รีเซต

5 เหตุผลที่ "Surely Tomorrow เพียงพรุ่งนี้ ยังมีหวัง" เป็นซีรีส์โรแมนติก ที่ทุกคนรอชม

5 เหตุผลที่ "Surely Tomorrow เพียงพรุ่งนี้ ยังมีหวัง" เป็นซีรีส์โรแมนติก ที่ทุกคนรอชม
Jeaneration
6 ธันวาคม 2568 ( 09:00 )
62

กระแสความสนใจพุ่งถึงขีดสุด เมื่อทีมนักแสดงและทีมงานจากซีรีส์ Surely Tomorrow (เพียงพรุ่งนี้ ยังมีหวัง) ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในงานแถลงข่าวของซีรีส์ ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ พร้อมเผยตัวอย่างความรักโรแมนติกสุดประทับใจให้แฟนๆ ได้ชม โดยงานนี้ ผู้กำกับอิมฮยอนอุค พร้อมด้วยสองนักแสดงนำอย่าง พัคซอจุน และ วอนจีอัน ได้ร่วมพูดคุยถึงเนื้อหาที่น่าสนใจของซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็นจุดพลิกผันทางอารมณ์ในเรื่อง พัฒนาการของตัวละครที่คาดไม่ถึง และเคมีชวนใจเต้นที่แฟนซีรีส์ต่างเฝ้ารอคอย

Surely Tomorrow (เพียงพรุ่งนี้ ยังมีหวัง) ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของ อีคยองโด (พัคซอจุน) และ ซอจีอู (วอนจีอัน) ทั้งคู่เคยตกหลุมรักกันครั้งแรกในช่วงวัยยี่สิบ ก่อนจะเลิกรากันไป และกลับมาพบกันอีกครั้งในวัยยี่สิบปลายๆ พวกเขาเปิดโอกาสให้ความรักอีกรอบ แต่แล้วก็ต้องแยกทางกันอีกครั้ง จนกระทั่งหลายปีต่อมา โชคชะตานำพาทั้งคู่กลับมาพบกันโดยบังเอิญ โดยคยองโดเป็นนักข่าวที่กำลังทำข่าวประเด็นอื้อฉาว และจีอูอยู่ในฐานะภรรยาของชายผู้ถูกพูดถึงในข่าว ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องจากสังคมและอดีตที่เคยผ่านมาของพวกเขา จึงเกิดเป็นเรื่องราวบทที่สามอันไม่คาดฝันขึ้นอีกครั้ง เตรียมรับชมซีรีส์เรื่องนี้ตอนแรกวันที่ 6 ธันวาคม พร้อมตอนใหม่ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ บน Prime Video ประเทศไทยและกว่า 240 ประเทศและเขตแดนทั่วโลก

และแล้วเมื่อลมเย็นพัดมา ก็ถึงเวลาเติมความอบอุ่นให้หัวใจ พบกับ 5 เหตุผลที่ทำให้ Surely Tomorrow จะเป็นซีรีส์รักสุดประทับใจ ที่ใครได้ดูต่างก็ต้องพูดถึง

  1. การกลับมาของ พัคซอจุน ในบทบาทที่หลายคนรอคอย

สิ้นสุดการรอคอย กว่าห้าปีหลังจากสร้างปรากฏการณ์ซีรีส์ฮิตถล่มทลายใน Itaewon Class ในที่สุด พัคซอจุน ก็หวนคืนสู่จอละครอีกครั้งในบทบาทที่เน้นอารมณ์ความรู้สึก แม้ช่วงที่ผ่านมาเขาจะเคยสร้างความประทับใจมาแล้วใน Concrete Utopia, The Marvels และ Jinny’s Kitchen แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แฟนๆต่างเฝ้ารอคอยที่จะได้เห็นเขาในซีรีส์ดราม่ายุคปัจจุบันที่ซึ้งกินใจ และ Surely Tomorrow คือคำตอบที่ใช่สุด

  1. ทีมผู้สร้างระดับท็อปฟอร์ม

ด้วยการนำทัพของ ผู้กำกับอิมฮยอนอุค (King the Land, Reflection of You) และนักเขียนบทชื่อดัง ยูยองอา (Divorce Attorney Shin, Thirty-Nine) รับประกันได้เลยว่าซีรีส์เรื่องนี้จะถูกรังสรรค์การเล่าเรื่องอย่างประณีตพร้อมด้วยคุณภาพ ทั้งการเล่าเรื่องที่เปี่ยมไปด้วยความลึกซึ้งของอารมณ์และงานภาพ ในแต่ละฉากจะทิ้งความประทับใจไว้ให้ผู้ชมแม้ว่าซีรีส์นั้นจะจบไปแล้วก็ตาม

  1. ฉีกกรอบเดิมสู่บทบาทใหม่ที่ท้าทายกว่า

พระนางทั้งสองต่างก้าวเข้าสู่บทบาทที่แตกต่างจากที่เคยสัมผัสมาก่อน พัคซอจุนแนะนำตัวละครของเขาว่า “คยองโดเป็นนักข่าวสายบันเทิงผู้เสมอต้นเสมอปลายและมั่นคง เขาเป็นคนละเอียดอ่อน ใส่ใจ และช่างคิด แต่ก็มีความมุ่งมั่นครับ” นักแสดงหนุ่มยังพูดถึงความท้าทายในการรับบทนักข่าวว่า “ผู้กำกับของเราเคยเป็นนักข่าวมาก่อนครับ ผมเลยถามคำถามเจาะลึกกับเขาเยอะมาก”

ทางด้านวอนจีอันก็ได้เผยถึงตัวละครของเธอว่า “จีอูเป็นคนคาดเดาไม่ได้ค่ะ มีชีวิตชีวา แต่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เธอยังต้องแบกรับความเจ็บปวดไว้ภายใน การได้พบกับคยองโดทำให้เธอเติบโตขึ้น ตัวละครของฉันมีการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลาย ฉันคิดว่าพวกคุณจะได้เห็นมิติที่แตกต่างของเธอค่ะ” เธอยังพูดถึงความท้าทายในการรับบทตัวละครวัยสามสิบเป็นครั้งแรกว่า “มีความกดดันอยู่บ้างที่ต้องเล่นข้ามช่วงอายุตัวละคร แต่พอได้พูดคุย ได้เข้าฉาก และการใช้จินตนาการเข้าช่วย ฉันคิดเลยว่าโปรเจกต์นี้ทำให้ฉันเติบโตขึ้นมากในฐานะนักแสดงค่ะ”

  1. นิยามความรักผ่านกาลเวลาและฤดูกาล
    ผู้กำกับอิมฮยอนอุคเผยว่าซีรีส์ดำเนินเรื่องผ่านช่วงเวลาที่สลับไปมา เพื่อถ่ายทอดวิวัฒนาการของความรักในแต่ละฤดูกาลของชีวิต “ตัวละครจะปรากฏให้เห็นในช่วงเวลาที่แตกต่างกันของชีวิตครับ ผมคิดว่าวิธีการนำเสนอช่วงเวลาต่างๆ ในซีรีส์เรื่องนี้มีความเป็นเอกลักษณ์มาก มันไม่ได้เรียงตามลำดับเวลา และช่วงเวลาที่เจาะจงก็ไม่ได้สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือน้ำหนักของความสัมพันธ์ในแต่ละช่วงเวลา ผมต้องการนำเสนอฤดูกาลต่างๆ เพื่อให้เห็นความแตกต่างในความสัมพันธ์ของพวกเขา เราจึงต้องถ่ายทำกันครบทั้ง 4 ฤดู ตัวอย่างเช่น เพียงแค่เห็นตัวละครจีอู คุณก็จะบอกได้เลยว่าเธออยู่ในช่วงเวลาไหนครับ”  การได้เห็นอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครที่แปรเปลี่ยนในหลายช่วงเวลา ทำให้ผู้ชมจะได้รู้สึกมิติอารมณ์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
  2. ความโรแมนติกที่ลงตัวในฤดูกาลนี้
    เมื่อลมเย็นเริ่มพัดมา Surely Tomorrowคือเพื่อนคู่ใจที่สมบูรณ์แบบ พัคซอจุนให้ความเห็นว่า “แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ถูกจัดว่าเป็นซีรีส์โรแมนติก แต่ผมคิดว่ามันใกล้เคียงกับเมโลดราม่ามากกว่าครับ คนส่วนใหญ่น่าจะเข้าถึงหลายๆ ส่วนของซีรีส์ได้ ผมคิดว่ามันใกล้เคียงกับความเป็นจริงและมีช่วงเวลาที่สมจริง เป็นซีรีส์ที่เหมาะมากสำหรับการรับชมในช่วงปลายปีเลยครับ”

ด้านวอนจีอันก็เสริมว่า “ฉันคิดว่าน่าจะสนุกสำหรับผู้ชมที่จะได้ลุ้นว่าตอนจบจะสุขหรือเศร้า มันคาดเดาไม่ได้เพราะความสัมพันธ์ของทั้งคู่มีขึ้นมีลง ดังนั้นฉันคิดว่ามันน่าสนุกที่จะคอยติดตามดู ในเมื่ออากาศเริ่มเย็นลงแล้ว ฉันหวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับการชมซีรีส์ในบ้านที่อบอุ่นนะคะ”

เตรียมหัวใจให้พร้อมรับความอบอุ่น ความถวิลหา และเรื่องราวความรักที่คุณจะหลงรักซ้ำๆ ใน Surely Tomorrow (เพียงพรุ่งนี้ ยังมีหวัง) สตรีมได้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เริ่ม 6 ธันวาคม 2568 เฉพาะที่ Prime Video เท่านั้น

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa