รีวิว Sweet Home 3 (สวีทโฮม ซีซั่น 3) การกลับมาของซีซั่นสุดท้ายที่กู้ชื่อเสียงและความสนุกกลับมาได้ บทความรีวิวนี้ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ Sweet Home 3 (สวีทโฮม ซีซั่น 3)เรื่องราวในซีซั่นที่ 3 นี้จะเป็นบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งในซีซั่นนี้เรื่องราวก็จะยังคงต่อเนื่องจากซีซั่นที่ 2 หลังจากที่ ชาฮยอนซู (รับบทโดย ซงคัง) ได้ค้นพบพลังใหม่ของตัวเองและกำลังจะถูกสัตว์ประหลาดภายในจิตใจควบคุมร่าง เขาจะต้องเผชิญกับเรื่องราวในจิตใจเพื่อเอาร่างคืนกลับมาให้ได้ ในขณะเดียวกัน นัมซังวอน หรือ เอ็มเอชวัน ผู้กลายพันธุ์พิเศษอีกคนซึ่งเป็นสามีของ ซออีคยอง (รับบทโดย อีชียอง) ที่ในตอนนี้ไปสิงอยู่ในร่างของ พยอนซังอุค (รับบทโดย อีจินอุค) ก็กำลังเดินทางออกตามหา ลูกสาว (รับบทโดย คิมชีอา) เพื่อจะทำการย้ายตัวเองเข้าไปอยู่ในร่างของลูกสาว ด้วยเหตุนี้ ซออีคยองผู้เป็นแม่จึงต้องหาทางเพื่อปกป้องไม่ให้เขาย้ายร่างได้สำเร็จ โดยท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ทุกคนคงต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Sweet Home 3 (สวีทโฮม ซีซั่น 3) สามารถรับชมได้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflixตัวอย่าง Sweet Home 3 (สวีทโฮม ซีซั่น 3)รีวิว Sweet Home 3 (สวีทโฮม ซีซั่น 3)สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ส่วนตัวผมเองก็ตามดูมาตลอดตั้งแต่ซีซั่นแรกแล้ว ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปดูผมเองก็ไม่ได้ตั้งความดาดหวังเอาไว้เท่าไหร่นัก เพราะจาก 2 ซีซั่นแรกที่ผ่านมานั้นเราได้เห็นกันแล้วว่าตัวซีรีส์มันยังไปได้ไม่สุดเท่าที่ควร พล็อตเรื่องมันดีงามและน่าสนใจมากๆ แต่บทที่เขียนมามันค่อนข้างสะเปะสะปะไปหน่อย โดยเฉพาะซีซั่น 2 ที่ออกทะเลไปปูเรื่องราวตัวละครใหม่เยอะเกินจนทำแฟนๆ หลายคนท้อและทนดูต่อได้ไม่จบ ด้วยเหตุนี้ผมจึงเข้าไปดูซีซั่นนี้แบบหัวโล่งๆ ดูเพราะอยากรู้ตอนจบล้วนๆ อยากรู้ว่าเรื่องราวมันจะไปสุดที่ตรงไหน แต่กลับกลายเป็นว่าซีซั่นนี้เขาเริ่มทำให้มันกลับมาเข้าร่องเข้ารอยได้มากขึ้น กลับมาโฟกัสที่ตัวพระเอกมากขึ้นหลังจากที่ซีซั่นก่อนเป็นแค่ตัวประกอบ แต่ถึงอย่างนั้นการเล่าเรื่องกับการดำเนินเรื่องที่เป็นปัญหาหลักๆ ของซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังคงไม่หมดไปอยู่ดีเข้าใจได้ว่าตัวละครมันเยอะและมีเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมๆ กันหลายอย่าง เขาเลยจำเป็นต้องตัดสลับไปมาอยู่ตลอดว่าใครกำลังทำอะไรอยู่บ้าง เพียงแต่การตัดสลับและการเล่าเรื่องของเขามันไม่ค่อยสมูทเท่าไหร่ เขาดำเนินเรื่องไปแบบเนิบๆ อยู่โทนเดียว ทำให้มันค่อนข้างน่าเบื่อและไม่ค่อยน่าติดตามเท่าไหร่ แต่โชคยังดีที่ซีซั่นนี้เป็นซีซั่นสุดท้าย ทำให้ไม่ต้องปูเรื่องราวอะไรมากมาย เขาเลยสามารถใส่ฉากแอ็คชั่นมาช่วยตัดเลี่ยนให้คนดูได้อยู่บ่อยๆ ใส่เข้ามาทุกตอน ซึ่งมันช่วยให้ความน่าเบื่อลดลงได้เยอะเลย ส่วนตัวแล้วผมมองว่าทั้งเรื่องบทและการดำเนินเรื่องยังคงอยู่ในมาตรฐานเดิมเลย แต่มีฉากแอ็คชั่นมันให้ๆ ดูเลยทำให้มันสนุกขึ้นมาหน่อย และที่สำคัญคือเราได้เห็นพระเอกโชว์เทพซักทีหลังจากที่รอคอยกันมาตั้งนาน แถมตอนช่วงท้ายๆ ก็เดือดและสนุกมากด้วย เรียกได้ว่าหลังจากสะเปะสะปะหลงทางไปนาน สุดท้ายก็กลับมาจบเรื่องราวได้อย่างสวยงามส่วนอื่นๆ ที่เหลือนอกจากบทนั้นในซีซั่นนี้ยังคงทำออกมาได้ดีงามเหมือนเคย นักแสดงในเรื่องเล่นดีกันทุกคน แสดงดีกันหมดตั้งแต่นักแสดงหลักไปยันตัวประกอบ โดยเฉพาะซีนดราม่าซีนอารมณ์นี่เล่นกันดีมาก แต่หากจะพูดถึงสิ่งที่เป็นจุดเด่นที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องงานภาพและการโปรดักชั่น อันเป็นสิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ทำมาได้ดีตลอดตั้งแต่ซีซั่นแรก ซึ่งในซีซั่นนี้ก็ยังคงทำได้ดีและจัดหนักจัดเต็มเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน งานภาพดี ซีจีก็ดีเกือบทุกฉาก มีแค่บางฉากเท่านั้นที่ซีจีดูลอยแบบเห็นได้ชัด แต่ส่วนใหญ๋คือทำออกมาเนียนและสวยมาก สรุปโดยรวมเลยก็คือซีซั่นนี้ยังคงทำออกมาได้ไม่หนีจากมาตรฐานเดิมเท่าไหร่นัก ไม่ได้สนุกมากขึ้นเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แย่ลงด้วยเช่นกัน ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษ แต่นั่นก็ไม่ได้ว่าซีรีส์มันไม่ดีหรือไม่สนุก เพียงแค่มันไม่ถูกจริตผมเฉยๆ แต่มันอาจถูกจริตคุณและสนุกสำหรับคุณก็ได้ ดังนั้น ทางเดียวที่จะรู้ได้ว่ามันดีสำหรับคุณหรือไม่คือคุณต้องไปรับชมและตัดสินมันด้วยตาตัวเองสุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับช่องทางอื่นๆ ในการติดตาม ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลกบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว สืบสันดาน (Master of the House) ซีรีส์ไทยเรื่องใหม่จาก Netflix ที่ยังไปไม่ไกลเกินกว่าละครไทยฉบับอัพเกรดรีวิว Anyone But You (เกลียดนัก รักซะเลย) หนังรอมคอมสูตรสำเร็จติดเรทที่แสนจำเจ แต่ก็เป็นความจำเจที่หลายคนคิดถึงรีวิว Vikings: Valhalla Season 3 (ไวกิ้ง: วัลฮัลลา ซีซั่น 3) การปิดฉากภาคสุดท้ายที่แสนจะน่าเบื่อและจืดชืด รีวิว Freelance (จ็อบระห่ำ คนถึกระทึกโลก) หนังแอ็คชั่นสุดกาวของ John Cena ที่เอาไว้ดูฆ่าเวลาได้เพลินๆรีวิว Blame the Game (รักลุ้น...วุ่นเพราะเกม) จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อความรักอาจถูกพัก เพราะการเล่นบอร์ดเกมรีวิว Twisters ทวิตเตอร์ส (2024) หนังล่าพายุที่สนุกดูเพลินใช้ได้ ภาพสวย ซีจีดี พระนางหล่อสวยทะลุจอรีวิว+ชวนดู Fairy Tail 100 Years Quest ศึกจอมเวทอภินิหาร ภารกิจ 100 ปี การกลับมาในรอบหลายปีที่มาครั้งนี้เพื่อทวงบัลลังก์ ที่ True IDรีวิว Love Reset (30 วันโคตรเกลียดเธอเลย) เรื่องราวความรักวุ่นๆ ของคู่รักที่กำลังจะหย่ากัน แต่ดันประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมทั้งคู่รีวิว The Whirlwind (แผนพลิกอำนาจ) ซีรีส์การเมืองเนื้อหาเข้มข้นจากเกาหลีที่ทุกคนไม่ควรพลาด สนุกเกินคาดแบบรวดเดียวจบรีวิว Nope (ไม่) หนังไซไฟระทึกขวัญที่อยากให้ทุกคนได้ดู ผลงานจากผู้กำกับ Get Outแหล่งที่มาจาก NetflixTH, Netflix Japanภาพปก: ภาพที่ 1ภาพประกอบ: ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4วิดีโอ: สวีทโฮม (Sweet Home) 3 | ตัวอย่างซีรีส์อย่างเป็นทางการ จาก Youtube: Netflix Thailandเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !