่าง เราก็ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดดีกว่าค่ะ"

ต้องใช้เวลาฟื้นตัวกี่วัน? "น่าจะ 4-5 วันโดยประมาณค่ะ แล้วแต่ว่ามันจะเบนน้ำลายออกหมดเร็วแค่ไหนค่ะ"

ช่วงนี้ก็พักงานก่อน? "ใช่ค่ะ ช่วงนี้ก็เคลียร์คิวงานเอาไว้ แลกคิวงานอาทิตย์นี้เรียบร้อยแล้วค่ะ เดี๋ยวต้องคอยดูว่ามันจะหายทันหรือเปล่า"

ให้กำลังใจตัวเองยังไง? "อย่างที่บอกไปว่าเคยผ่านมาแล้วหลายครั้ง คิดว่าผ่าให้มันจบๆไป เราอยู่ในโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือที่ดี มีคุณหมอที่เก่ง เราก็ต้องรอด คิดอย่างนี้ค่ะ สุขภาพร่างกายเราตอนนี้ถ้าเราไม่จัดการตอนนี้ มัวแต่เลื่อน มัวแต่กลัว เดี๋ยวมันจะยิ่งแย่ไปกว่าเดิม ทำใจทีเดียว กัดฟันทีเดียวดีกว่าค่ะ"