ภาพยนตร์ How to Train Your Dragon (2025) ฉบับคนแสดง จะพาเราย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของมหากาพย์มิตรภาพอันยิ่งใหญ่บน เกาะเบิร์ก (Berk) ดินแดนที่ซึ่งเหล่าไวกิ้งผู้แข็งแกร่งดำรงชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อที่ว่า "มังกรคือศัตรูตัวฉกาจ" และการสังหารมังกรคือเกียรติยศสูงสุด รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เนื้อเรื่องย่อ เรื่องราวจะโฟกัสไปที่ ฮิคคัพ เด็กหนุ่มไวกิ้งที่ไม่เหมือนใคร เขาผอมบาง อ่อนแอ และไม่ถนัดในการต่อสู้หรือล่ามังกรเหมือนไวกิ้งคนอื่นๆ ฮิคคัพมักจะถูก สตอยค์ พ่อของเขาซึ่งเป็นหัวหน้าเผ่าผู้แข็งแกร่ง ผิดหวังในตัวเขาอยู่เสมอ และเพื่อนๆ ในเผ่าก็มักจะมองเขาเป็นตัวประหลาด แต่แล้วชีวิตของฮิคคัพก็เปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อเขาได้พบกับ เขี้ยวกุด ที่หายากและบาดเจ็บจากการตกหลุมพรางแทนที่จะสังหารมันอย่างที่ไวกิ้งคนอื่นจะทำ ฮิคคัพกลับเลือกที่จะช่วยชีวิตเขี้ยวกุดและค่อยๆ สร้างความผูกพันกับมังกรตัวนี้ มิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นระหว่างมนุษย์กับมังกรที่ไม่น่าจะเป็นไปได้นี้ ทำให้ฮิคคัพเริ่มตั้งคำถามกับความเชื่อเดิมๆ ของเผ่า และค่อยๆ ค้นพบว่ามังกรไม่ได้เป็นเพียงสัตว์ป่าดุร้ายอย่างที่ทุกคนคิด ฮิคคัพและเขี้ยวกุดต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งจากความไม่เข้าใจของชาวเผ่า และจากมังกรตัวอื่นๆ ที่สร้างความวุ่นวาย ฮิคคัพต้องใช้ความรู้ความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับมังกร และความกล้าหาญที่ซ่อนอยู่ภายใน เพื่อเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของชาวเผ่า และพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่ามนุษย์และมังกรสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ภาพยนตร์จะพาเราไปสำรวจการเดินทางของฮิคคัพในการค้นหาตัวตน ความหมายของความกล้าหาญ และการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างสองโลกที่เคยเป็นศัตรูกัน ให้กลายเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา วิเคราะห์ วิจารณ์ จุดเด่น ความเคารพต้นฉบับอย่างแท้จริง: นี่คือจุดที่หลายคนยกให้เป็นข้อดีอันดับหนึ่ง ผู้กำกับ Dean DeBlois ซึ่งเคยกำกับหนังชุดนี้ทั้งสามภาค ได้กลับมารับหน้าที่ในเวอร์ชั่นคนแสดงด้วย ทำให้หนังมีความซื่อสัตย์ต่อเนื้อเรื่องหลัก, ตัวละคร, และบรรยากาศของภาคแรกเกือบทุกรายละเอียด หลายฉากที่เป็นสัญลักษณ์ เช่น ฉากการสร้างมิตรภาพระหว่างฮิคคัพกับเขี้ยวกุด หรือฉากการบินที่น่าตื่นเต้น ถูกนำมาสร้างใหม่ได้อย่างน่าประทับใจและให้ความรู้สึกเหมือนเดิม งานสร้างและภาพสุดอลังการ: มังกรและงานภาพกราฟิก ถือว่าทำออกมาได้สมจริงและสวยงามมากๆ รายละเอียดของตัวมังกร, ทิวทัศน์อันงดงามของเกาะเบิร์ก และฉากการต่อสู้ ดูยิ่งใหญ่ตระการตาในแบบฉบับคนแสดง ทำให้ประสบการณ์การรับชมในโรงภาพยนตร์ แนะนำว่าจัด IMAX ไปเลยจะคุ้มค่าและ ฟินมากๆ (โดยเฉพาะฉากบิน) การแสดงที่น่าเชื่อถือ: Mason Thames ในบท ฮิคคัพ และ Nico Parker ในบท แอสทริด ได้รับคำชมว่าสามารถถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะ Mason ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นเด็กหนุ่มขี้อายแต่มีความมุ่งมั่นได้อย่างน่าประทับใจ ส่วน Gerard Butler ที่มารับบทเป็น สตอยค์ หัวหน้าเผ่า ก็สื่ออารมณ์ถึงความดุดัน แข็งแกร่งและอบอุ่นไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เรียกได้ว่าไม่ฝืนเลยตอนไปดู นักแสดงถ่ายทอดออกมาได้ดี จุดด้อย (ที่มองผ่านก็ได้) การเคารพต้นฉบับ: บางคนอาจจะรู้สึกว่าภาพยนตร์ไม่มีอะไรใหม่ หรือเซอร์ไพรส์มากนัก เหมือนเป็นการ "Remaster" มากกว่าการ "Remake" ที่มีการตีความใหม่ทั้งหมด เลยอาจจะมีความรู้ลึกเล็กๆที่จะไม่ตื่นเต้น เพราะทราบเนื้อเรื่องหลักๆกันอยู่แล้ว ความยาวของภาพยนตร์: บางคนอาจรู้สึกว่าหนังมีความยาวกว่าฉบับแอนิเมชั่นเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้รู้สึกยืดไปบ้างในบางช่วง สรุป How to Train Your Dragon (2025) นี่ไม่ใช่แค่การรีเมค แต่เป็นการคืนชีวิตให้กับตำนานที่อยู่ในใจใครหลายคน คุณจะได้สัมผัสกับงานสร้างที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ฉากบินที่ให้อารมณ์เสมือนทะยานไปบนท้องฟ้าเคียงข้างมังกร และการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกอันลึกซึ้งผ่านการแสดงของนักแสดงที่ถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ ทุกองค์ประกอบล้วนถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยความเคารพต่อเรื่องราวที่แฟนๆ ทั่วโลกรัก ไปสัมผัสประสบการณ์เหนือจินตนาการ มิตรภาพที่ตรึงใจ และการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ แล้วคุณจะรู้ว่า...มังกรไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเสมอไป คะแนน 8.5 / 10 ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก Facebook:HowToTrainYourDragonMovies ภาพปก / 1 / 2/ 3 / 4 / จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !