ในช่วงนี้ที่ series "เด็กใหม่ - Girl from nowhere SS 2" กำลังมาแรงอย่างดึงไม่หยุดฉุดไม่อยู่นี้เอง เชื่อว่าคงมีหลายๆคนรู้จักกับ “แนนโน๊ะ” เด็กสาวผู้เป็นตัวละครดำเนินเรื่องหลักในเรื่อง Girl from nowhere ทั้ง 2 ภาคนั่นเอง โดยในภาคแรกในปี 2018 นั้นก็ได้รับเสียงตอบรับจากหลายๆคนอย่างดีเยี่ยมทั้งในและต่างประเทศ และแน่นอนว่าในภาคสองนี้ ที่ทางทีมงานได้ประกาศเองว่า เล่นใหญ่ขึ้น จัดหนักขึ้น สาแก่ใจขึ้น และมีขอบเขตการดำเนินเรื่องที่กว้างขึ้น ทำให้เหล่าแฟนๆผู้ติดตามเรื่องนี้ถึงกับดีใจจนเนื้อเต้นเลยทีเดียวในวันนี้สำหรับใครที่ยังไม่เคยดู หรือว่ายังไม่รู้ว่าควรจะดูดีไหม เราจึงขอนำเสนอสิ่งที่จะทำให้คุณตัดสินใจได้เร็วขึ้นกับ “Girl from nowhere กับ 5 เหตุผลที่ทำไมเราควรลองดูเรื่องนี้ดูซักครั้ง” ไปดูกันเลยครับ1. การเสียดสีและเผยเบื้องหลังของสังคมได้อย่างเข้าใจง่ายและเจ็บแสบคอนเซ็ปต์ของเรื่อง Girl from nowhere ที่ทางทีมงานคิดมา จะมีขอบเขตหลักอยู่ในโรงเรียน เพราะพวกเขาเชื่อว่า "โรงเรียน คือสถานที่ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่หลายๆคนต้องเคยผ่านมันมาอย่างแน่นอน" และเมื่อมันเป็นสิ่งที่หลายคนเคยผ่านมา ก็จะต้องมีหลายสิ่งที่เคยเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งปัญหาการกลั่นแกล้งหลายๆแบบ ความรุนแรงจากคนรอบข้าง ประเด็นร้อนๆต่างๆที่มีมาอย่างยาวนานแต่ก็ยังไม่ถูกแก้ไข เป็นต้น โดยนำเสนอผ่านตัวละครนักเรียนหรือครูในเรื่อง รวมไปถึง แนนโน๊ะ เองด้วย และเมื่อทำให้สิ่งที่เหมือนจะเข้าใจยากสำหรับใครหลายๆคน กลายเป็นเรื่องที่ดูแล้วเข้าใจได้เลยตั้งแต่ครั้งแรก ก็ไม่แปลกใจที่ทำไมใครหลายๆคนถึงเทใจให้ไปเต็มๆ 2. สามารถทำให้คนดูตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆได้มากขึ้นต่อจากข้อแรกที่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในสังคม หรือเมื่อเรารับรู้ถึงการมีอยู่ของมัน ภาพยนตร์หรือการ์ตูนบางเรื่องก็เลือกที่จะนำเสนอการแก้ไขปัญหานั้นตามความคิดไปเลย แต่ในภาค 2 นี้เอง ทางทีมผู้สร้างก็ได้เน้นให้ผู้ดูได้มีส่วนร่วมไปด้วยมากขึ้น นั่นคือ การเน้นไปที่การตั้งคำถาม ตามหลักทั่วไป เพื่อให้ผู้ดูได้ขบคิดไปด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันปกติหรือไม่ เราควรจะจัดการกับสิ่งนั้นยังไง ใครควรทำแบบไหน และอีกร้อยแปดพันเก้าคำถาม ที่ แนนโน๊ะ ได้ทิ้งเอาไว้ให้ท่านผู้ชมได้หาคำตอบด้วยตัวเอง.3. ความ Iconic