"เอ็ดการ์ รามิเรซ" รณรงค์ให้ทุกคนฉีดวัคซีนโควิด-19 กันเยอะๆ อย่ากลัวการฉีด

"เอ็ดการ์ รามิเรซ" (Edgar Ramirez) นักแสดงหนุ่มชาวเวเนซูเอล่า ได้พูดถึงคุณยายของตัวเองที่เสียชีวิตจากการติดโควิด-19 ในสัปดาห์ที่ผ่านในระหว่างการให้สัมภาษณ์โปรโมทหนังเรื่อง "Jungle Cruise" ซึ่งนอกจากคุณยายที่จากไปเพราะโควิด-19 แล้ว คุณป้าอีก 2 คนของนักแสดงหนุ่มวัย 44 ปีก็ได้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าถึงแม้ว่าโควิด-19 จะแพร่ระบาดมาได้ปีกว่าๆแล้วและในตอนนี้ก็มีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนทั่วโลกเป็นจำนวนมาก แต่การแพร่ระบาดของไวรัสร้ายนี้ก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะจบลงง่ายๆเลย

"เอ็ดการ์ รามิเรซ" ได้แสดงความเห็นส่วนตัวว่าในตอนนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ที่ไม่ได้อ้างอิงมาจากการวิจัยหรือหลักการทางวิทยาศาสตร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้คนจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีน ซึ่งนักแสดงหนุ่มที่เคยได้เข้าชิงรางวัลเอ็มมี่และรางวัลลูกโลกทองคำมาแล้วเผยว่าทุกคนควรจะหาข้อมูลเชิงสถิติเพื่อที่จะได้ทราบถึงวิธีการต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 ของวัคซีนแต่ละชนิดที่มีประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไป ส่วนครอบครัวของตัวเองเขาเองก็เหมือนกับครอบครัวของคนทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากโควิด-19 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดของไวรัสร้ายนี้จะยังไม่จบลงง่ายๆแน่นอน

"เอ็ดการ์ รามิเรซ" ได้ใช้ชื่อเสียงในฐานะนักแสดงระดับโลกเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกได้เห็นถึงความสำคัญในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งก็รวมถึงเวเนซูเอล่าประเทศบ้านเกิดของเขาด้วย โดยเวเนซูเอล่าเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่รอการรับบริจาควัคซีนโควิด-19 อยู่ เนื่องจากวัคซีนที่มีอยู่ในเวลานี้นั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งก็ทำให้ประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ที่สามารถเข้าถึงการฉีดวัคซีนได้แต่ตัดสินใจที่จะไม่ฉีดวัคซีน "เอ็ดการ์ รามิเรซ" ก็ได้ฝากข้อความไปยังบุคคลเหล่านั้น ซึ่งเขาคิดว่ามีจำนวนไม่น้อยว่า “ขอให้คนที่ใกล้ชิดกับคนที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีนให้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องกับกลุ่มคนเหล่านี้ เพราะจริงอยู่ที่ว่าผลข้างเคียงหรืออาการแพ้วัคซีนแต่ละชนิดมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่โอกาสถือว่าน้อยมาก และอย่าลืมว่าเมื่อก่อนโลกได้เผชิญหน้ากับวิกฤติโรคระบาดมาแล้วหลายครั้ง แต่มนุษย์ก็สามารถเอาชนะมาได้ทุกครั้งจากการฉีดวัคซีน ขอให้ทุกคนจงเชื่อมั่นในผลการวิจัยและวัคซีน เพราะในขณะนี้การฉีดวัคซีนเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะปกป้องตัวเองและคนที่คุณรักรวมถึงคนที่คุณไม่รู้จักเพื่อไม่ให้เสียชีวิตจากการติดเชื้อและเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ด้วย ส่วนสิ่งที่สำคัญมากๆที่มองข้ามไม่ได้เช่นกันก็คือการหยุดแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวัคซีนผ่านทาง "โซเชี่ยล มีเดีย" ซึ่งถ้าหากจะแชร์ข้อมูลวัคซีนควรเป็นข้อมูลที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การวิจัยที่ผ่านการทดลองเชิงประจักษ์แล้วเท่านั้น