ที่ยากจะลืมเลือนการเสียดสีสังคมเป็นเรื่องปกติที่เราพบได้จากหลายวงการ ทั้งการ์ตูน ภาพยนตร์ ละคร และอื่นๆอีกมากมาย แต่หลายเรื่องก็ไม่สามารถทำให้คนดูจดจำได้มากเท่าที่ควร นั่นเพราะหลายๆเรื่องยังขาดภาพจำของตัวเองอยู่ หรือก็คือความ Iconic สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เรื่อง Girl from nowhere มีค่อนข้างมากในหลายๆฉาก เพราะหลายๆคนยังสามารถจดจำสิ่งที่ตัวเองเคยเห็นในเรื่องนี้ไปแล้วได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ขนหัวลุกแบบสุดๆ ฉากดราม่าน้ำตาซึม ฉากความซาดิสโหดเหี้ยม และอีกมากมายที่หลายคนอาจจะมีในดวงใจอยู่แล้ว.4. ความชัดเจนใน Characterไม่สามารถปฏิเสธได้จริงๆว่า ตัวละคร แนนโน๊ะ รวมถึงตัวละครอื่นๆในเรื่องนั้น สามารถสร้าง character ให้กับตัวเองได้โดยที่แทบจะไม่หลุดออกมาเลยได้อย่างดี เพราะหลายคนที่แม้จะเคยเห็นแค่ teaser เพียงไม่กี่นาที เราก็สามารถจดจำลักษณะของตัวละครนั้นๆ ได้อย่างคร่าวๆแล้ว ซึ่งเราก็ต้องขอยกความดีความชอบนี้ให้กับทางทีมงาน ที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมาได้อย่างมีเสน่ห์ รวมถึงนักแสดงทุกคนและ คุณ คิทตี้ - ชิชา อมาตยกุล เองด้วย ที่สามารถเล่นบท แนนโน๊ะ ได้อย่างยอดเยี่ยม จนกลายเป็นสิ่งที่ทำให้แทบทุกคนรู้จักและอยากลองเข้ามาดูเรื่องนี้เลยก็ว่าได้.5. บรรยากาศที่หลากหลายจนสามารถสับรางความคิดของคนดูได้สิ่งสุดท้ายที่คล้องทุกสิ่งเอาไว้ให้เชื่อมกัน นั่นคือบรรยากาศที่มีมาให้ชมกันอย่างครบรส ทั้งเศร้า ทุกข์ สนุก สยองขวัญ ยันเลือดสาด รวมทั้งความจิตที่มาพร้อมความอึดอัดในบางฉาก ทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สามารถทำให้คนดูที่เข้ามาดูเรื่องนี้สามารถดู series นี้ได้จนจบแบบที่ไม่มีเบื่อเลย และบางครั้ง บรรยากาศเหล่านี้เอง ก็สามารถทำให้คนดูคิดไปต่างๆนาๆจนอาจจะทำให้บางคนคาดไม่ถึงกับความหักมุมที่เกิดขึ้นเลยก็ได้.เป็นยังไงกันบ้างครับ กับ "Girl from nowhere" กับ 5 เหตุผลที่ทำไมเราควรลองดูเรื่องนี้ดูซักครั้ง ถ้าชอบก็สามารถบอกต่อได้นะครับ และหากใครดูมาแล้ว ก็สามารถมาพูดคุยหรือแชร์กันได้ในคอมเมนต์เลย แต่ขอความกรุณาอย่าสปอยล์นะครับ เพื่อรักษาความเป็นส่วนรวมเอาไว้สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูขอขอบคุณภาพประกอบจาก..ภาพปก : เพจเด็กใหม่ - Facebookภาพ1 / ภาพ2 / ภาพ3 / ภาพ4 / ภาพ5 : เพจเด็กใหม่ - Facebook #เด็กใหม่ #GirlFromNowhere #Dannylionさん เขียน